บทที่ 4 จับตามอง
สองวันต่อมา
เสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินมาหยุดอยู่หน้าประตูก่อนที่ประตูห้องทำงานบานใหญ่จะถูกผลักเข้ามา ปรากฏร่างสูงใหญ่ของลูกน้องหนุ่ม
"สองวันมานี้คุณหนูนับดาวเธอไม่ได้ไปผับอย่างที่เราคิดไว้ครับนาย กิจวัตรประจำวันเธอคือตื่นเช้า ไปโรงเรียนแล้วก็ไปนั่งเล่นที่คาเฟ่แมวแถว ๆ โรงเรียนหลังจากที่เลิกเรียนแล้วครับ" คำรายงานของลูกน้องไม่ได้เรียกความสนใจจากธันวามากนัก เขายังก้มหน้าทำงานเรื่อย ๆ "นายจะให้ผมติดตามเธอต่อไหมครับ" คำถามถัดมาทำให้ธันวาหยุดเซ็นเอกสารตรงหน้า เขาวางปากกาลงแล้วเงยหน้ามองลูกน้อง
"เด็กคนนี้มันฉลาด แต่ก็ไม่เฉลียวพอ… ตามต่อไป กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะแอ๊บแบ๊วไปได้กี่น้ำ" มุมปากหนายกยิ้มร้าย
"ครับนาย"
"อืม… คืนนี้เปิดโต๊ะหน่อยนะ จะเข้าไปดื่มกับขุนเขา มีนัดคุยธุรกิจกันเล็กน้อย" ธันวาก้มหน้าทำงานต่อพร้อมกับเอ่ยปากสั่งลูกน้องเสียงเรียบ หวังว่าคืนนี้คงไม่เจอเซอร์ไพรส์ที่ผับนะ เขาเหยียดยิ้มมุมปากอีกครั้ง
20:00 น.
รถยนต์หรูขับมาจอดที่วีไอพีของสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ร่างสูงเด่นเป็นสง่าก้าวลงจากรถพร้อมกับจัดระเบียบปกเสื้อเล็กน้อย
"ไงวะ นึกว่ากูมาสายซะแล้ว" ขุนเขายกมือทักทายเพื่อนรัก
"อืม เข้าไปด้านในเถอะ" เขากับขุนเขาเดินเข้ามาในคลับ แล้วเดินไปที่โซนวีไอพี ที่ได้สั่งลูกน้องจองไว้ให้แล้ว
"กินไรดี เบา ๆ ก่อนแล้วกันนะเดี๋ยวคุยกันไม่รู้เรื่อง" ขุนเขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกวักมือเรียกพนักงานมา สั่งเครื่องดื่มเบา ๆ เช่นพวกคอกเทลไปสองแก้วและขนมขบเคี้ยวอีกหนึ่งจาน
"เรื่องรถที่เราคุยกันไว้ เป็นไงบ้างมึงตกลงจะขายให้กูเท่าไหร่"
"สามล้านห้า ไหวไหมวะ… นี่กูลดให้สุด ๆ แล้วนะอะไหล่บางอย่างที่หายาก ๆ กูก็แถมให้ไปแล้ว" ธันวายิ้มเย้ยกับสีหน้าจริงจังสุด ๆ ของเพื่อน
"ตกลง ราคานี้กูรับได้"
"โอเคงั้นเซ็นเอกสารซื้อขายเลยไหม กูเตรียมมาละ"
"ไม่ต้อง ซื้อขายกันประจำไม่จำเป็นต้องเซ็นก็ได้มั้ง"
"เออ… ก็ตามใจมึงแล้วกัน พรุ่งนี้ไปลองรถอีกทีแล้วกัน กูให้เด็กทำความสะอาดไว้รอแล้ว"
"ขอบใจนะ แล้วนี่น้องเพียงไม่ว่าเหรอ ที่มึงเอารถมาขายเนี่ย"
"ว่าอะไร สนับสนุนกูจะตาย อยากให้เลิกขับมอไซค์แล้วด้วย เฮ้อ… แต่ทำไงได้วะเรามันเลือดนักแข่งหนิ" ขุนเขาว่าอย่างยิ้ม ๆ และเป็นจังหวะที่ดีเจเปลี่ยนเพลงใหม่ เพลงจังหวะมัน ๆ ดังก้องทั่วคลับที่คลาคล่ำไปด้วยเหล่านักท่องราตรี ทุกคนต่างปลดปล่อยอารมณ์ไปตามเสียงเพลง "เอ๋… คุ้นหน้าผู้หญิงคนนั้นจัง" ขุนเขากระตุกยิ้มร้าย
"ฮึ… ก็คงคุ้น" น้ำเสียงราบเรียบดังขึ้น สายตาของสองหนุ่มเพ่งมองไปยังร่างบางที่อยู่ในชุดเดรสสีดำเกาะอก ในขณะที่เธอขึ้นไปเต้นบนเวที มือข้างซ้ายถือแก้วเหล้าที่เหลืออยู่ค่อนแก้วแล้ว
"ไม่ลงไปทักทายหน่อยเหรอ"
"ไม่จำเป็น…" แววตาของธันวาเต็มไปด้วยความร้ายกาจและความเจ้าเล่ห์จนยากที่จะเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ริมฝีปากหนายกยิ้มร้ายเมื่อเด็กสาวคนนั้นเดินไปเต้นยั่วยวนเจดีหนุ่ม
"แรงนะนั่น คนนี้เหรอวะที่พ่อแม่มึงให้ไปดูตัว น้องอะไรนะ ที่มึงเรียกเขาตุ๊กตาเสียกบาลอะเหรอ?"
"อืม"
"ก็ไหนบอกเป็นคนเรียบร้อยไง อา!! ที่บอกว่ามาร้อยก็เรียบคือแบบนี้เองเหรอ" ขุนเขาพยักหน้าเข้าใจก่อนจะมองตามสายตาธันวาไปยังร่างอรชร เธอเมามันส์และยังเมามายกับรสสัมผัสของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป "มึงกำลังคิดจะทำอะไรเนี่ย" ขุนเขาตัดสินใจถามเพื่อน
"เปล่า" ธันวาตวัดสายตาเรียบนิ่งมองเพื่อน เขายกแก้วคอกเทลสีแดงขึ้นมาจิบเล็กน้อย
"น้องมันยังเด็ก ไว้ชีวิตมันเถอะ"
"ทำไมต้องคิดว่ากู… จะจัดการเด็กคนนั้น"
"ก็สายตามึงมันฟ้อง"
"อืม…" ชายหนุ่มกระตุกยิ้มหากเป็นยิ้มที่แฝงด้วยความร้ายกาจ นัยน์ตาสีดำขลับลึกลับจนเดาทางไม่ออกเลย ขุนเขาถอนหายใจยาว ๆ แม้ว่าคนอื่นจะเห็นธันวาในมุมร่าเริงแต่ตัวตนจริง ๆ เขากลับตรงกันข้าม เพื่อนทุกคนก็รู้ว่าเป็นยังไง
"จะเอาไงต่อวะ" ขุนเขาเอ่ยถามเสียงเรียบ
"เป็นคำถามที่น่าสนใจนะ…" ธันวายิ้มเยาะแล้วตวัดสายตามองร่างเล็กที่กำลังโยกย้ายไปมาตามจังหวะเพลง เดรสสีดำเว้าลึกด้านหลังโชว์แผ่นหลังขาวเนียนรับไปกับสีของชุดเริ่มเลื่อนขึ้นลงกับขาตั้งไมค์
"วู้… คำตอบก็คงน่าสนใจไม่แพ้กัน" ขุนเขาผิวปากแซวเด็กสาวที่กำลังเต้นอย่างยั่วยวนอยู่ด้านล่างแล้วพยักพเยิดให้ธันวาซึ่งเขายังไม่สะสายตาจากผู้หญิงที่เรียกตุ๊กตาเสียกบาลเลย
เพียงพริบตาเดียวที่ธันวาหันไปมองทางอื่นพอหันมามองหาร่างบางอีกครั้งก็ไม่เห็นเสียแล้ว เธอหายไป หายไปไหน…
"ดื่มให้กับมิตรภาพเราสองคน" ขุนเขาพยายามรั้งให้อีกฝ่ายนั่งต่อเพราะอยากดูปฏิกิริยาของธันวาว่าจะทำยังไงเมื่อเด็กคนนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาเขาแล้ว แต่ผิดคาดเพราะเพื่อนเขายังนั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ที่เดิม ไม่ได้แสดงท่าทีร้อนรนเหมือนอยากลงไปหานับดาวเลยด้วยซ้ำ
"ดื่ม…" ชายหนุ่มกระดกเหล้ารสชาติดีเข้าปาก กลั้ว ๆ ในโพรงปากแล้วกลืนลงคอ ความร้อนผ่าวบาดลึกที่ลำคอและร้อนวูบวาบในท้องส่งผลให้แก้มขาวทั้งสองข้างขึ้นริ้วแดงระเรื่อ รสชาติของมันกลบรสหวานของคอกเทลที่ดื่มไปก่อนหน้านี้หมด
ธันวานั่งดื่มกับขุนเขาอย่างใจเย็น พวกเขาคุยกันในเรื่องที่ชอบเหมือนกันอย่างออกรสจนกระทั่งลูกน้องคนสนิทของธันวาเดินเข้ามาด้วยท่าทางสำรวมแล้วโน้มตัวลงมาป้องปากกระซิบบอกผู้เป็นนาย
"คุณหนูนับดาวเมาหลับอยู่ในห้องน้ำครับนาย"
"…" ไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปากธันวา เขาตวัดสายตาเย็นชามองลูกน้องที่รีบถอยกรูดออกไปแล้วหลุบตามองปลายเท้าตัวเอง
"มีเรื่องไรวะ" ขุนเขาเอ่ยถาม
"เปล่า"
"กูว่าเรากลับเถอะ นี่ก็ดึกแล้วเดี๋ยวเพียงเธองอแงใส่กูอีก ขี้เกียจพาไปเที่ยวทะเล"
"อืม" ทั้งสองลุกขึ้นพร้อมกันและเสียงโทรศัพท์มือถือของขุนเขาก็แผดร้องได้จังหวะ ไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่าเจ้าของสายนั่นคือใคร เพราะไอ้เพื่อนตัวดีของเขามันรีบก้าวฉับ ๆ ออกไป ธันวายกยิ้มส่งเพื่อนแล้วเดินลงไปชั้นล่างอย่างใจเย็นจนมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องน้ำหญิง
"คุณหนูเมาหลับอยู่ในนี้ครับ" ลูกน้องอีกสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำเปิดประตูให้ผู้เป็นนาย ธันวาถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วเดินทำหน้าเครียดเข้ามาด้านใน หัวคิ้วหนาขมวดยุ่งเมื่อเห็นนับดาวนั่งหลับอยู่บนเคาน์เตอร์อ้างล้างมือด้วยการเอนตัวไปพิงบานกระจก รองเท้าส้นสูงทั้งสองข้างหลุดออกจากเท้าวางระเนระนาดอยู่บนพื้นพร้อมกับกระเป๋าสะพายใบจิ๋วที่มีเงินสดจำนวนหนึ่งและโทรศัพท์อยู่ในนั้น
"พ่อแม่มาเห็นคงเป็นลมลงตรงนี้ ลูกสาวคนเรียบร้อย… ฮึ! น่าขำ" ธันวากระดิกนิ้วเรียกลูกน้องให้ไปเก็บข้าวของนับดาว ส่วนเขาเดินเข้าไปใกล้แล้วสอดมือลงขาพับ อีกข้างโอบไหล่มน อุ้มเธอขึ้นมาแนบอกในท่าเจ้าสาว
"อื้อ~ คะ..ใคร" ธันวาเชิดหน้า พานับดาวเดินออกมาโดยที่ไม่สนใจว่าคนในอ้อมแขนจะมีสีหน้ายังไง การที่เขาเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำหญิงทำเอาสาว ๆ ที่รอจะเข้าไปทำธุระพากันตกใจยิ่งสภาพของนับดาวที่ตัวอ่อนปวกเปียกยิ่งทำให้พวกเธอคิดไปไกล… ไกลแบบไม่น่าให้อภัยเลย
"อื้อ! ใคร… จะพาไปไหน~" นับดาวเปล่งเสียงแหบพร่าถามคนตัวโตที่กำลังพาเธอไปที่ไหนสักแห่ง แรงสั่นไหวของร่างกายทำให้เธอรู้สึกตัวแต่สายตามันพร่ามัวจนมองใบหน้าเจ้าของแผ่นอกกว้างไม่ชัดเจน
นับดาวยกมือที่เคยห้อยโตงเตงขึ้นมากุมขมับ พยายามสะบัดหน้าเรียกสติแต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มไปเยอะพอสมควรก็ทำให้เธอต้องคลายความเกร็งทั้งตัว โอนอ่อนให้อีกฝ่านอุ้มไปขึ้นรถอย่างง่ายดาย
'ไม่ได้นะ… เราจะเมาแล้วให้ผู้ชายหน้าไหนไม่รู้อุ้มไปแบบนี้ไม่ได้ ยัยดาว… อื้อ~ ร่างกายต่อต้านเขาหน่อยสิ'
ดูเหมือนร่างกายเธอจะไม่ตอบรับคำสั่งเลยแม้แต่น้อย และในที่สุดนับดาวก็หลับไปทั้งที่ธันวายังไม่ได้วางลงบนเบาะ เขามองภาพตรงหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย แบกยัยนี่ไปส่งที่บ้านเธอตอนนี้ก็น่าสนุกดี… แต่ทว่าเขากลับทำตรงกันข้ามด้วยการแทรกตัวลงมานั่งบนเบาะรถด้านหลังส่วนนับดาวก็นั่งบนหน้าตักโดยมีอ้อมแขนแกร่งโอบประคองไว้ตลอด ร่างเล็กขยับเข้าหาความอบอุ่นจนลิปสติกบนกลีบปากเธอเปื้อนเสื้อธันวาในตอนที่ซุกหน้าลงกับอกแกร่ง
"กลับคอนโดไหมครับนาย"
"ไม่ พาเธอไปที่เซฟเฮ้าส์"
"ครับ"