บทที่ 2 บุกถ้ำเสือ 2
ฝ่ายชลินดาเมื่อสงครามร้อนจบลงน้ำตาแห่งความเสียใจก็กลับมาอีกครั้ง ได้แต่เงียบสะอื้นไห้ในอ้อมกอดของคนที่ข่มเหงตนก่อนหน้านี้ จะด่าเขาเขาก็ไม่ได้เพราะตัวเองมาให้ขุนพลข่มเหงเอง
“ร้องไห้ทำไมหึ” ถามพรางจูบหน้าผากมนด้วยความเอ็นดู
“คุณข่มขืนปิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปิ่นไม่น่ามาบ้านคุณเลยวันนี้ ฮือๆๆ” เอ่ยพร้อมกับยกกำปั้นน้อยๆ ทุบอกเปลือยเปล่าของคนตัวโต
“ไม่มาหาตอนนี้ยังไงคืนนี้ฉันก็แอบเข้าห้องไปเป็นความฝันเธออยู่ดี ไม่เอาไม่เสียใจนะ ต้องภูมิใจที่ได้ฉันเป็นสามี ไม่ร้องนะเด็กน้อยของฉัน” พูดพร้อมกับกระชับอ้อมกอดตัวเองให้แน่นขึ้นจนร่างเล็กขยับกายไม่ได้เลยตอนนี้
“สารเลว ถ้าปิ่นท้องคุณจะทำยังไง แล้วปิ่นจะได้เรียนต่อไหม ปิ่นอยากเป็นหมอ ฮือๆๆ” ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรแล้วได้แต่ตัดพ้อร้องไห้เล่าถึงความใฝ่ฝันของตัวเองให้คนใจร้ายฟัง
“ไม่ร้องไห้นะปิ่น เป็นเมียฉันสบายจะตาย ถ้าท้องก็เป็นแม่คนโชคสองชั้นเลยนะ ได้ผัวหล่อแบบฉันไม่พอไหนจะมีลูกกับฉันอีก ดูสิกำไรเห็นๆ”
คนไม่ยอมรับผิดยังอ้างเหตุผลมั่วๆ ก็ทำไมเขาจะรักเด็กในอ้อมกอด อยากมีเธอข้างกาย อยากมีชลินดาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและทุกลมหายใจเข้าออก
“ฉันเกลียดคุณ ฉันเกลียดคุณคุณขุนพล เข้าใจไหมฉันเกลียดคุณ!” ชลินดาตะโกนใส่หน้าเขาให้ได้ยินชัดๆ ก่อนจะรวบรวมแรงทั้งหมดผลักร่างใหญ่จนตัวเองเป็นอิสระจากพันธนาการแข็งแรงของเขา
“อะไรวะ! พูดดีด้วยไม่ชอบใช่ไหม เป็นเทพบุตรให้ไม่ชอบใช่ไหม”
ขุนพลลุกขึ้นจากเตียงนอนพร้อมกับกระชากร่างเล็กลุกตามขึ้นมาด้วย และเขย่าร่างเล็กแรงๆ ด้วยความโกรธ เกิดมาไม่เคยยอมให้ใครมาว่าต่อหน้าแบบนี้เลย สำหรับชลินดาแล้วเขาเป็นได้ทุกอย่าง แต่ขออย่างเดียวอย่า ‘เกลียด’ เขาก็พอ
“ฮือๆๆ อึก! คุณมันเลว ไอ้แก่บ้าตัณหา ไอ้เลว! อึก!”
“ฉันเลวได้กว่านี้อีกถ้าเธอต้องการ” ว่าแล้วก็ผลักร่างเล็กลงบนเตียงอย่างไม่ไยดีก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
ชลินดาได้แต่มองตามหลังคนตัวโตไปด้วยความคับแค้นใจ ก่อนจะลุกขึ้นเดินขาสั่นเก็บเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งไปคนละทิศละทางขึ้นมาใส่ เมื่อใส่เสื้อผ้าเสร็จก็รีบออกจากห้องไปทันที
“เอ้า! นึกว่ากลับไปแล้วเสียอีก แล้วนั่นคุณพลทำอะไรคุณหนูน้อยรึเปล่า ทำไมร้องไห้ออกไปแบบนั้นสมิง”
เพ็ญแม่บ้านวัยกลางคนเอ่ยถามคนสนิทของเจ้านายด้วยความสงสัย ตอนแรกเธอตั้งใจจะเอาของว่างมาให้ทั้งสองในห้องนั่งเล่น แต่พอไปถึงก็ไม่เห็นทั้งสองแล้ว เลยคิดว่าคุณหนูข้างบ้านกลับไปแล้ว แต่ทำไมเมื่อกี้เธอถึงวิ่งผ่านหน้านางไป
“ผมจะไปรู้เหรอครับป้า” สมิงรู้แต่ไม่รู้จะพูดยังไงกับแม่บ้าน
“เหรอ งั้นป้าไปจัดเตรียมอาหารเย็นให้คุณพลก่อนนะ” ว่าแล้วก็ขอตัวไปทำครัว
“เจ้านายเอาอีกแล้ว คุกเลยนะนั่นถ้าเด็กนั้นไปฟ้องพ่อกับแม่” สมิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะเดินหนีจากตรงนี้เพื่อไปพบเจ้านายที่เป็นทั้งเพื่อนของตน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เมื่อมาถึงหน้าห้องของเจ้านายก็ไม่รอช้าที่จะเคาะให้คนข้างในมาเปิดห้องได้ แต่ก็ไม่ต้องรอนานเมื่อเจ้าของห้องตะโกนบอกว่าห้องไม่ได้ล็อก
“มีอะไรสมิง? ”
“เจ้านายทำอะไรคุณหนูน้อยคนนั้นอีกครับ ทำไมเธอร้องไห้ออกไปแบบนั้น” รู้อยู่แล้วว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรเพราะดูจากเจ้านายของเขาที่ออกมายืนเปลือยคุยกับเขาตอนนี้สิ แต่ก็อยากถามให้ชัดเจน
“จะทำอะไรก็ได้ไหม นั่นมันเมียฉันเว้ย!” พูดพร้อมกับเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอว เพราะก่อนหน้านี้เขาไม่มีอะไรปกปิดความกำยำเลย
“แล้วเขาอยากเป็นเมียเจ้านายรึเปล่าล่ะ”
สมิงถามกวนกลับไป เท่าที่สังเกตอารมณ์ของคนพูดแล้วดูท่าจะไม่ดีเท่าไหร่ คงถูกสาวน้อยพูดแทงใจดำเข้าละสิแบบนี้
“อยากไม่อยากก็ช่างเธอสิ เพราะยังไงปิ่นก็ต้องเป็นเมียฉันคนเดียว”
ขุนพลเอ่ยอย่างไม่สนใจ ตั้งมั่นไว้แล้วว่าคนตัวเล็กยังไงก็ต้องเป็นแม่ของลูกตน ไม่รู้หรอกว่าทำไมต้องมั่นใจขนาดนี้ รู้แต่ว่าชีวิตต่อจากนี้ต้องมีสาวน้อยข้างกาย ใครจะขัดขวางให้มันรู้ไปว่าจะขัดขวางเขาได้ มาสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่งเลย
“คนเขาไม่รักเราจะไปบังคับเขาไม่ได้นะเจ้านาย”
“ไอ้สมิงมึงอยากนอนหยอดน้ำข้าวต้มไหม เคล้ง!” ว่าพร้อมกับจับแจกันที่อยู่ใกล้มือปาลงพื้นห้องด้วยความหงุดหงิด
‘เอาแล้วไงสมิงพูดแทงใจดำแล้วไหมล่ะ’ พึมพำในใจก่อนจะยิ้มแห้งๆ ให้นายหนุ่มแล้วตอบ “ไม่หรอกครับ แต่ผมพูดตามความจริง”
“จะไปไหนก็ไปเลยไป อย่าเสนอหน้ามาให้เห็นอีก แล้วบอกป้าเพ็ญด้วยว่าวันนี้ฉันไม่กินข้าวที่บ้าน จะไปกินข้าวกับเมย์”
“แล้วผมต้องไปด้วยไหมครับ”
“ไม่ต้องไป ฉันจะไปค้างกับเมย์” ว่าแล้วก็เดินไปยังหน้าต่างของห้องนอนตนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องของชลินดา
“ครับผม” รับคำแล้วก็เดินออกจากห้องไปโดยไว