ก็จะเอาคนนี้

88.0K · จบแล้ว
อิงอรทัย
43
บท
5.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"กูแค่มาทวงส่วนที่ควรเป็นของกู รวมถึงยายนั่นด้วย" "แต่ยายนั่นที่มึงว่า ไม่ใช่ส่วนที่ควรจะเป็นของมึง" เธอผู้ถูกทาบทามให้มาสะใภ้คนรองของบ้านบริรักษ์ไพศาล แต่อยู่ๆ ลูกชายคนรองของบ้านก็พาแฟนสาวดีกรีคุณหมอแสนสวยเข้ามา คล้ายถูกเตะทิ้งอย่างจัง จนเดือดร้อนถึง ไตรคุณ บริรักษ์ไพศาล พี่ชายคนโตของบ้านที่เหลือความโสดอยู่เพียงคนเดียว ต้องมารับภาระความช่างสรรหาของคุณแม่แทน และเขาก็ทำทุกวิถีทาง เพื่อจะผลักภาระนี้ออกไปเช่นกัน ทุกอย่างที่ดูเหมือนกำลังจะลงตัว ถึงแม้ไตรคุณจะยังคอยผลักไสเธอก็ตาม แต่เมื่อมีโอกาสเข้าหา เธอก็พร้อมจะรุก ความผิดพลาดจึงเกิดขึ้นเมื่อเหยื่อที่เธอคิดจะจู่โจม กลายเป็นนายพรานดุร้ายขึ้นมา คนที่ยินยอมแกล้งเป็นเหยื่ออันโอชะ ในคืนวันอันแสนเร่าร้อนกลับไม่ใช่คนที่เธอคิด เขาเป็นใคร ทำไมหน้าตาเหมือน ไตรคุณ อย่างกับฝาแฝด ภาพความทรงจำในคืนนั้นนอกจากจะตราตรึงในห้วงความคิดไม่จางหาย มันยังถูกบันทึกไว้ในกล้องวงจรปิดอีกด้วย และเขาคนนั้นก็ไม่พลาดที่จะใช้ประโยชน์จากมัน ❤️❤️❤️ ครอบครัว บริรักษ์ไพศาล (ทุกเรื่องสามารถอ่านแยกได้ค่ะ) เรื่อง รักอีกครั้งไม่อยากเป็นเพื่อน [ไตรฉัตร (ไตร) & เหมือนแพร (เบบี๋)] - แอบรักเพื่อนเป็นเหตุ เรื่อง สูตรรักศาสตราจารย์ [ไตรวิทย์ (อาจารย์วิทย์) & ปรางทิพย์ (หมอปราง)] - เสียงตำน้ำพริกข้างห้องเป็นเหตุ เรื่อง ก็จะเอาคนนี้ [มธุริน (มิลิน) & พี่ชายอีกคน ของบ้านบริรักษ์ไพศาล] – ทักคนผิดเป็นเหตุ ❤️❤️❤️

ประธานโรงแรม/มหาลัยโรแมนติกเลขาดราม่ามาเฟียนิยายรักโรแมนติกนิยายรัก18+นิยายปัจจุบัน

1 มากกว่าจูบ

"นังลิน นังลิน"

เสียงตะโกนโหวกเหวกของเพื่อนสาวในร่างชายหนุ่มบอบบาง ใบหน้าขาวใสแบบอาตี๋ทรงหมวย มธุรินหันหน้าไปตามเสียงโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงได้เดินไปหากลุ่มเพื่อนที่โต๊ะหินอ่อนที่ประจำข้างตึกคณะบริหาร ของมหาวิทยาลัยชื่อดัง

"มีอะไรยะ นังแมน พวกแกส่งงานกันเสร็จแล้วหรือ" คนถามแทบจะไม่รอคำตอบ เตรียมจะหันหลังเดินกลับไปที่ตึกคณะ ถ้าไม่ถูกฝ่ามือใหญ่ของนังแมนรั้งสายกระเป๋าแบรนด์หรูเอาไว้ จนคนที่กำลังจะก้าวเดินแทบจะหงายหลัง

"โอ๊ย นังแมน อีบ้าเกือบหงายท้อง" มธุรินหันหลังกลับมาก็รีบโวยวายใส่เพื่อนสาว แล้วก็จัดระเบียบสายกระเป๋าราคาแพงที่ถูกดึงให้เข้าที่

"อีนี่บอกกี่ครั้งให้เรียก แมร์ หรือแมร์รี่ย่ะ อาจารย์ยังไม่มา พวกเราก็นั่งรอกันนี่แหละ" หลังจากแก้คำเรียกไม่เข้าหูของเพื่อนเสร็จ พร้อมทั้งบอกเหตุผลที่สมาชิกยังนั่งรอกัน เพราะในเวลานี้ทุกคนควรจะอยู่ที่สถานฝึกงานของแต่ละคน แต่เมื่อต้องส่งรายงานที่ควรจะส่งตั้งแต่ก่อนฝึกงานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ส่งจนล่วงเลยมาถึงตอนนี้ ทำให้แต่ละคนต้องขอลางานเพื่อมาส่งงานให้ครบภายในวันนี้เท่านั้น ไม่เช่นนั้นคงจะไม่ได้รับปริญญาพร้อมเพื่อนแน่นอน

"เมื่อกี้ฉันเห็นพี่วิทย์แกมาที่คณะบริหารด้วยว่ะ อย่างหล่อ ไม่รู้พวกนิติมันอดทนความหล่อของอาจารย์วิทย์ได้ยังไง" แมร์รี่ทำสายตาเคลิบเคลิ้ม จนมธุรินต้องขมวดคิ้ว แล้วก็รีบตะปบปากเพื่อนสาวเอาไว้ทันที

"นังแมร์ แกพูดเบาๆ หน่อย เกิดใครมาได้ยิน อาจารย์วิทย์เสียหายพอดี" มิลินทิ้งตัวนั่งที่ม้าหินข้างๆ แมร์รี่ เอ่ยเสียงกระซิบกระซาบ

"แต่อาจารย์ท่านก็หล่อว่ะ รู้งี้ฉันน่าจะเรียนนิติ" นอกจากท่าฝันหวานนังแมร์รี่ นังน้ำหวานก็เอ่ยเสียงกระซิบกระซาบเอากับเขาด้วย

"พวกแกแต่ละคนนี่นะ" มธุรินได้แต่ส่ายหน้า

"แล้วสรุปแกจะไม่ได้คู่กับพี่วิทย์แล้วหรือวะ" นังฝนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะชะโงกหน้ามากระซิบถามเบาๆ อย่างคนอยากรู้

"หึ พี่วิทย์จะแต่งงานแล้วกับหมอปรางแล้ว"

"แล้วทีนี้แกจะได้คู่กับใคร" น้ำฝนยังไม่ยอมแพ้ความอยากรู้

"คุณป้าพยายามจับคู่ให้กับพี่คุณน่ะ"

"พี่ชายคนโตน่ะหรือ แล้วแกว่าไงวะ" แมร์รี่สายเผือกรีบถามต่อเนื่อง

"ก็..ไม่รู้ว่ะ เขาไม่ได้ชอบฉัน"

"แล้วแกล่ะ ชอบเขาหรือเปล่า"

คำถามสุดท้ายของแมร์รี่ มิลินยังไม่ทันได้ตอบ ก็พลันสายตาหันไปเห็นอาจารย์ไตรวิทย์ที่เดินออกมาจากตึกคณะบริหารเสียก่อน และเหมือนเขาจะเดินมาทางเธอด้วย

"อ้าว ไม่ได้ฝึกงานหรือวันนี้" ไตรวิทย์เอ่ยถามมิลิน เพราะทางเดินลัดไปตึกนิติศาสตร์ถ้าผ่านทางนี้จะใกล้หน่อย เมื่อผ่านมาแล้วเห็นเธอเขาจึงได้เอ่ยทักทาย

"ลาค่ะ เอารายงานมาส่งอาจารย์"

"อ้อ วันนี้พวกพี่นัดกันไปกินข้าวที่บ้านน่ะ ไปด้วยกันไหมล่ะ"

"เอ่อ..ลินมีนัดกับเพื่อนแล้วค่ะ ขอบคุณพี่วิทย์นะคะ" เพราะยังไม่ได้รับโทรศัพท์ชวนจากคุณประไพรแม่ของเขา ทำให้เธอเลือกที่จะปฏิเสธไว้ก่อน แต่ถ้าคุณนายประไพรโทรมาชวนเธอก็ไม่ขัดจะรีบเสนอหน้าไปให้คนบางคนหงุดหงิดเล่นเสียอย่างนั้น

"ทำไมแกไม่ไปล่ะนังลิน" น้ำหวานรีบเอ่ยถาม ตอนที่อาจารย์ไตรวิทย์เดินไปไกลแล้ว แต่คำตอบของมิลินเป็นเพียงการย่นจมูกพลางส่ายหน้าช้าๆ

"ไหนๆ วันนี้ก็หยุดแล้วแถมพรุ่งนี้วันหยุดอีก งั้นคืนนี้พวกเราไปตื๊ดกันดีกว่าว่ะ เดี๋ยวเลี้ยงเอง" พอคำว่าเลี้ยงเอง ทำให้สามสาวตาเป็นประกายขึ้นมาทันที

ทั้งสี่สาวมาถึงสถานบันเทิงเปิดใหม่ย่านทำเลทองของกรุงเทพในเวลาสี่ทุ่มกว่าๆ แม้เวลาจะยังไม่ดึกมากนักสำหรับเหล่าผีเสื้อราตรี แต่สถานที่แห่งนี้ก็คลาคล่ำไปด้วยนักเที่ยว จนทั้งสี่สาวได้โต๊ะที่เรียกมุมอับจนเกือบจะไม่เห็นหน้าเวทีแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา แถมโซนวีไอพีก็เต็มหมดอีกด้วย คงเพราะความหรูหราที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้ชื่อเสียงของที่แห่งนี้เป็นที่นิยมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และถึงแม้มันจะราคาแพงมากก็ตาม

"หรูหราสมราคาเลยว่ะ โชคดีนะที่ได้โต๊ะ เห็นว่าต้องจองกันล่วงหน้าเลย" น้ำหวานเอ่ยเสียงดังแข่งกับเสียงเพลง

"เกือบแล้วนังลิน อยู่ๆ เกิดเปลี่ยนใจอยากมาที่นี่ ดีกว่านั่งหน้าห้องน้ำหน่อยหนึ่ง" นังแมร์รี่รีบเสริม

"ก็เห็นเขาโพสต์กันจัง เลยอยากมาดูบ้างซิ เบื่อผับไอ้ชินแล้ว"

เพียงครู่เดียวเหล้าราคาแพงก็ถูกนำมาเสิร์ฟตามคำสั่ง ทั้งสี่สาวดูจะสนุกสนานไปกับสถานที่แห่งใหม่นี้ไม่น้อย มิลินในชุดเดรสรัดรูปสีดำแขนยาวแต่เปิดช่วงหัวไหล่อวดผิวขาวกระจ่างยิ่งยามต้องแสงไฟวิบวับภายในผับ ทำให้เธอดูโด่ดเด่นไม่น้อยแม้จะอยู่ตรงที่อับแสง

เหล้าขวดที่สองมาเสิร์ฟในช่วงเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีระเรื่อดวงตาเริ่มฉ่ำหวานไม่แพ้ดวงหน้าสวยที่เครื่องหน้าเรียงเข้ากันอย่างลงตัว ราวกับลูกรักพระเจ้า

"แกไหวไหมนังลิน เบาๆ หน่อยแก พวกฉันขี้เกียจแบกแกขึ้นคอนโดนะ"

"ไหวๆ ยังไม่เมา แค่มึนๆ กำลังได้ที่" เสียงยานคางหัวเราะร่วนเอ่ยตอบ พร้อมกับลีลาสะโพกพลิ้วไหวตามเสียงเพลง

"เฮ้ยๆ แกดูนั่นซิ ใช่คุณพี่ไตรคุณของนังลินหรือเปล่าวะ ทำไมมานั่งดื่มคนเดียวแบบนั้นล่ะ" นังแมร์รี่ตัวสูงที่เห็นวิวทิวทัศน์ได้ไกลกว่าเพื่อน สะกิดน้ำฝนที่ยืนเต้นอยู่ข้างๆ ให้ช่วยดูคนที่เพื่อนสาวตัวสูงกำลังชี้ให้ดู เรียกสายตาอีกสองสาวให้หันไปตามนิ้วมือนั่น ชายหนุ่มคุ้นตาในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนอย่างลวกๆ ถึงข้อศอก