10 เรียนรู้ไปทีละนิด
ระยะทางจากคอนโดมาถึงบริษัทไม่ได้ไกลมากแต่ก็ใช้เวลาเดินทางถึง 45 นาที ทิวาทำหน้าที่เป็นคนขับโดยมีเมคินคอยบอกทาง พอถึงบริษัทเขาก็จอดให้เจ้านายลงด้านหน้า
“นายเอารไปเก็บตรงที่จอดรถผู้บริหารนะ มันจะที่ประจำอยู่ ดูตามเลขทะเบียน”
“ครับ ผมตรงไปแผนกบุคคลเลยใช่ไหมครับ”
“อือ แล้วเจอกันข้างบนนะ”
“ครับ”
เขาวนรถไปจอดตามที่เมคินบอก จอดรถนั้นหาไม่ยากเพราะมีชื่อและป้ายทะเบียนรถติดอยู่ เมคินไม่ได้บอกเขาว่าตัวเองเป็นรองประธานบริษัท และเป็นบริษัทขนาดใหญ่เสียด้วย เขาเองก็ลืมถาม แล้วตอนนี้เขาจะถอนตัวทันไหม
แต่คิดว่าถ้าถอนตัวไปตอนนี้เมคินอาจจะผิดหวังเพราะอุตส่าห์ชวนให้มาทำงานด้วย
“เอาวะ ไม่ลองก็ไม่รู้”
ทิวาสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะลงจากรถแล้วตรงไปยังฝ่ายบุคคลเพื่อรายงานตัวตามที่เมคินบอก
เขาขึ้นมายังฝ่ายบุคคลจากนั้นส่งเอกสารและรายงานตัวกับหัวหน้าฝ่ายบุคคล รับทราบขอปฏิบัติระหว่างทดลองงานรวมถึงอัตราเงินเดือน
“ทำไมเงินเดินถึงสูงจังล่ะครับ”
ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะกลัวว่าเมคินจะเป็นคนกำหนดเงินเดือนให้ ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่สบายใจเข้าไปอีก
“ไม่สูงหรอก ตามอัตราปกติ แต่ที่ดูสูงเพราะคุณพ่วงตำแหน่งคนขับรถด้วย”
“อ๋อ ครับ” เขาพยักหน้าเข้าใจ
อันที่จริงเรื่องขับรถเขาไม่ได้ลำบากอะไรเลย เพราะเขาก็พักที่เดียวกับเจ้านายอยู่แล้ว แต่ถ้าพูดออกไปคงไม่เป็นผลดีแน่ๆ เขากลัวว่าคนอื่นจะมองว่าเมคินใช้อำนาจฝากเขาเข้ามาทำงาน
“มีอะไรจะถามอีกไหม ถ้ายังนึกไม่ออกก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าสงสัยตรงไหนให้มาถาม อย่าคิดเอง เดาเองหรือถามคนอื่นเพราะบางเรื่องก็พูดกันไปเรื่อยเปื่อย ที่นี่พนักงานเยอะ ถ้าทำดีก็แค่เสมอตัว แต่ถ้าพลาดขึ้นมาทีหนึ่ง คนที่คอยเหยียบย่ำซ้ำเดิมก็มีเยอะ”
“ครับ ผมจะจำไว้”
“เมื่อได้โอกาสแล้วก็ทำให้เต็มที่ ตำแหน่งเลขามันไม่ยากถ้าเราตั้งใจและใส่ใจในเนื้องาน แต่ที่ลาออกกันไปหลายคนก็เพราะสนใจอย่างอื่นมากกว่างานนี่แหละ พี่หวังว่าทิวาคงจะทำงานกับบอสได้นานกว่าคนอื่น”
“ขอบคุณครับ ผมก็หวังอย่างนั้น”
หัวหน้าฝ่ายบุคคลให้ชายหนุ่มไปที่ห้องของฉัตรภพก่อนเพราะชายหนุ่มต้องไปเรียนรู้งานและรับงานต่อจากฉัตรภพก่อนจะเริ่มงาน
ทิวามายืนหน้าห้องของฉัตรภพ เขาเคาะประตูเบาๆ พอได้ยินเสียงขานรับเขาก็เปิดประตูเข้าไปทันที
ฉัตรภพเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคม คิ้วเข้มจัดว่าเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาคนหนึ่ง แต่เทียบกับเมคินก็ถือว่าเขาหล่อน้อยกว่านิดหน่อยและตัวก็เหมือนจะเล็กกว่า เมคินไม่ใช่แค่หล่ออย่างเดียวเพราะเขาดูมีเสน่ห์ขนาดเขาเป็นผู้ชายยังแอบมองอยู่บ่อยครั้ง ไหนจะกล้ามแน่นๆ ที่ซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวทำให้ทิวาอดอิจฉาไม่ได้
“สวัสดีครับ ผมทิวาครับ”
“อือ สวัสดี นั่งลงก่อน ผมทำงานอีกนิด” ฉัตรภพเงยหน้ามองเลขาคนใหม่ของเมคินที่จะมาฝึกงานกับเขา แล้วก็ก้มหน้าทำงานต่อ
ทิวาจัดว่าเป็นคนหนุ่มหน้าตาดีมากคนหนึ่งเลยทีเดียว ผิวของชายหนุ่มขาวใบหน้าดูเหมือนลูกครึ่งแต่ในประวัติที่ฝ่ายบุคคลเพิ่งส่งไฟล์มาไม่ได้บอกว่าเขาเป็นลูกครึ่งและในนั้นยังบอกอีกว่าเขาโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาไม่แน่ใจว่าเมคินจะรู้หรือเปล่า แต่มันก็ไม่สำคัญ เพราะเขารู้จักนิสัยของเพื่อนดีว่าเป็นคนยังไง
ชายหนุ่มให้ทิวาฝึกดูตารางงานในไอแพดที่เตรียมไว้จากนั้นก็ให้เขาศึกษารายชื่อผู้บริหาร ทั้งที่เข้ามาทำงานในบริษัทและคนที่เข้ามาแค่ตอนประชุมสำคัญ นอกจากนั้นเขาต้องจำหัวหน้าแผนกต่างในบริษัทให้ครบเพราะต้องเป็นคนประสานงานกับทุกแผนก
“ไม่ต้องจำทีเดียวหมดหรอก ค่อยๆ จำไปทีละนิด”
“แล้วคู่ค้าก็ต้องจำด้วยใช่ไหมครับ”
“อืม จำไม่ได้ก็เปิดดู ที่สำคัญต้องจำให้ได้ด้วยนะว่าแต่ละคนมีเลขาชื่ออะไรบ้าง”
“ครับ”
เขานั่งศึกษาข้อมูลในไอแพดอยู่พักใหญ่ก่อนฉัตรภพจะเก็บแฟ้มเอกสารเข้าที่แล้วก็เดินนำทิวาไปยังห้องทำงานของรองประธานบริษัท เคาะประตูพอเป็นพิธีก็เปิดเขาไปโดยเจ้าของห้องยังไม่ได้อนุญาต
“อ้าวมาแล้วเหรอ”
“ครับ วันนี้บอสมีประชุมตอน 10 โมง จะให้ผมกับทิวาเข้าด้วยไหม”
“ไม่ต้องหรอก แค่ประชุมแผนกประจำเดือน ระหว่างที่ผมประชุมคุณสอนงานทิวาก็แล้วกัน
“ครับ”
“ทิวา ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ถามคุณภพนะ”
“ครับ บอส” ทิวาเรียกตามฉัตรภพ
“ผมขอตัวก่อนนะครับบอส”
ทิวาเดินตามฉัตรภพออกมา จากนั้นเขาก็พาไปแนะนำแผนกต่างให้กับชายหนุ่มได้รู้จัก ก่อนจะกลับมาที่ห้องของฉัตรภพอีกครั้ง
“ทิวา เรียกผมพี่ภพก็ได้ ผมคงอายุมากกว่าคุณหลายปี”
“ครับพี่ภพ พี่ก็เรียกผมทิวก็ได้”
“เอาละเดี๋ยวพี่จะเริ่มสอนไปทีละนิดนะ ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถาม อันที่จริงพี่ไม่ได้เป็นเลขามาก่อน เพียงแต่คุณเมคินยังหาเลขาไม่ได้พี่เลยต้องมาช่วยงาน”
“ครับ”
“ปกติเป็นคนพูดน้อยอย่างนี้เหรอ”
“ไม่นะครับ แต่ผมเพิ่งมาทำงานวันแรก ถ้าทำงานไปนานพี่อาจจะรำคาญผมก็ได้”
“พี่คงไม่รำคาญนายหรอก พี่ชินแล้ว” ฉัตรภพยิ้มเมื่อนึกถึงคนรักที่ช่างพูดช่างเอาใจจนเขาหลงหัวปักหัวปำอยู่ตอนนี้
ฉัตรภพสอนอะไรไม่ได้มากเพราะเขาก็เพิ่งมาทำงานตำแหน่งนี้ได้ไม่นาน เน้นไปที่เรื่องงาน ส่วนเรื่องเจ้านายชอบอะไรไม่ชอบอะไร ดื่มกาแฟแบบไหนหรือชอบทานอะไร เขาไม่ได้บอกเพราะอยากให้ทิวาเรียนรู้ด้วยตนเอง
“พี่ภพครับ ทำไมมันไม่เหมือนที่ผมอ่านมาเลย”
“ไม่เหมือนยังไง”
“ก็ที่อ่านมาเลขาต้องรู้ทุกอย่างของเจ้านายเกือบทุกอย่าง เช่นพวก อาหารที่ชอบ กาแฟ เสื้อผ้า ที่เที่ยวประจำอะไรพวกนั้น”
“เรื่องพวกนั้นนายต้องเรียนรู้เองเพราะพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“นอกจากพี่แล้วผมถามใครได้อีกบ้าง”
“คุณวีณาน่าจะพอรู้ แต่ถ้าจะให้ดีนายเรียนรู้เองดีกว่าไหม หรือไม่ก็ถามบอสตรงๆ ไปเลยว่าชอบอะไรแบบไหน”
“ผมไม่กล้าถาม”
“ถ้านายไม่กล้าใครจะกล้า เลขามีหน้าที่ต้องทำตามคำสั่งและทำงานให้ถูกใจบอส แต่ถ้าไม่ถามจะรู้ได้ยังไงว่าบอสชอบอะไร ชอบแบบไหน พี่ว่าถามๆ ไปเถอะ บอสใจดีเชื่อพี่”
“ครับ” ทิวเชื่อว่าบอสเป็นคนใจดี แต่ตอนนั้นเขายังไม่ได้เป็นเลขา ยังไม่ได้รับเงินเดือน
“เอาน่า ค่อยๆ เรียนรู้ไปยังไม่ต้องเครียด”
ทิวานั่งอยู่ในห้องฉัตรภพจนถึงเวลาอาหารกลางวัน
“ปกติแล้วบอสจะทานอาหารในห้องมีร้านที่สั่งมาทานประจำอยู่ ส่วนทิวก็ไปทานที่โรงอาหารกับคนอื่นๆ แต่ต้องสับกันไปกับคุณวีณานะ เพราะหน้าห้องบอสต้อง มีอย่างน้อยหนึ่งคนคอยรับโทรศัพท์”
“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมต้องไปเฝ้าหน้าห้องใช่ไหมครับ คุณวีณาจะได้ไปทานข้าว”
“วันนี้คงไม่ต้องรับไปเฝ้า บอสบอกว่าจะไปทานข้าวข้างนอก”
“ครับ”
“ครับแล้วยังนั่งทำไมอยู่ตรงนี้ ถ้าบอสจะไปข้างนอกนายก็ต้องไปด้วย”
“เหรอครับ งั้นผมไปก่อนนะครับพี่ภพ ขอบคุณนะครับ” ทิวายกมือไหว้แล้วรีบวิ่งกลับไปยังห้องทำงานของท่านรองประธาน