บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ร้ายกาจ vs ร้ายเดียงสา

นับดาวนั่งเงียบจนมาถึงร้านอาหารญี่ปุ่นที่ธันวาจองเอาไว้ เขาเปิดประตูก้าวลงจากรถแล้วจึงเดินอ้อมมาเปิดประตูให้เด็กสาวทั้งสองคน

"ขอบคุณค่ะ" เพื่อนสาวของนับดาวยกมือไหว้ธันวาส่วนคนตัวเล็กยืนก้มหน้าใช้ความคิดจนลืมไปว่าตอนนี้เธอแสร้งแสดงว่าเป็นนับดาวคนที่เรียบร้อยอยู่ "ดาว… เป็นอะไรไหม" เพื่อนเธอแสดงสีหน้ามีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด

"อ๋อ… น้องดาวกำลังคิดว่าจะให้อะไรเป็นของขวัญวันเกิดเพื่อนอยู่น่ะค่ะ ขอโทษที่ทำให้พี่ธันวารอนาน" นับดาวเผยอยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่เธอจะยื่นมือไปจับมือเพื่อนแล้วเดินตามธันวาเข้าไปด้านใน โซนที่เขาจองไว้ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมาก

"วันเกิดใช่ไหม ที่นี่เขามีโปรโมชั่นนะ แค่เอาบัตรประจำตัวประชาชนให้พนักงานดู จะได้เค้กแซลมอนฟรี" น้ำเสียงราบเรียบที่ดูเป็นปกติสุด ๆ แต่คนฟังกลับเสียวสันหลังวาบ นับดาวลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง เธอส่งยิ้มให้ธันวาน้อย ๆ แต่ดีที่เป็นจังหวะเดียวกันกับพนักงานเดินเข้ามาแล้วส่งเมนูอาหารให้

"รอดตัวไปนะ…" น้ำเสียงเยือกเย็นของธันวาทำไรขนอ่อนตามร่างกายนับดาวลุกซู่ทั้งตัว เธอทำเป็นไม่สนใจเขาแล้วสั่งอาหารต่อจนได้เมนูที่ตัวเองชอบกิน ซึ่งธันวาก็เช่นกันและเขาก็ไม่ลืมที่จะสั่งอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เพื่อนนับดาวด้วยแม้ว่าเรื่องวันเกิดจะเป็นเรื่องโกหกที่ยัยตัวแสบกุเรื่องขึ้นมาก็เถอะ เขาชักอยากรู้แล้วว่าเธอจะแกล้งเป็นน้องนับดาวคนดีแม่ศรีเรือนได้นานแค่ไหน

บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารถูกปกคลุมด้วยความเงียบทั้งที่ในร้านมีเพลงเปิดคลอเบา ๆ แต่นั่นก็ไม่ดังไปกว่าเสียงหัวใจของนับดาวที่กระหน่ำเต้นคล้ายว่าจะหลุดออกมาเต้นนอกเบ้า มีหลายคราที่เธอเหลือบตามองธันวาแล้วเห็นว่าเขากำลังมองเธออยู่

"อาหารมาแล้วค่ะ อ๊ะ! มีเค้กแซลมอนด้วยเหรอคะ" คนที่ดีใจไม่ใช่เจ้าของเค้กแซลมอนก้อนนี้ด้วยซ้ำ ธันวาเลิกคิ้วให้นับดาวที่ยิ้มร่าแสดงท่าทางตื่นเต้นออกมาในขณะเจ้าของเค้กนั่งนิ่งเหมือนถูกธันวาเอามีดจ่อคออยู่ นับดาวตีสีหน้ายิ้มแย้มแต่ก็คงความน่ารักอ่อนหวาน เธอยกเค้กแซลมอนมาตรงหน้าเพื่อนรัก "แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะเพื่อนรักของดาว"

ในเมื่อเธอยังเล่นละครไม่เลิกธันวาจึงเล่นบ้าง เขาพยักหน้าเรียกพนักงานมาหาแล้วสั่งแชมเปญไปทั้งหมดสามแก้ว

"สุขสันต์วันเกิดนะครับ" ชายหนุ่มเลิกคิ้วให้นับดาวพร้อมกับเลื่อนแก้วแชมเปญไปตรงหน้าสองสาว "ดื่มหน่อยนะ เล็ก ๆ น้อย ๆ จากผม" นับดาวเผลอแสดงความไม่พอใจเล็กน้อยที่ธันวาแสดงความอ่อนโยนกับเพื่อนเธอแล้วตัดมาตอนที่เขาพูดกับเธอสิ เหมือนจะกินหัวทุกครั้ง 'คนสองมาตรฐาน!' ธันวาปรายตามองนับดาวเพียงนิดเพราะเห็นความขุ่นเคืองในแววตาเธอ

"พี่ธันวามาที่นี่บ่อยเหรอคะ เห็นสั่งอาหารคล่องเชียว" ในเมื่อโต๊ะอาหารมันเงียบจนเธออึดอัด นับดาวจึงเอ่ยถามธันวาเพื่อทำลายความเงียบลงแม้จะรู้ว่าเขาคงตอบกลับมาแบบกวน ๆ ก็เถอะ เธอไม่ได้ชอบเท่าไหร่หรอก!

เธอไม่ได้ทำตาแป๋วรอคำตอบเลยคีบซูชิเข้าปากโดยไม่ทันได้สังเกตว่าในซูชิคำนั้นมีวาซาบิอยู่ ทันทีที่ลิ้นได้สัมผัสความเผ็ดซ่าของมันก็ทำงานแทบจะทันที เธอสำลักจนน้ำตาไหล ใบหน้านวลเนียนแดงระเรื่อเพราะอาการสำลักเมื่อครู่

"กินไม่ดูเอง…" ธันวากระตุกยิ้มมุมปาก

"แกล้งเหรอคะ" นับดาวถามเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจ นี่เขาแกล้งเธอแรงขนาดนี้เลยเหรอ มันจะมากไปแล้ว… พุทโธ พุทโธ ท่องไว้อย่ากระโดดไปหยุมหัวเขา ท่องไว้ยัยดาวท่องไว้ กรรมใดใครก่อกรรมนั้นคืนสนองแต่รอเวรกรรมคงนานไปเพราะงั้นเธอจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรเขาเอง!!

นับดาวปาดน้ำตาออกจากขอบตาแดงก่ำ เธอไม่ได้ร้องไห้แต่เป็นเพราะวาซาบิตัวร้ายต่างหากที่ทำน้ำตาไหล เด็กสาวเม้มปากแน่นคีบซูชิขึ้นมาใส่ปากเคี้ยวตุ้ย ๆ ไม่ได้แสดงอาการใด ๆ ให้ธันวาได้ใจอีกและใช้จังหวะที่เขาเผลอตักวาซาบิใส่ลงแก้วน้ำเขา ด้วยเพราะน้ำที่เขาดื่มเป็นชาเขียวบวกกับวาซาบิที่เป็นสีเขียวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงดูไม่ค่อยออก

'ฮึ! คิดว่าตัวเองแน่เหรอ… เจอนับดาวหน่อยเป็นไง'

คนตัวเล็กยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างพอใจ ไม่แสดงทีท่าให้อีกฝ่ายได้จับผิด ธันวาหรี่ตามองเด็กสาวทั้งสองคนด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ไป แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เขายกแก้วน้ำชาเย็น ๆ ขึ้นมาดูดเต็มปากและเกือบพ่นน้ำชาใส่หน้าเด็กสาวทั้งสองคน ดีที่เขายกมือขึ้นมาปิดปากแล้วหันไปพ่นออกทางอื่น

"เธอ!" ชายหนุ่มเค้นเสียงรอดไรฟัน มองนับดาวราวกับจะฉีกเธอออกเป็นชิ้น ๆ เสียตอนนี้ แต่ก็ต้องสะกดกลั้นอารมณ์นั้นไว้ เหล่ตามองแก้วน้ำชาที่ตนเพิ่งดื่มเข้าไปอึกใหญ่เมื่อครู่นี้

'แสบไม่เบาเลยนะยัยตุ๊กตาเสียกบาล! กล้าดีหนิ…'

มุมปากหนาประดับด้วยรอยยิ้มร้ายกาจที่ยากจะเดาอะไรได้ นับดาวมองแล้วรู้สึกหวั่น ๆ กับรอยยิ้มเย็นยะเยือกนั้นไม่น้อย แต่ทำไมเธอต้องขนลุกซู่ไปทั้งตัวด้วยก็ไม่รู้…

เด็กสาวก้มหน้าเหยียดยิ้มร้ายก่อนจะเงยขึ้นทำตาแป๋วออดอ้อนให้ผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามละสายตาดุดันจากใบหน้าเธอเสียที แต่เหมือนจะไร้ประโยชน์ซะมากกว่าเพราะธันวายิ่งโกรธจัดกับการที่เห็นเธอแสร้งทำใสซื่อทั้งที่ตัวตนข้างในมันร้ายกาจแค่ไหน

กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่นจนรู้สึกปวด แววตาแข็งกร้าวไร้ความปรานียังฉายชัดจนอีกฝ่ายรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ

"เก่ง…" ธันวาวางตะเกียบลงไว้ที่เดิมอย่างเรียบร้อย ตวัดลิ้นเลียริมฝีปากเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อนนับดาวที่รีบหลบสายตาเขาอย่างหวาดกลัว เธอนั่งเงียบมานานเนื้อตัวสั่นเทิ้มไม่อาจสะกดกลั้นความกลัวได้

"น้องนับดาวกับเพื่อนอิ่มแล้วค่ะ ขอบคุณพี่ธันวามากเลยนะคะที่เลี้ยงข้าววันนี้" เด็กสาวเจ้าของดวงตาใสแป๋วคลี่ยิ้มให้หลังจากกล่าวคำขอบคุณเสร็จ ทว่าคนตรงหน้ากลับมองเธอนิ่งและเผยรอยยิ้มมุมปากที่มองแล้วทำขนหัวลุก

"ไม่เป็นไร ฉันตั้งใจพามากินข้าวอยู่แล้วและขอบคุณที่ทำให้ฉันมั่นใจอะไรมากขึ้น"

"…"? นับดาวปิดปากเงียบทั้งที่สงสัยจนอยากถาม หากเธอเป็นนับดาวอีกเวอร์ชั่นหนึ่งคงเปิดปากถามทันควันแต่นี่ต้องสำรวมไว้ก่อน ไม่กระโตกกระตากให้อีกฝ่ายตื่นตัว

"พวกเธอจะเดินเล่นกันต่อก็ตามสบาย ฉันขอตัว" ธันวาลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินออกไปจากร้านอาหารกับลูกน้องอีกคนซึ่งมายืนรออยู่หน้าร้านได้ครู่หนึ่งแล้ว ชายหนุ่มชะลอฝีเท้าพอให้ลูกน้องเดินมาใกล้ "จับตาดูเธอไว้ให้ดี แล้วมารายงาน" ชายหนุ่มสั่งเสียงเรียบแล้วแยกกับลูกน้อง

"ครับนาย…" ลูกน้องคนสนิทหยุดยืนนิ่ง รับคำสั่งพลางทำความเคารพเจ้านายแล้วเดินไปขึ้นรถอีกคันหนึ่ง

"คิดจะมากเล่นลิ้นกับฉันงั้นเหรอ… ประสบการณ์ยังน้อยไป ฮึ…"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel