2 มากกว่าจูบ 2
"เฮ้ยใช่จริงว่ะ ไม่เข้าไปทักหรือนังลิน แล้วแกก็ทำท่าอ้อนเมาๆ ให้เขาไปส่งไง" น้ำหวานแกล้งพูดเล่นกับเพื่อนพร้อมทำท่าทางออดอ้อนให้ดู แต่คนถูกแนะนำกลับตาเป็นประกายคิดจริงจังกว่านั้น
"แจ่ม นังแมร์ แกเอานังสองน้ำของแกกลับไปด้วยนะ ส่วนฉัน..เผื่อจะได้สักสองน้ำ" มิลินแกล้งทำท่าเลียนแบบน้ำหวาน แถมยังพูดจาชวนให้คิดไปไกล
"เอาจริงดิ ฉันพูดเล่นเว้ย" น้ำหวานรีบบอก แถมยังรั้งแขนเพื่อน เมื่อเห็นมิลินทำท่าจะเดินไปทางเป้าหมายนั้น
"จริง" สายตาหวานเยิ้ม พยักหน้าหนักแน่นให้เพื่อน
"หวังว่าจะได้สองน้ำ ไม่ได้สองตีนของพี่คุณแกกลับมานะ" น้ำฝนเอ่ยบอกตอนที่มิลินสะบัดแขนหลุดจากน้ำหวาน มิลินหันไปทำปากด่าอีบ้าใส่เพื่อน แล้วเดินตรงไปทางชายหนุ่มที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์
"พี่คุณมาคนเดียวหรือคะ" เสียงหวานเอ่ยทักทายชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทรงสูงหน้าเคาน์เตอร์บาร์ ไม่เพียงแค่เสียงทักทายแต่หญิงสาวยังเอามือวางไว้บนไหล่เขาคล้ายสะกิดเรียก แต่เมื่อชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลานั้นหันหน้ามา เธอกลับเดินอ้อมหลังเขาไปอีกฝั่ง แต่ฝ่ามือเรียวนั้นกลับไม่ปล่อยจากไหล่แกร่ง กลับไล้มือลูบไปตามแนวไหล่จากอีกข้างไปอีกข้าง เธอเขย่งตัวขึ้นนั่งเก้าอี้สูงข้างๆ เขา มือที่ลูบไล้ไหล่กว้างไปจนถึงบ่าลูบเลยไปถึงแขน แล้วเหมือนจะใช้แขนเขายึดเป็นที่พึ่งตอนที่เธอเขย่งตัวขึ้นนั่งเก้าอี้นั้นด้วย
เขาหันหน้ามามองหญิงสาวชุดดำ รอยคิ้วยาวได้รูปมุ่นเข้าหากันเล็กน้อย
"พี่คุณ" คล้ายเขาทวนคำเธอเบาๆ ก่อนจะกระดกเหล้าที่เหลือในแก้วเตี้ยทรงเพชรเข้าปากจนหมด
"คะ พี่คุณว่าอะไรนะคะ" เธอเห็นคล้ายเขาพึมพำเบาๆ แต่ได้ยินไม่ถนัดคงเพราะเสียงเพลงดัง จึงเอียงตัวเข้าไปหาเขานิดหนึ่ง
"เปล่าครับ" เขาตอบพร้อมรอยยิ้มมุมปากนิดๆ
"พี่คุณมาคนเดียวหรือคะ นึกว่าไปทานข้าวที่บ้าน ลินเจอพี่วิทย์เมื่อกลางวันเห็นว่าจะกลับไปทานข้าวที่บ้านกัน" คนเมาเอ่ยเล่าเสียยืดยาว ชายหนุ่มเพียงยกยิ้มให้นิดๆ
"พี่คุณจะกลับตอนไหนหรือคะ พอดีลินไม่ได้เอารถมา พี่คุณแวะส่งลินด้วยได้ไหมคะ"
"เอ่อ..ขอขึ้นไปหยิบกุญแจก่อน" เขาทำท่าคิดเพียงนิด ก่อนจะเอ่ยตอบ แล้วก็ลุกออกจากเก้าอี้
มิลินไม่ทันได้คิดว่าเขาต้องไปหยิบกุญแจรถที่ไหน แต่แค่เห็นเขาเดินเหมือนจะขึ้นไปที่ชั้นสอง เธอก็รีบลงจากเก้าอี้เดินตามเขาไปทันที
"อ้าว นึกว่ารอข้างล่าง" เขาหันมาถามตอนที่เธอกำลังเดินขึ้นบันไดวนไปชั้นสอง ร่างอรชรที่ยืนยังเกือบไม่มั่นคง ตอนขึ้นบันไดจึงต้องคอยจับราวบันไดไว้มั่น เขาเห็นกลัวเธอจะล้ม จึงก้าวลงมาแล้วก็ช่วยประคองแขนเธอให้เดินขึ้นไปชั้นสองด้วยกัน ระหว่างทางที่เดินนอกจากจะคอยทิ้งน้ำหนักตัวใส่เขาแล้ว ยังคล้องแขนเขาเอาไว้แน่น แต่พลันก็นึกถึงคำพูดนังน้ำฝนได้ขึ้นมาได้ หวังว่าเธอจะไม่ได้สองตีนกลับไปแทนหรอกนะ เมื่อเห็นเขาไม่ได้ทำท่ารังเกียจอย่างที่เคยเธอจึงกระชับอ้อมแขนเขาแน่นขึ้น จนหน้าอกอิ่มแทบจะเกยไปบนแขนแกร่งของเขา
ประตูไม้บานใหญ่ถูกผลักเข้าไป ภายในเป็นห้องกระจกขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ก็พอที่จะใส่โซฟารับแขกชุดใหญ่เอาไว้ อีกทั้งยังมีโต๊ะทำงานแบบทันสมัยอีกหนึ่งตัว ถัดจากโซฟายังเป็นเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ
มิลินเดินตรงไปที่กระจกบานใหญ่ด้านในสุดของห้อง ที่มองเห็นบรรยากาศในสถานบันเทิงแห่งนี้ทุกมุม
"กระจกนี่ข้างล่างจะมองเราไม่เห็นใช่ไหมคะ" เธอหันไปถามชายหนุ่มที่มายืนอยู่ข้างๆ เขาตอบคำถามด้วยเสียงในลำคอ
"ถ้าเราจูบกัน ข้างล่างก็จะไม่เห็นใช่ไหมคะ" คงเพราะความเมาใช่ไหมที่ทำให้เธอกล้าถามเขาออกไปแบบนั้น แต่เมื่อถามไปแล้วมิลินก็ได้แต่กัดริมฝีปากด้านในของตัวเองเอาไว้แน่น นังลินนังบ้าเอ๊ย แม้จะแอบด่าตัวเอง แต่เมื่อเห็นสายตาของอีกฝ่ายไม่ได้มีที่ท่าจะดุด่า กลับมีสีหน้าแปลกใจก็เหมือนจะยิ่งทำให้เธอได้ใจ
"มากกว่าจูบ ก็ไม่มีใครเห็นครับ"