5
ขณะที่เขากระทำเรื่องเลวร้ายต่ออิ่นสิงอี้ ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันที่มีของแข็งตีเข้าด้านหลังศีรษะคนผู้นั้นอย่างแรง
หญิงสาวสลบไปเกือบหนึ่งชั่วยาม ก่อนจะมีเสียงร้องเรียก
“คุณหนู... อื้อ... คุณหนูรีบหนีไป!”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น เป็นเสียงซูซิน สาวใช้ที่ซื่อสัตย์ อนิจจานางอายุยังน้อยนิดเพียงสิบสี่ปีเท่านั้น แต่ถูกร่างกายใหญ่โตของบุรุษสาระเลวทำร้ายหนัก
อิ่นสิงอี้ได้ยินเสียงดังกล่าว ลอยเข้าหูอยู่อย่างนั้น ราวกับฝันร้ายหลอกหลอน กระทั่งลืมตาตื่น จึงพบว่านางอยู่ในห้องเก็บของเก่าๆ ที่มีกองฟืน และฟางหญ้า
เมื่อกวาดตามองห่างออกไป จึงเห็นร่างกายซูซินบอบช้ำ ถูกตบตี เนื้อตัวหลายแห่งถูกกัด เสื้อผ้าขาด ผมเผ้ายุ่งเหยิง ริมฝีปากแตก เบ้าตาข้างหนึ่งเป็นรอยเขียวช้ำ ซึ่งแม้ซูซินจะอับอาย แต่ก็ภูมิใจที่รักษาความบริสุทธิ์ของคุณหนูสาวสกุลอิ่นไว้ได้ ไม่ให้ตกเป็นของคนชั่ว แล้วถูกผลักไสออกจากจวนจิ่งอย่างไม่เป็นธรรม!
“มันไม่มีลมหายใจแล้วเจ้าค่ะ ตอนแรกบ่าวใช้ไม้ตีหัวมัน นึกว่าสิ้นฤทธิ์ แต่มันกลับไม่เป็นอะไร ซ้ำร้าย ยังมีแรงมาตบตีบ่าว กระทั่งมีโอกาสเหมาะ บ่าวเลยใช้มีดแทงที่หน้าอกมัน ฮื่อๆ ๆ”
เด็กสาวว่าและกำมีดสั้นไว้แน่น นางยอมเสียศักดิ์ศรี ยอมเป็นผู้ร้าย ซึ่งดีกว่ายอมให้อิ่นสิงอี้ถูกโยนความผิดที่นางไม่ได้กระทำ มิเช่นนั้น คุณหนูรองคงต้องเป็นทั้งเมียของคนชั่วผู้นี้ รวบถึงนางบำเรอให้กับขุนนางกังฉินในเมืองซานตง หลังจากถูกฮูหยินอิ่นใส่ตะกร้าล้างน้ำ จับแต่งออกไปเป็นอนุของผู้อื่น
ในขณะที่อิ่นสิงอี้ยังจับต้นชนปลายสิ่งใดไม่ได้ นางก็เห็นว่า ตนมีเพียงเสื้อเอี๊ยมปิดหน้าอกเอาไว้ จึงรีบสวมเสื้อผ้าตนให้เข้าที่ ขณะนั้นห่วงซูซิน ทั้งหวาดกลัวร่างที่นอนนิ่งอยู่บนกองฟางใกล้กับฟืนก็ด้วย และเมื่อขยับร่าง อิ่นสิงอี้ต้องร้องครางขึ้นมา
ไม่ใช่แค่ลำคอมีรอยเป็นจ้ำๆ แต่ท้องของนางลำยังปวดหน่วงๆ และข้อเท้ายังพลิกด้วย ก่อนที่นางจะสลบ ย่อมหมายความว่า อิ่นสิงอี้ต่อสู้กับคนร้ายอย่างหนัก เพื่อรักษาเกียรติของตน
“ไอ้ลูกหมาแซ่ปี้ ทำร้ายคุณหนูได้เพียงแค่ภายนอก ก่อนหน้านั้น มันดื่มสุราอย่างหนัก บุกเข้าไปฉุดหญิงเคราะห์ร้ายในบ้านที่ด้านล่างอารามไผ่เงิน พอมาถึงที่นี่มันก็ทำเรื่องบัดซบไม่หยุด ด้วยคิดวางยาแม่ชีเพื่อกระทำเรื่องชั่วอีก สุดท้ายมันจึงไปพบคุณหนู และหวังมาทำสิ่งที่ระยำเจ้าค่ะ”
สิ่งที่ซูซินบอก ทำให้หัวใจของอิ่นสิงอี้หดเกร็ง นางสงสารและเห็นใจสาวใช้ผู้นี้ เมื่อนางเตรียมก้าวไปหาอีกฝ่าย จึงเห็นว่ากางชั้นในตนเปื้อนเลือด พร้อมกันนั้น มีอาการวิงเวียนศีรษะ
“เกิดอะไรกับข้ากันแน่”
นางเอ่ยถามซูซิน...
“คนสารละเลวแซ่ปี้ มันหวังข่มเหงคุณหนู แต่รอบเดือนคุณหนูมาพอดี แม้อย่างนั้น มันยังชั่วช้า คิดขืนใจทางทวารหนัก... บะ บ่าวเข้ามาพบพอดี เลยฟาดศีรษะมันด้วยท่อนไม้ไปหนึ่งที ถึงอย่างนั้น ชายผู้นี้ก็มากตัณหา และมันยังคิดฆ่าปิดปากเราทั้งสองคนด้วยเจ้าค่ะ เพราะมันไม่ใช่คนใจซื่อ อย่างที่คุณหนูหลงกลในคำลวงของมันเจ้าค่ะ”
อิ่นสิงอี้สั่นไปทั้งร่าง นางไม่อยากเชื่อว่าเรื่องราวจะน่ากลัวและชวนให้ตระหนกเช่นนี้ และพอมองไปยังร่างที่นอนอยู่บนกองฟาง นางก็ทวนชื่อคนผู้นั้น
“ปี้เหวินถง...”
“ใช่เจ้าค่ะ... คุณหนูนัดให้มันมาที่นี่ เพื่อจะหลบหนีไปด้วยกัน!”
สายฟ้าฟาดใส่ร่างเป็นเช่นไร ยามนี้อิ่นสิงอี้รู้ซึ้งแล้ว
โอ้ เมื่อก่อน อิ่นสิ่งอี้ช่างเป็นผู้ขวัญกล้าเทียมฟ้า ลักลอบพบบุรุษในอารามไม่พอ ยังต้องการให้เขาพาหลบหนีจากสกุล
อิ่นด้วย
นางเป็นสตรีเช่นไรกัน ปัญญาช่างน้อยนิดเหลือเกิน
“ข้ามีความคิดโง่เขลาเพียงนั้น”
นางเอ่ยคล้ายรำพึงรำพันกับตน ก่อนจะเห็นภาพ ได้ยินเสียงด่าทอ และการลงโทษจากคนในเรือนอิ่น ที่ทำกับนางราวกับเป็นบ่าวไพร่ หรือสัตว์เดรัจฉานไม่มีหัวใจ
“คุณหนู ทุกอย่างผ่านมาแล้ว แก้ไขไม่ได้ ตอนนี้... รีบหนีไปก่อนเถอะเจ้าค่ะ บ่าวจะรับความผิดที่ก่อไว้เอง”
“เจ้าหมายถึง!”
“การฆ่าคนตาย มีโทษหนักสถานใด คุณหนูคงเข้าใจดี... ชาตินี้บ่าวด้อยวาสนา ไม่อาจอยู่รับใช้คุณหนูได้อีก”
“บัดซบ ชายชั่วคนนั้นมันรังแกเจ้า”
“จริงอย่างที่คุณหนูบอก ทว่าเขารับเงินผู้อื่นมาอีกที เพื่อหลอกลวงคุณหนู บ่าวรู้เรื่องนี้ หลังจากที่หลอกล่อมันดื่มสุรา และมันได้พูดเรื่องทั้งหมดให้ฟัง นั่นจึงทำให้มันไว้ชีวิตพวกเราไม่ได้”
“ความจริงเป็นอย่างไรกันแน่”
จากนั้นซูซินก็เล่าเรื่องคร่าวๆ ว่า หลังจากอิ่นสิงอี้ให้บ่าวคนหนึ่งนับจดหมายไปส่งให้ปี้เหวินถง เพื่อพานางหลบหนีในขณะที่มาอารามไผ่เงินนี้ ฝ่ายปี้เหวินถงสืบรู้ว่า แม่เลี้ยงหญิงสาวได้ว่าจ้างชายผู้หนึ่งให้มาฉุดอิ่นสิงอี้ไปข่มขืน ประจวบเหมาะกับปี้
เหวินถงที่ซ่อนตัวอยู่ที่นี่ พบเข้าจึงฆ่าปิดปากคนผู้นั้น และตั้งใจพาอิ่นสิงอี้หลบหนีตามที่นางต้องการดังเดิม ซึ่งเขาจะได้เงินด้วย แล้วหากอิ่นสิงอี้ คิดเปลี่ยนใจไม่ไปกับเขา ก็จะใช้เรื่องความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ข่มขู่นางในภายหน้า พร้อมเรียกเงินค่าไถ่จากอิ่นเจ้ง ผู้เป็นพี่ชายนาง
ซ้ำร้ายกว่านั้น ปี้เหวินถงคือนักโทษหลบหนีคดีจากเมืองหลวง เป็นชายโรคจิตที่ใช้หน้าตา หลอกลวงสตรีไปทั่ว กระทั่งได้มาพบคนหัวอ่อนอย่างอิ่นสิ่งอี้ เขาจึงตีสนิทนาง ใช้เวลาหลอกล่ออยู่เกือบสองเดือนเศษ สุดท้ายนางก็หลงคารม