บท
ตั้งค่า

7. ลูกหนี้

ร่างสูงก้าวลงมาจากบันได ก่อนจะมองซ้ายขวาหาคนที่พึ่งมาอยู่ใหม่ แต่กลับไม่เห็นหน้าแม้แต่น้อย

“หาใครอยู่เหรอครับ มีอะไรกำนันใช้ผมได้นะ ผมชื่อโรม ยังไงรบกวนด้วยนะครับ” เสียงจากทางด้านหลังทำให้พรายต้องหันกลับมามอง เขาพยักหน้าให้ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเรียบ

“แล้วเด็กนั่นไปไหนล่ะ”

“ตามลุงฉ่ำกับแก้วเข้าไร่ครับ”

คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันไม่พูดอะไร ก่อนจะเดินตรงไปที่ไร่เช่นกัน ซึ่งโรมเองก็รีบตามไปด้วย จนกระทั่งมาถึงภาพที่เห็นคือธามกำลังช่วยยกเข่งแตงโม ทยอยเอาออกมาจากแถวที่มีคนเก็บใส่ไว้แล้ว โรมรีบเข้าไปช่วยในทันที

“ผมทำเองครับ มือแดงหมดแล้ว”

“ผมบอกให้ใส่ถุงมือก็บอกไม่ถนัด ดูสิแดงจนน่ากลัว”

แก้วพูดขึ้นหลังจากที่สังเกตอยู่นาน เข่งแตงโมไม่ใช่เบาๆ ถึงจะยกกันคนละข้างก็เถอะ แต่คนที่ไม่เคยทำงานแบบนี้ ปุบปับมาทำเลยยังไงก็ไม่ไหว ยิ่งตัวขาวหน้าหวานแบบนี้ด้วยแล้ว โดนแดดแค่ครึ่งชั่วโมงยังแดงไปทั้งตัว

“หึ! สำออย เรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้จะไปทำอะไรกิน”

เสียงจากกำนันหนุ่มดังขึ้นพอที่คนงานจะหันกลับมามอง เพราะต่างก็สนใจคนแปลกหน้าที่มาใหม่กันอยู่แล้ว สาวๆ ที่มาช่วยคัดไซส์ก็พุ่งเป้ามาที่หนุ่มหล่อทั้งสองคน แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะเข้ามาทักทาย เพราะเป็นคนของเรือนกำนันเลยไม่มีใครกล้าคุยด้วยเท่าไหร่

“ผมทำเองครับ” โรมยังคงบอกให้ธามไปนั่งพัก

“พี่โรมอย่าทำเหมือนธามเป็นคุณหนูทำอะไรไม่เป็นสิ มีมือมีเท้าเท่ากัน คนอื่นทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ พี่ก็ไปช่วยยกสิ หาคู่เอาแล้วกัน ผมได้คู่กับแก้วแล้ว” เสียงหวานของเด็กหนุ่มดังขึ้นจนทุกคนยืนมองอีก

พร้อมกับใช้มือดันร่างสูงออกให้พ้นทาง ก่อนจะพยักหน้าให้แก้วที่ยังยืนนิ่งมองหน้าที่แดงก่ำเพราะแดด แต่ยังไม่ทันที่จะได้ท้วงอะไรอีก หมวกใบโปรดของพรายก็วางลงบนหัวของธามซะก่อน

“หึ! เห็นแล้วน่าเวทนา เดี๋ยวจะมาตายเป็นผีเฝ้าไร่ฉันซะก่อน จะได้กลายเป็นอย่างอื่น เอ้า!! มัวแต่มองมันจะทันตลาดไหมนั่น รีบๆ เลยเดี๋ยวไม่ทันรถมารับช่วงบ่าย”

เสียงบ่นที่ดังขึ้นประจำเวลาทำงานทำเอาทุกคนต้องรีบก้มหน้าทำงานต่อทันที คนไหนเก็บก็เก็บ คนไหนคัดไซส์ก็คัดไซส์แบ่งกันเป็นสัดส่วน ที่นี่มีงานให้ทำตลอดเพราะกำนันเป็นนักพัฒนาตัวยง

โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการเกษตรแบบนี้ จึงเป็นที่รักของคนในตำบลและพื้นที่ใกล้เคียง เพราะเขานำรายได้มาให้ทุกคนจนไม่ต้องออกไปทำงานต่างเมืองกัน ยกเว้นคนที่ไม่ชินและยังหลงในแสงสี

กำนันพรายเดินผละหนีไปจากตรงนี้ ก่อนที่ใบหน้าหวานของใครบางคนจะเผยยิ้มบางๆ ออกมา และทำงานต่อจนกระทั่งแล้วเสร็จในช่วงสิบเอ็ดโมง

“นี่ครับน้ำหวานดื่มจะได้มีแรง” ลุงฉ่ำส่งแก้วน้ำที่เขาแยกมาให้ธามโดยเฉพาะ แม้อีกฝ่ายจะไม่ถือเรื่องพวกนี้ก็เถอะ แต่ยังไงเสียเขาก็เป็นถึงลูกมาเฟีย จะไม่ดูแลเลยก็ไม่ได้ ถ้าลูกเขาเป็นอะไรคงได้แย่กันหมด

“ขอบคุณครับลุง ว่าแต่ยังปวดหัวอยู่ไหมครับ”

“โอ๊ย!ไม่เป็นไรแล้ว แค่นี้เองอย่ากังวลเลยครับคุณ” ลุงฉ่ำพูดพร้อมกับโบกมือไปด้วย ธามจึงยิ้มหวานออกมาอย่างสบายใจ ก่อนจะหันไปสบเข้ากับนัยน์ตาคมที่จ้องมองอยู่ก่อนแล้ว จู่ๆ เขาก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาเสียดื้อๆ จนต้องเสหลบไปเองอัตโนมัติ

“นี่ทำไมถึงได้มาเป็นคนงานที่บ้านกำนันได้ล่ะ” เสียงที่ดังขึ้นไม่ได้มาจากใครแต่เป็นเซียงหรั่งนั่นเอง ความอยากรู้ของหนุ่มหน้าหวานในหมู่บ้านทำเอาโรมถึงกับยิ้มตามท่าทีที่ปิดไม่มิดจนต้องตั้งคำถาม

“หรั่งจะรู้ไปทำไมล่ะ” โรมแกล้งถามอีกฝ่ายขึ้นอย่างเอ็นดู เขาถูกชะตาเด็กหนุ่มตั้งแต่ลงมาถามทางเมื่อคราวก่อนแล้ว พอมีโอกาสได้จับคู่ทำงานก็รีบถามชื่อทันที เพราะอีกฝ่ายตรงสเปกเขาเอามากๆ

“เอ้า! มีไผบ่อยากฮู้แหน” หรั่งลืมตัวก็พูดภาษาอีสานกับอีกฝ่ายทันที ก่อนจะนึกขึ้นได้พร้อมกับยิ้มแห้งใส่

“แฮะแฮะ ทุกคนก็อยากรู้หมดแหละคร๊าบ ใช่ไหมพวกเรา มีใครไม่อยากรู้บ้างว่าทำไมคนกรุงเทพถึงมาทำงานที่นี่ได้ หน้าตาก็อย่างกับพระเอกละคร ดูผิวสิแดงหมดแล้ว”

เซียงหรั่งไม่พูดเปล่าแต่เอื้อมมือมาจับด้วย ทำเอาโรมถึงกับหงุดหงิดกับการกระทำของอีกฝ่าย แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากอะไรก็มีบางสิ่งลอยข้ามหัวเขาไป ตกใส่หัวของเซียงหรั่งดัง “โป๊ก” เพียงเท่านั้นทุกอย่างก็เงียบลง เพราะที่มาของขันใบเล็กนั้น มันถูกขว้างมาจากมือเจ้าของไร่ ที่แม่นเอาซะเหลือเกิน

“ฮุ!! กำนันแหม่ะ ผมเจ็บกะเป็นเด้” เสียงบ่นอุบอิบแว่วออกมาเบาๆ พอให้ได้ยินแค่คนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เท่านั้น ก่อนที่ความเงียบจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะแทน

“พี่หรั่งก็อยากรู้เกิน รอให้ไม่มีคนค่อยถามก็ได้ นี่อะไรมาถามต่อหน้ากำนันและคนในหมู่บ้านอีก บางเรื่องไม่รู้น่าจะดีต่อชีวิตเรานะพี่”

แก้วพูดขึ้นเพื่อสอนคนอื่นไปในตัว เพื่อจะได้ไม่ต้องอยากรู้เรื่องของชาวบ้านอีก แต่ก็นั่นแหละวิถีของคนย่อมอยากรู้เรื่องของคนอื่นกันอยู่แล้ว ยังไงก็หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก และคนที่จะจบเรื่องนี้ได้ดีที่สุดก็คงไม่พ้นเจ้าของไร่ที่ตอนแรกกะว่าจะไม่ยุ่งแล้วเชียว กำนันพรายจึงลุกขึ้นพูดเพื่อให้ทุกคนหยุดสืบเรื่องราว เกี่ยวกับคนแปลกหน้าที่จะต้องอาศัยอยู่ที่นี่อีกนาน

“พ่อของธามติดหนี้ฉัน เลยให้ลูกชายมาทำงานใช้หนี้แทน เอาง่ายๆ ว่าสองคนนี้คือคนงานของฉัน ไม่ต้องสงสัยอะไรให้มากความอีก ให้จบแค่นี้นะเข้าใจกันใช่ไหม”

กำนันพูดออกมาเสียงดังฟังชัดเหมือนตอนที่เขาจัดประชุมลูกบ้าน และไม่มีใครกล้าที่จะแย้งอะไรเลยซักนิด

“ครับ/จ้ากำนัน” เสียงตอบรับจากทุกคนดังขึ้น เมื่อได้ฟังคำประกาศิตของคนที่เด็ดขาดสุดในหมู่บ้าน ทุกคนจึงสงบปากสงบคำไม่ถามถึงเรื่องของสองหนุ่มนี่อีกก่อนจะหันไปพูดคุยกันเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel