8. แค่คนงาน
ธามมองคนตัวโตที่ดูน่าเกรงขามพอๆ กับพ่อเขา แต่ต่างกันก็แค่อีกคนเป็นมาเฟียใหญ่ระดับเอเชีย แต่อีกฝ่ายเป็นแค่กำนันที่คนรู้จักดีแค่ในจังหวัดหรือแถบอำเภอ แต่ก็น่าแปลกที่พ่อเขากลับเกรงใจอีกฝ่ายขนาดนี้
แม้จะรู้ว่าเคยเป็นเพื่อนรักกันก็เถอะ แต่ดูจากการปฏิบัติตัวของกำนันที่เป็นรุ่นน้องพ่อ กลับไม่มีความเคารพยำเกรงแม้แต่น้อย สาเหตุที่กำนันจงเกลียดจงชังธามก็ยังไม่รู้
“ดูคนที่นี่เชื่อฟังกำนันดีจังนะครับลุง” ธามพูดขึ้น
“ใช่ครับ เพราะกำนันแกรักลูกบ้านมาก ใครเดือดร้อนมาก็ช่วยหมด ก็ดูแต่คุณสิแกยังทนไม่ได้เลย ขนาดเกลียดพ่อคุณจะตายไป แต่ก็ยังตัดใจไม่ได้ที่จะเห็นคุณตาย”
ลุงฉ่ำพูดขึ้น ทำเอาธามอดซึ่งใจไม่ได้ พร้อมกับหันไปมองหน้าของอีกฝ่ายที่นั่งพูดคุยกับคนงาน เรื่องเก็บผลผลิตในรอบต่อไป ก่อนที่พรายจะหันมาสบตาอีกครั้ง พอดีกับที่เสียงมือถือของธามดังขึ้น เขาเลยได้สติหันหนีสายตาคม
“ขอตัวนะครับ” เขาลุกขึ้นเดินเลี่ยงออกมาจากวงสนทนาที่อยู่ใต้ต้นยางใหญ่
“ว่าไงครับเจน สบายดีหรือเปล่า” เขาถามแฟนเก่ากลับไปเมื่อรู้ว่าเธอโทรมา
“สบายดีค่ะ แล้วธามเป็นยังไงบ้าง”
“เราพึ่งเก็บแตงโมเสร็จน่ะ ร้อนมากเลยที่นี่”
“อะไรนะ!! เก็บแตงโมเหรอ”
เสียงของอีกฝ่ายดังขึ้นด้วยความตกใจ ใครจะคิดว่าลูกชายมาเฟียจะมาทำงานอะไรแบบนี้ได้ สุดท้ายเขาก็บอกว่าแค่ล้อเล่นเท่านั้น เพราะตอนแรกธามบอกว่าจะไปเรียนต่อ เลยขอเลิกกับอีกฝ่าย เพื่อไม่ให้เธอเสียเวลารอคนที่ไม่รู้ว่าจะมีพรุ่งนี้อีกกี่วัน
ทั้งคู่พูดคุยกันอยู่นาน และเจนจิราก็ยังบอกว่าจะรอเขากลับมาไม่ว่าจะนานแค่ไหน ซึ่งธามก็ปฎิเสธเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว เพราะในใจก็ไม่ได้รู้สึกมากมายกับเธอด้วย ตอนนั้นเขาพึ่งสิบเจ็ดในตอนที่อีกฝ่ายสารภาพรัก เห็นเพื่อนมีแฟนก็เลยรับปากคบเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าจะยืดยาวจนถึงสามปี สุดท้ายเขาก็บอกเลิกเธอจนได้
“เห้อ!” เสียงถอนหายใจดังขึ้น เขาไม่รู้ว่าตัวเองเดินคุยมาไกลแค่ไหน เพราะบรรยากาศในป่ามันก็ร่มรื่นและเย็นสบาย จนเผลอเดินเข้ามาทั้งที่ไม่คุ้นสถานที่เอาซะเลย ก่อนจะชะงักเท้าเมื่อเงยหน้าขึ้นมองทางตรงหน้า
“จะไปไหน รู้จักแถวนี้ดีแล้วเหรอถึงคิดจะเดินสำรวจ” เสียงทุ้มของพรายดังขึ้นจากด้านหลัง ทำเอาคนที่กำลังสับสนถึงกับยิ้มกว้างออกมาอย่างโล่งอก ใบหน้าหวานที่มันกำลังมองเขาพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกาย ทำเอาคนโตกว่าถึงกับต้องหมุนตัวเดินหนีเอาดื้อๆ
“อาพรายครับผมได้ยินว่าแถวนี้มีเขื่อนด้วย ธามอยากไปดูจังเลยครับคงสวยมากใช่ไหม” ได้ยินแบบนั้นร่างสูงของกำนันก็หยุดชะงักลง ทำเอาคนที่เดินตามอย่างรีบเร่งชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างทันที
“อ่ะ! จะหยุดทำไมไม่บอกกันบ้างเลย เจ็บ!”
พรายหันกลับมาตั้งท่าจะต่อว่าอีกฝ่าย แต่ภายใต้หมวกที่คนตัวเล็กกว่าใส่อยู่ ใบหน้าหวานนี้กลับมีหยดเลือดไหลออกมาจากจมูกเสียได้ ทำเอาพรายถึงกับนิ่งไปเพราะแค่เดินชนแค่นี้ทำไมถึงเลือดกำเดาไหลล่ะ
“อือ! สงสัยอากาศร้อนครับ”
“งั้นมานี่ นอนลง” พรายพูดพร้อมกับนั่งลงใต้ต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะจับอีกฝ่ายให้นอนหนุนตักเขาทันที หมวกใบใหญ่ที่ธามใส่ก็ถูกถอดออก เผยให้เห็นใบหน้าชัดเจน ผ้าเช็ดเหงื่อที่เขามีติดตัวห้อยคอเสมอ ถูกเอามาซับเลือดออกให้อีกฝ่ายโดยไม่ลังเล
พร้อมกับจับให้หัวของธามแหงนขึ้นเพื่อหยุดการไหลของเลือด ทำเอาคนโตกว่าถึงกับกลืนน้ำลายทันที เมื่อเห็นช่วงคอที่ขาวเนียนของเด็กหนุ่ม
“ขอบคุณนะครับอาพราย”
“อย่าพูดมาก ถ้าหาทางแก้ได้แล้วก็อย่าลืมให้พ่อนายจ่ายเงินให้ฉันด้วยล่ะ แลกกับชีวิตนายเขาคงยอม”
“ถ้าอาต้องการเอาส่วนของผมไปก็ได้ครับ”
“หึ! รวยมากนักเหรอ” พรายส่งเสียงดูถูก แม้เขาจะยังใช้มือถือผ้าปิดจมูกให้อีกฝ่ายอยู่ก็เถอะ
ธามยกยิ้มอยู่ภายใต้ผ้าที่เปื้อนเหงื่อของกำนัน ซึ่งเขายังคงใช้มันซับเลือดให้ จนกระทั่งมันหยุดไหลไปตอนไหนไม่รู้เพราะเขาดันหลับไปทั้งอย่างนั้นเพราะเหนื่อยล้า กำนันหนุ่มนั่งมองใบหน้าของอีกฝ่ายราวกับต้องมนตร์ ในชีวิตใครจะคิดว่าเขาจะได้มานั่งมองหน้าผู้ชายแบบนี้ แถมยังนอนหนุนตักอยู่ด้วย
“ทำไมฉันจะต้องมาช่วยคนที่เกี่ยวข้องกับมันด้วยนะ” เสียงก่นว่าตัวเองในใจ ก่อนเขาจะเหสายตาไปทางอื่น เพราะตอนนี้ในโสตประสาทมันมีแต่ภาพใบหน้าของอีกฝ่ายที่มันเด่นชัด และยังปะปนกับใครบางคนที่เขาเกลียดด้วย แต่สุดท้ายก็ก้มลงมามองสำรวจอีกเช่นเคย
เรียวตาสวยที่ปิดสนิท ทำให้ได้เห็นขนตาที่หนายาวเป็นแพ ไล่ลงมาก็เป็นจมูกเรียวที่ยังคงมีร่องรอยคราบเลือดเปรอะเปื้อนอยู่ และริมฝีปากอิ่มรูปกระจับที่มันออกเป็นสีแดงเรื่อขับกับผิวขาว ซึ่งเขามักจ้องมองอยู่เสมอ
ลมที่พัดโชยมาพร้อมกับบรรยากาศที่ร่มรื่นของป่าติดกับไร่ ทำให้กำนันหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงทำให้เขาผล็อยหลับไปเช่นกัน จนไม่รู้ว่าเวลามันล่วงเลยมากระทั่งถึงเวลาที่รถของลูกค้ามาถึงแล้ว โรมและแก้วออกตามหาเจ้านายของตัวเองอย่างเป็นห่วง เพราะเห็นว่าหายไปกว่าสองชั่วโมงแล้ว
“ชู่ว! หลับอยู่แก้วกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่เฝ้าเอง”
แก้วพยักหน้าเมื่อเห็นแล้วว่าเจ้านายนั้นนั่งพิงต้นไม้หลับอยู่ คงจะเหนื่อยกันทั้งคู่นั่นแหละ โรมเลยเดินไปนั่งห่างออกมาไม่ไกลนัก พร้อมกับถ่ายรูปส่งให้เจ้านายดู