บท
ตั้งค่า

13 มันก็แค่อดีต

เมคินกลับถึงห้องเกือบจะเที่ยงคืน คิดว่ายังไงทิวาก็คงหลับไปแล้ว แต่พอเปิดประตูห้องเขาไป ทิวาก็นั่งอยู่บนโซฟา ใบหน้าดูดีใจที่เห็นเขา ชายหนุ่มจึงเดินเข้ามานั่งคุยด้วย

“ทำไมยังไม่นอน”

“ยังไม่ง่วงครับ” อันที่จริงก็รอเขานั่นแหละ แต่ไม่กล้าบอก

“ทิว ทำไมอยู่ดีๆ ถึงอยากออกกำลังกาย” เมื่ออีกคนบอกไม่ง่วงเขาก็ชวนคุย

“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ก็แค่อยากหุ่นดีแบบพี่คินเท่านั้นเอง”

“หุ่นนายก็ดีอยู่แล้วนี่”

ทิวาเป็นคนที่หุ่นดีคนหนึ่งอาจจะดูตัวเล็กกว่าเขาอยู่บ้าง แต่มันก็ดูสมส่วน ไม่ได้เก้งก้างหรือผอมจนเกินไป

“ผมอยากมีซิกซ์แพกเหมือนพี่ มันเซ็กซี่ดี”

“งั้นพี่ก็เซ็กซี่ใช่ไหม” ถามแล้วก็อมยิ้ม

คำชมนี้เมคินเคยได้ยินมาก็บ่อย แต่พอฟังจากปากของทิวาแล้วมันทำให้เขารู้สึกดีกว่าครั้งไหน

“คงงั้น” เขาตอบพร้อมก้มหน้าไม่กล้าสบสายตา เพราะไม่เคยชมผู้ชายด้วยกันมาก่อน แต่พอชมไปแล้วก็รู้สึกเขินตัวเอง

เมคินเห็นอย่างนั้นเลยเปลี่ยนเรื่องคุย

“ที่บริษัทมีสาวๆ คนไหนถูกใจบ้างไหม” เพราะได้ข่าวเข้าหูมาบ่อยๆ ว่าทิวาเป็นขวัญใจของสาวๆ ในบริษัท

“ไม่มีครับ”

เขายังไม่คิดจะคบหากับใครตอนนี้ เพราะตัวเองยังไม่มั่นคงพอจะให้ใครมาลำบากด้วย อีกอย่างทุกวันนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว

“เคยมีแฟนไหม” อยู่ๆ ก็นึกอยากถาม อยากรู้เรื่องราวในอดีต เผื่อว่าบางทีจะหาทางเข้าใกล้ได้มากขึ้น

“เคยครับ” ทิวาตอบอย่างไม่ปิดบัง

“แล้วตอนนี้ล่ะ ยังคบกันอยู่ไหม” เพราะตั้งแต่มาอยู่เขาไม่เคยเห็นทิวาติดต่อเพื่อน คนรัก หรือครอบครัวเลยสักครั้ง

“เลิกแล้วครับ” คนตอบสีหน้าดูไม่ดีเท่าไหร่

“จบไม่สวยเหรอ เล่าให้ฟังได้ไหม”

“พี่อยากฟังเหรอครับ”

“อือ”

ทิวาเล่าเรื่องระหว่างเขากับแฟนสาวที่คบกันมานาน ถึงขั้นวางแผนการใช้ชีวิตร่วมกัน แต่สุดท้ายแฟนสาวก็ขอเลิกเพราะทางบ้านไม่เห็นด้วยที่จะมาคบกับคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า แต่ที่เจ็บที่สุดไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ เมื่อเขาบังเอิญไปรู้ว่าแฟนของเขานั้นกำลังคบกับคนอื่นอยู่ด้วย

“นายคงเสียใจมาก และมันเป็นเหตุผลให้นายลงมาทำงานที่กรุงเทพด้วยหรือเปล่า”

“ผมเลิกกับแอน แต่ยังทำงานที่เดียวกัน ผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอแล้ว แต่ดูเหมือนแฟนใหม่ของเธอจะระแวงมาก ผมทำงานอย่างไม่มีความสุข เพราะไม่ว่าจะขยับไปทางไหนก็มีแต่คนจ้องจะจับผิด เลยคิดว่าลาออกแล้วมาหางานทำที่กรุงเทพดีกว่า”

“ครอบครัวนายล่ะ”

“ผมเป็นเด็กกำพร้า”

“พี่ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจให้นายรู้สึกไม่ดี”

“พี่รู้ไหม ทำไมผมถึงย้ายมาอยู่กับพี่ทั้งๆ ที่ได้รู้จักกันเพียงไม่กี่วัน”

“ทำไม” เขาเองก็อยากรู้

“เพราะพี่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย รู้สึกว่าผมไม่ได้ตัวคนเดียว” ทิวาพูดพร้อมกับพิงศีรษะมาบนไหล่ของเขา

คนน้องยังคงเล่าเรื่องราวในอดีตต่อไปเรื่อยๆ ส่วนคนพี่ก็ได้แต่นั่งฟังด้วยใจที่เต้นแรง เขากางมือวางบนพนักโซฟา ตอนนี้ก็เลยเหมือนว่าทิวานั้นอยู่ในอ้อมกอดของเขา

ชายหนุ่มเล่าถึงชีวิตตัวเองในวัยเด็ก เขาไม่รู้พ่อกับแม่เป็นใครมาจากไหน เพราะตั้งแต่จำความได้ตัวเองก็อยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า การใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น แม้จะมีที่พักและอาหารให้ครบทั้งสามมื้อแต่ก็ต้องช่วยงานแม่ครู ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งต้องดิ้นรนมากขึ้น

พอเรียนจบชั้นมัธยมปีที่ 3 ทุกคนก็ต้องแยกย้ายกันออกไปใช้ชีวิต แต่ทิวาเป็นเด็กดีและช่วยเหลืองานแม่ครูได้ดี เขาจึงได้พักอยู่ที่นั่นต่อและขอทุนเรียนระหว่างนั้นก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย

“นายเก่งมากนะทิว ที่เรียนจนจบ”

“เพราะความจนมันบีบบังคับมากกว่าครับ”

“แล้วที่นั่นสอนภาษาอังกฤษให้นายด้วยหรือเปล่า” เมคินสังเกตว่าทิวาใช้ภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดี แต่ยังติดเรื่องสำเนียงอยู่บ้าง

“ผมเรียนเพิ่มเองครับ หาอ่านหนังสือตามห้องสมุด”

“เพราะอะไรถึงสนใจเรียน”

“พี่จำได้ไหมครั้งแรกที่ทักผมเป็นภาอังกฤษ”

“อือ จำได้สิ หน้าแตกตั้งแต่ครั้งแรกเลย”

“ก็เพราะทุกคนคิดว่าผมไม่ใช่คนไทย เลยคาดหวังว่าผมจะต้องเก่งภาษาอังกฤษ ตอนเรียน ม.4 เพื่อนต่างคิดว่าผมต้องเก่งมาก แต่มันตรงกันข้าม ผมถูกหัวเราะเยาะจนแทบไม่อยากไปเรียน แต่ครูประจำชั้นก็คอยเตือนสติ จากนั้นผมเลยหาความรู้เพิ่ม แต่มันก็ได้แค่ไวยากรณ์ คำศัพท์ ส่วนสำเนียงมันก็ตามที่พี่เคยได้ยินนั่นแหละ”

“อยากเรียนภาษาเพิ่มไหม”

“พี่ ผมอายุเยอะแล้วขืนไปเรียนอายเด็กแย่”

“เรียนออนไลน์ไง”

“ผมจะเอาเวลาไหนไปเรียนล่ะครับ”

“ก็ตอนเย็นหลังเลิกงาน”

“ผมก็บอกพี่แล้วว่าผมจะไปฟิตเนส”

“นายลองคิดดูนะเวลาออกไปข้างนอกนายต้องใช้ภาษาอังกฤษเพื่อติดต่อสื่อสาร ไม่ได้ไปเปิดเสื้อให้คนอื่นดูสักหน่อย แล้วหุ่นนายก็ไม่ได้น่าเกลียด พี่ชอบแบบนี้”

“งั้นผมเรียนก็ได้”

ทิวาตอบตกลงอย่างง่ายดาย เพียงเพราะได้ยินเขาบอกว่าชอบแบบนี้ แม้ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเท่าไหร่ ว่าทำไมต้องรู้สึกดีและใจเต้นแรงทุกครั้งที่อยู่ใกล้เมคิน บางทีคงเป็นเพราะในชีวิตเขาไม่เคยใกล้ชิดกับใครมากขนาดนี้มาก่อน แม้กระทั่งแฟนสาว เพราะส่วนใหญ่ก็นัดเจอกับข้างนอก ไม่เคยนั่งใกล้ชิดตัวติดแบบนี้ แล้วทิวาก็รู้สึกตัวว่าตอนนี้เขากำลังนั่งพิงผู้ชายอีกคนอยู่

แต่แทนที่จะขยับออกเขากลับตีมึนนั่งอยู่ต่อ เพราะรู้สึกดี รู้สึกอบอุ่นปลอดภัย จนอยากนั่งอยู่แบบนี้นานๆ มื้อที่อยู่ค่อยๆ กอดเขาไปทีละนิด

เมคินแทบอยากหยุดเวลาไว้เพราะเป็นครั้งแรกที่ใกล้ชิดกันนานขนาดนี้ ถ้าเป็นคนอื่นเมคินคงคิดว่าคนที่พิงเขาอยู่กำลังอ้อนเอาอะไรจากเขา แต่กับทิวาเขารู้ดีว่าชายหนุ่มไม่ได้คิดอย่างนั้น

“ทิว เคยคิดอยากตามหาพ่อกับแม่ไหม”

“แต่ก่อนคิดครับ แต่พอโตขึ้นก็เลิกคิดแล้ว”

“ทำไม”

“ถ้าพ่อกับแม่เขาอยากเจอผมหรือยังคิดว่าผมเป็นลูกก็คงไม่ทิ้งไว้ตั้งแต่แรก”

“ไม่คิดบ้างเหรอว่าเขาอาจมีความจำเป็น”

“ไม่รู้สิครับ มันจะมีอะไรจำเป็นและสำคัญกว่าลูกตัวเองเหรอครับพี่คิน”

เมคินไม่รู้จะหาคำตอบให้กับทิวายังไง เขารู้ว่าสิ่งที่พูดออกไปจะทำให้ชายหนุ่มไม่สบายใจ แต่เพราะอยากให้ทิวาได้พูดได้ระบายความในใจออกมาบ้าง เขาไม่อยากเห็นนัยน์ตาเศร้าของทิวาอีกต่อไป

“อย่าคิดมากเลย เรื่องมันผ่านมาแล้วจากนี้นายก็คิดว่าพี่เป็นครอบครัวของนายก็แล้วกันนะ”

“ได้เหรอครับ”

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ หรือนายไม่อยากให้พี่เป็นครอบครัวด้วย”

“อยากสิ”

คนตอบดีใจจนเผลอกอดร่างหนาขยับเข้าใกล้กว่าเดิมจนหัวใจเขาเต้นแรงอีกครั้งทั้งที่เมื่อครู่มันเต้นเป็นจังหวะปกติไปแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel