ตอนที่3 คนที่เหมาะสม
ชลิสาตื่นขึ้นมาในเช้าตรู่ของวันก่อนจะเตรียมอาหารเช้าไว้ให้กับคชา ส่วนเธอก็รีบอาบน้ำแต่งตัวและกลับบ้านไปช่วยงานที่บ้านใหญ่ทันทีเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ แม้ว่าจะไม่ใช่หน้าที่หลักของเธอ แต่เธอก็อยากแบ่งเบาแม่ของเธอให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
“มาแต่เช้าเลยนะลูก” จันดาเอ่ยทักลูกสาวขึ้นเมื่อเห็นชลิสากลับมาที่บ้านในเวลาเช้าของวัน
“ลิสาอยากกลับมาช่วยงานแม่นี่จ้ะ” ร่างบางพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มสดใสเหมือนอย่างเคย แม้ว่าร่างกายของเธอจะไม่เป็นใจ แต่เธอก็ไม่อยากทำให้แม่ของเธอเป็นห่วงหรือสงสัย และไม่อยากให้ใครจับสังเกตได้ว่ามีบางอย่างของเธอเปลี่ยนไป
“ไปพักก่อนเถอะ เมื่อคืนทำงานดึกดื่น แล้วนี่ยังจะตื่นเช้ากลับบ้านอีก” ผู้เป็นแม่เอ่ยไล่ลูกสาวขึ้นด้วยความเป็นห่วงทันที แต่มันกลับยิ่งทำให้ชลิสารู้สึกผิดกับแม่ตัวเอง
“ลิสาไม่เหนื่อยหรอกจ้ะ เดี๋ยวลิสาเอาของไปเก็บก่อนนะ” พูดจบชลิสาก็เดินไปยังห้องนอนด้านหลังของแม่บ้านทันที ห้องที่เธออยู่กับแม่ของเธอสองคน และเพราะเธออาศัยอยู่ในห้องกับแม่ของเธอ ทำให้เธอต้องคอยแอบกินยาคุมอยู่เกือบทุกครั้งไป เพราะเธอต้องศึกษาและกินมันมาตั้งแต่อายุสิบเจ็ดปีนั่นเอง
ชลิสาเก็บของและไม่ลืมเช็คความเรียบร้อยในร่างกายของเธออีกครั้งก่อนจะออกไปช่วยงานแม่ของเธอและแม่บ้านคนอื่นๆอย่างที่เธอชอบทำมาตั้งแต่เด็กๆจนโตจนเป็นนิสัย
และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยร่างบางก็กลับห้องไปพักผ่อนทันที เพราะเธอก็ฝืนร่างกายไปไม่น้อยเลยทีเดียว จนกระทั่งเวลาสิบโมงกว่าๆของวันที่ชลิสารู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ก่อนจะรู้ว่าแม่บ้านต่างพากันเร่งมือช่วยกันทำอาหารเพราะวันนี้คุณท่านของบ้านมีแขกมากินข้าวเที่ยงด้วยนั่นเอง
ชลิสารีบเข้าไปช่วยงานตามหน้าที่ของเธอจนทุกอย่างเสร็จสิ้นลงก่อนเธอจะช่วยแม่บ้านรุ่นพี่ยกอาหารออกไปตั้งโต๊ะเมื่อได้รับคำสั่ง และพอเธอเดินออกมาที่ห้องกินข้าวเธอก็ได้ยินเสียงพูดคุยและหัวเราะกันอย่างมีความสุข แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่งผู้เป็นเจ้านายและแขกพากันเข้ามายังห้องกินข้าว
“ตักข้าวเลย” คุณผู้หญิงของบ้านสั่งขึ้นพร้อมกับเธอที่รับหน้าที่รินน้ำ เมื่อหน้าที่ของแม่บ้านอย่างพวกเธอเสร็จลง ก็พากันแยกย้ายเข้าไปยังครัวอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถไปไหนไกลได้เพราะเจ้านายอาจจะเรียกใช้หรือต้องการอะไรนั่นเอง ทำให้เสียงพูดคุยจากห้องกินข้าวที่ประตูเชื่อมกันกับห้องครัวดังเข้ามา
“หนูลินพร้อมจะให้พี่คชาดูแลหรือยังลูก ป้าอยากได้หนูมาเป็นลูกสะใภ้จนรอแทบไม่ไหวแล้วนะ” เสียงของคุณผู้หญิงที่เอ่ยขึ้นอย่างเอ็นดูดังแว่วเข้ามาในหูของชลิสา แต่เธอจะไม่ตกใจเลยถ้าคำพูดนี้กำลังบอกอะไรเธอบางอย่างอยู่ และใช่ คชาเองก็กลับมาที่บ้านและอยู่ร่วมมื้อเที่ยงนี้เช่นกัน
“ลินก็คงต้องถามพี่คชามากกว่าค่ะ ว่าอยากจะดูแลลินหรือเปล่า”
“เห็นแบบนี้รายนี้ค่อนข้างดื้อเลยล่ะค่ะคุณพี่ น้องกลัวว่าตาคชาจะรำคาญยัยลินเอาได้”
“แต่ผมก็ดุมากนะครับ” เสียงของคชาเอ่ยขึ้นติดตลก และนั่นก็ทำให้ร่างบางที่ยืนอยู่ในห้องครัวตัวชาวาบไปทั้งตัว
“ดุแบบนี้ก็ดีเลยจ้ะ เพราะป้าเองก็ไม่ไหวจะพูดกับลูกคนนี้จริงๆ”
“งั้นแบบนี้พี่ว่าต้องให้ตาคชาช่วยดัดนิสัยหนูลินหน่อยแล้วเป็นไง”
“ถ้าไม่รบกวนคชาเกินไป น้าฝากเราช่วยอบรมดัดนิสัยน้องด้วยได้ไหมลูก อยู่บ้านพ่อเขาค่อนข้างตามใจ ป้าพูดอะไรไม่ได้ ให้ท้ายกันตลอด”
“คุณแม่คะ~” เสียงออดอ้อนอย่างน่ารักสดใสดังขึ้น ก็คงไม่แปลกถ้าเธอจะถูกคุณผู้หญิงเอ็นดู
“ว่าไงตาคชา เราจะช่วยน้ารินทร์ดัดนิสัยน้องได้ใช่ไหม” แต่พอเสียงของคุณผู้หญิงของบ้านดังขึ้น ร่างบางของชลิสาก็เผลอเกร็งขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เธอกำลังรอฟังคำตอบจากเขาคนนั้น เธออยากรู้ว่าคำตอบจากคชาจะเป็นยังไง
“ลิสาลูก”
“จ้ะแม่” ร่างบางสะดุ้งเพราะเสียงเรียกและแรงสะกิดของผู้เป็นแม่ทันที
“ออกไปเติมน้ำให้คุณๆหน่อยลูก” เพราะการเป็นแม่บ้านก็ต้องคอยสอดส่องดูว่าอะไรขาดเหลือและต้องรีบไปทำหน้าที่ของตัวเองเพื่อไม่ให้ถูกตำหนิเอาได้นั่นเอง
“จ้ะ” แม้ว่าเธอจะไม่อยากออกไป แต่หน้าที่ของเธอที่ทำประจำมันก็ควรต้องทำ
และการออกมาครั้งนี้นอกจากแก้วน้ำบนโต๊ะแล้วชลิสาก็ไม่กล้ามองอะไรอีกเลย เธอไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นสูงกว่าระดับแก้วน้ำเพราะกลัวจะเผลอสบตากับคชาได้ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นเธอเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงและทำหน้ายังไงเธอกลัวว่าตัวเองจะทำตัวไม่ถูก สุดท้ายร่างบางก็เดินเข้ามาเติมน้ำในแก้วบนโต๊ะที่มีปริมาณลดลง
“พี่คชาคิดนานขนาดนั้นเลยหรอคะ” น้ำเสียงออดอ้อนน้อยอกน้อยใจดังขึ้น
“ทำน้องน้อยใจแล้วไงเรา” เสียงของคุณผู้หญิงดังขึ้นอีกครั้ง และนั่นก็ทำให้คชาตอบสิ่งที่ทุกคนรวมถึงชนิสารอฟังอยู่ออกมา
“หึ ผมยังไงก็ได้ครับ เพราะเด็กยิ่งดื้อ ผมยิ่งอยากลอง”
เคร้ง! เสียงเหยือกกระทบกับแก้วดังขึ้น ดีที่ชลิสาประคองไว้ได้ทันทำให้น้ำไม่หกเหยือกไม่ตกลงพื้น
“ขอโทษค่ะ” เธอรีบเอ่ยคำขอโทษออกมาทันที
“ระวังหน่อยสิ” คุณผู้หญิงของบ้านตำหนิชลิสาขึ้นทันทีเมื่อเผลอทำเหยือกกระทบแก้วเสียงดัง
“ขอโทษค่ะ” ชลอสาเอ่ยออมาอีกครั้งก่อนจะก้มหน้าเดินกลับเข้าไปในห้องครัว โดยที่มีสายตาของคชามองตามพร้อมรอยยิ้มมุมปากที่ไม่มีใครเห็น
“โถ่พี่คชา พูดแบบนี้ลินก็กลัวสิคะ ไม่ใช่ว่าเตรียมไม้เรียวไว้ตีลินด้วยหรอกน๊า”
“หึหึ ยัยลูกคนนี้นี่”
“ก็ถ้าลินไม่ดื้อเกินไป ลินก็ไม่ถูกพี่ตีแน่นอน” เสียงพูดคุยกลั้วหัวเราะที่ดังขึ้นทำให้คนฟังรับรู้ได้อย่างง่ายดายว่าพวกเขามีความสุขกันแค่ไหน
ส่วนลูกสาวแม่บ้านที่ถูกเจ้านายเกลียดอย่างเธอก็คงทำได้แค่ยืนฟัง ฟังว่าผู้ชายที่เธอรักมีคู่หมายที่เหมาะสมและคู่ควรกับเขาแล้วนั่นเอง และไม่นานมันก็คงหมดหน้าที่ของของเล่นอย่างเธอแล้วสินะ