บทที่ 3 รับไว้
ด็อกเตอร์พลัมจ้องมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาตื่น แววตาไหววับ สิ่งนี้มาอยู่ตรงหน้าเขาได้อย่างไร เขาอยากเห็นของจริงมานานหลายปี เขาจำลวดลายบนผิวคนโทได้แม่นยำ คนโทใบนี้ขุดพบที่เมืองตราดและหายไปอย่างลึกลับก่อนเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรจะเดินทางไปถึง เจ้าของบอกว่าฝันว่ามีคนมาขอ ตอนเช้าคนโทก็หายไป
“เธอได้มายังไง”
เป็นคำถามแรกที่ด็อกเตอร์ละสายตาจากคนโทใบงาม กรองทองถอนหายใจเฮือกแล้วตั้งคำถามที่หล่อนอยากถามด็อกเตอร์
“นี่แหละค่ะ ที่หนูอยากมาถามด็อกเตอร์ว่า คนโทใบนี้ มาอยู่ในรถหนูได้ยังไง หนูคิดว่าเป็นของด็อกเตอร์ลืมไว้วันที่ด็อกเตอร์เอารถไปซ่อม หนูรับอาสามาส่งที่บ้านไงคะ อาทิตย์ก่อนโน้นค่ะ ฝนตกหนัก ลมพัดแรง ต้นไม้โค่นขวางถนนไงคะ”
“อ๋อ..จำได้แต่ว่าครูไม่ได้...”
“ด็อกเตอร์ครับ มีคนมาหาครับ รออยู่หน้าบ้าน ให้เข้ามาก็ไม่เข้าครับ”
เสียงแสนดังมาจากหน้าประตูบ้าน ขัดจังหวะการสนทนาโดยไม่ได้ตั้งใจ ด็อกเตอร์ลุกจากเก้าอี้เดินออกไปหาแสน
“ใครมาหรือลุง”
“ไม่ทราบครับ บอกว่าจะขอพบด็อกเตอร์แป๊บเดียวครับ รออยู่โน่นครับ ให้เข้ามาข้างในก็ไม่ยอมครับ บอกว่ามีธุระเดี๋ยวเดียว”
“ขอบใจลุง”
ด็อกเตอร์ยิ้มนิดหนึ่งแล้วเดินไปที่ประตูรั้ว ผลักประตูที่แง้มอยู่ให้กว้างกว่าเดิมจะได้เชิญแขกเข้าบ้านแต่พอเขาก้าวออกไป ปรากฏว่าไม่มีใครยืนรออยู่สักคน เขากวาดสายตามองไปทางซ้ายและขวาก็ไม่พบ หัวคิ้วย่นเข้าหากัน
“ลุงแสนล้ออะไรแบบนี้เนี่ย”
เขาพึมพำอย่างหงุดหงิด หมุนตัวก้าวกลับเข้าประตูรั้วพลันเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“รับไว้ รับไว้ รับไว้นะ”
ด็อกเตอร์หันขวับไปทางเสียงที่ได้ยินแต่ไม่มีเงาของใครสักคน เสียงที่ดังมาเป็นเสียงผู้ชาย หากฟังน้ำเสียงไม่ผิดนัก คนพูดน่าจะอายุประมาณ 80 ปีขึ้นไป เสียงแหบพร่าแต่มีกังวานน่าเชื่อถือ หนุ่มใหญ่มองไปรอบๆ แล้วเอ่ยออกมา
“ผมจะรับไว้ครับ”
จบคำพูดของเขาลมกระโชกวูบผ่านหน้าเขาไป ไอกลิ่นหอมบางอย่างโชยอยู่ตรงหน้า เขาขมวดคิ้วยืนนิ่งงันกับสิ่งที่สัมผัสได้ ขนลุกทั่วทั้งตัว พยายามขบฟันแน่นไม่ให้สั่นกระทบกัน ไม่ได้กลัวผีแต่รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ในสิ่งของที่ลูกศิษย์นำมาให้ดู
เสียงถอนหายใจดังติดต่อกันสามสี่ครั้ง หัวใจเต้นแรงเริ่มเต้นปกติ ด็อกเตอร์กวาดสายตาไปรอบตัวอีกครั้งแล้วหมุนตัวก้าวกลับเข้าประตูรั้วไม้
“ใครมาหรือครับด็อกเตอร์”
ภาสกรเอ่ยถามทันทีที่ด็อกเตอร์ก้าวเข้ามาในตัวบ้าน คนถูกถามส่ายศีรษะยิ้มน้อยๆ
“ครูว่าพวกเธอเลิกเรียกครูว่าด็อกเตอร์ซะที เรียกอาจารย์ก็ได้ ครูรู้สึกไม่ชอบใจกับคำนี้แล้วสิ พยายามให้พวกแกเรียกอาจารย์ พวกแกก็บ้าตามคนอื่น ฉันจะบอกให้นะว่าไอ้หัวโขนที่สวมอยู่บนหัวของแต่ละคนน่ะมันจอมปลอมทั้งนั้น กรองทอง ตกลงคนโทนี่ขายให้ฉันมั้ย ฉันจะซื้อ เนี่ยโมโหแล้วนะขึ้นฉันขึ้นแกแล้วนะจะบอกให้”
ทำทีสอนลูกศิษย์แต่วกเข้ามาที่คนโท เสียงของใครคนหนึ่งที่บอกให้เขารับไว้ต้องเป็นคนโทใบนี้ ความเร้นลับอยู่รอบตัวเขา นักโบราณคดีบางคนเชื่อเรื่องพวกนี้เพราะเจอเข้ากับตัวเองแต่บางคนไม่เชื่อเพราะไม่เคยเจอไม่เคยได้สัมผัสกับมัน
“ด็อกเตอร์จะซื้อจริงหรือคะ ถ้าด็อกเตอร์ซื้อหนูขายค่ะแต่ถ้าคนอื่นหนูไม่ขาย ด็อกเตอร์ให้เท่าไหร่ก็ได้ค่ะหนูตั้งราคาไม่เป็น”
กรองทองยิ้มร่า หล่อนไม่สนใจสิ่งที่ด็อกเตอร์ต้องการให้เรียกแค่ อาจารย์ หล่อนยังคงติดปากเรียกด็อกเตอร์เช่นเดิม
“เรียกฉันอาจารย์ หรือครูก็ได้ ฉันจะซื้อ พวกแกทุกคนด้วย”
“ค่ะด็อก..เอ่อ..อาจารย์ แหม.เรียกด็อกเตอร์จนติดปากแล้วจะให้เปลี่ยนทำไมก็ไม่รู้”
“แกเรียกอาจารย์คนอื่นติดปากเหมือนกัน แค่เพิ่มฉันอีกคนไม่เห็นจะยากตรงไหน ตกลงฉันซื้อคนโทใบนี้ ว่าแต่แกไม่เสียดายแน่นะ”
“ค่ะไม่เสียดายเลยค่ะเพราะหนูรักษาของเก่าอย่างนี้ไม่เป็นเดี๋ยวทำแตกขึ้นมาก็น่าเสียดาย หนูขายให้อาจารย์ด็อกค่ะ”
“นี่แก เรียกอาจารย์แล้วไม่ต้องต่อด้วยด็อกหรอก เดี๋ยวโดนเห็นฉันเป็นหมารึไง”
“เปล่าค่ะอาจารย์ หนูขอโทษค่ะ”
กรองทองรีบยกมือไหว้ด็อกเตอร์ เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง ด็อกเตอร์พลัมยิ้ม ไม่ได้โกรธลูกศิษย์แต่แกล้งไปอย่างนั้นเอง เขาเอื้อมไปจับคนโทมาดูใกล้ๆ อีกครั้ง
“คนโทใบนี้อายุน่าจะอยู่ราวๆ พันปี เจ้าของหวงมาก”
“อาจารย์รู้ได้ยังไงคะ”
วรวรรณถามเร็วเพราะสีหน้าและรอยยิ้มของด็อกเตอร์พลัมเหมือนรู้จักเจ้าของคนโทใบสวย
“ก็..”
ด็อกเตอร์ชะงักคำเมื่อคิดถึงเสียงที่ได้ยินก่อนจะกลับเข้าบ้าน เสียงนั้นต้องเป็นเจ้าของคนโทและต้องการให้เขารับคนโทไว้ เขาทำตามความต้องการของเจ้าของด้วยความเต็มใจ
“ก็อะไรครับจารย์”