4 ไม่มีใครเห็น ยกเว้น... 2
"มากกว่านี้ได้ไหม" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม พร้อมทั้งสอดฝ่ามือจากชายกระโปรงที่เอวขึ้นไปลูบแผ่นหลังนวลเนียน ฝ่ามืออุ่นลากผ่านไปทางไหน มธุรินก็แทบจะมอดไหม้ไปทางนั้น ความอุ่นจากมือเขามันช่างร้อนแรง สายตาเรียกร้องพร้อมคำถามเธอไม่รู้จะตอบอย่างไร ทั้งที่ร่างกายและหัวใจของเธอตอบสนองเขาไปเสียแล้ว
"ต้องถามด้วยหรือคะ" คำตอบเอียงอายก้มหน้างุดหลบใบหน้าหล่อเหลาที่ก้มมารอฟังคำตอบ ก่อนเขาจะจับคางเธอเชิดขึ้นรับจูบอันแสนดูดดื่มจากเขาอีกครั้ง
มธุรินไม่ทันได้ตั้งตัวเมื่อถูกเขาจับหันหน้าเขากระจกบานใหญ่อีกครั้ง ฝ่ามือใหญ่ที่ลูบไปตามเนื้อนวล ลูบไล้ไปจนถึงอกอวบอิ่มนุ่มมือเขากอบกุมมันไว้จนเต็มมือ ก่อนจะดึงซิลิโคนแปะจุกออกแล้วทิ้งไว้แถวนั้นอย่างไม่ไยดี เมื่อมือใหญ่กอบกุมก้อนเนื้อไร้สิ่งขวางกั้น แค่ปลายนิ้วสะกิดยอดอกเธอก็สะดุ้งตัว ส่งเสียงครางเบาๆ อยู่ในลำคอ จนเสียงเริ่มดังตอนที่เขาขยี้ยอดไตแข็งจากอีกข้างย้ายไปอีกข้าง
เขาใช้เท้าเกี่ยวเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ที่วางอยู่ข้างๆ ให้เข้ามาใกล้แล้วจับเรียวขาเนียนข้างหนึ่งยกขึ้นวางไว้ตรงที่พักแขนในท่าที่ชวนให้เสียวแก่นกายไปทั้งลำ
เธอได้ยินเสียงเขาคล้ายฉีกซองอะไรสักอย่าง ก็หน้าเห่อแดงขึ้นนึกรู้ได้ทันทีว่าเขาคงฉีกซองถุงยางอนามัย ปลายนิ้วข้างเดิมที่เคยล่วงล้ำซ้ำกลับที่เดิมอีกครั้งเพราะเขารู้ว่าเธอออกจะคับแน่นอยู่ทีเดียว แค่คิดได้ตรงนี้ก็ทำเขาเสียวปลายแก่นจนอยากจะกระแทกลงไปเสียตอนนี้ แต่คิดว่าเธอคงจะเจ็บไม่น้อยกับไซซ์เกินมาตรฐานของเขา
ปากทางรักฉ่ำแฉะอีกครั้งด้วยนิ้วเรียวยาว แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ทำให้เธอสมปรารถนา ตอนที่ร่างอรชรสะท้านเกือบจะถึงสวรรค์อยู่รำไร เขากลับสอดแทรกตัวตนใหญ่โตเข้าไปแทน แค่เพียงส่วนหัวที่หลุดเข้าไปนิด คนตัวสูงก็ต้องคำรามหนักๆ ออกมาอย่างไม่อาจกลั้น
"เจ็บไหม" เสียงถามอ่อนโยน เขารู้ทันทีว่าเป็นครั้งแรกของเธอ
"จะ..เจ็บค่ะ"
"ไหวไหม" เธอพยักหน้าตอบเขาแทนคำตอบ
เมื่อรู้ว่าเป็นครั้งแรกของคนตัวเล็ก เขาจึงได้เล้าโลมเธอหนักขึ้น ปลายนิ้วไล้วนเวียนจุดกระสันจนเธอเกร็งสะโพกแอ่นเข้าหา ชายหนุ่มค่อยๆ กดตัวตนใหญ่โตของตัวเองเข้าไปอีกนิด ขยับจังหวะเนิบช้าจนมันเริ่มเข้าไปได้กว่าครึ่งทาง เขาตัดสินใจกดแท่งเนื้อร้อนผ่าวที่ถูกตอดรัดจนแทบจะทนไม่ไหวเข้าไปจนสุดทาง เสียงครางกระเส่าของเธอก็แทบไม่เป็นคำ ยิ่งตอนที่เขาเริ่มจังหวะรัวเร็ว มธุรินก็ครางกระเส่าเรียกหาพี่คุณไม่ขาดปาก
ยิ่งจังหวะหนักหน่วงขึ้น แก้มสะโพกขาวเนียนก็เด้งรับจังหวะจนสั่นไหว เขารั้งเอวเธอไว้แน่นตอนที่เร่งจังหวะส่งเธอให้ถึงฝั่งฝัน ร่างบางสะท้านตอดรัดเขาเป็นจังหวะถี่ๆ เขารีบเร่งรัวเร็วหนักๆ อีกครั้งก่อนจะทะยานขึ้นแตะขอบฟ้าตามเธอไปติดๆ
เธอหันมาทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ที่ใช้พาดขาเมื่อสักครู่อย่างคนหมดเรี่ยวแรง ขาสั่นจนเธอสัมผัสได้ว่ามันแทบจะยืนไม่อยู่ หันมาจึงเห็นเขากำลังดึงเครื่องป้องกันมัดปากอย่างดี ก่อนจะห่อด้วยกระดาษชำระแล้วโยนทิ้งในถึงขยะใบเล็ก เธอจึงเพิ่งรู้ว่าเขาแค่ปลดกางเกงลงมาเพียงนิดเท่านั้น
เขาแต่งตัวเรียบร้อย เธอก็รีบจัดระเบียบชุดของตัวเองกลับเข้าที่ แล้วก็มองหาแผ่นแปะจุกที่ไม่รู้เขาโยนทิ้งไปทางไหน จนคนใจดีหยิบมาส่งให้ เธอรับมาอย่างไม่กล้ามองหน้าเขา แล้วก็หมุนเก้าอี้ผู้บริหารหนีสายตาไปอีกทาง เพื่อแปะมันกลับเข้าที่
"ให้ไปส่งที่ไหน"
"พี่คุณ จำคอนโดของลินไม่ได้หรือคะ"
"แล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะ"
"....ก็แถวๆ โรงแรมพี่ไง จำไม่ได้หรือคะ" เธอบอกชื่อพร้อมสถานที่ให้
"จำได้ แค่จะเช็กว่าเมาจนจำที่อยู่ตัวเองได้หรือเปล่า" เขายิ้มมุมปากได้อย่างที่เรียกว่าสาวๆ เป็นต้องหลงเสน่ห์ ตอนที่ตอบเธอ
"ไป จะไปส่ง"
เขาพาเธอเดินออกมาทางหลังร้าน รถยนต์คันหรูไม่คุ้นตา ซื้อใหม่อีกแล้วมั้ง เธอกำลังจะเปิดประตูรถก็ต้องชะงักมือ เมื่อมีพนักงานในร้านวิ่งมาทางเขา
"คุณพัฒน์จะเข้ามาอีกไหมคะ"
พนักงานสาวในสูทของร้านคล้ายเอ่ยเรียกถามอะไรเขาสักอย่าง มิลินก็ได้ยินไม่ถนัด เพราะเขาเดินกลับไปทางที่พนักงานวิ่งมาแล้วคนตัวสูงก็บังพนักงานสาวของเขาไว้จนเธอมองไม่เห็น จึงได้แต่เปิดประตูรถขึ้นไปนั่งคอยข้างใน