บทย่อ
“คุณเป็นใคร? ” สาวน้อยเอ่ยถามเสียงแข็ง ใช่เธอเพิ่งเห็นใบหน้าคมชัดก็วันนี้เองเขาหล่อ มีกล้ามหน้าท้องที่แสนจะแข็งแกร่ง “จุๆ สาวน้อยต่อจบบทก่อนค่อยถามนะ” ชายนิรนามเอามือปิดปากสาวน้อยใต้ร่าง ก่อนร่างหนาจะเริ่มเบียดเสียดสีเข้าหาร่างเล็ก ร่างหนาบิดพลิ้วไปตามจังหวะรักเป็นท่วงทำนองเพลงรักที่เขาเป็นคนแต่งและควบคุมบทเพลงเอง ส่วนร่างเล็กใต้ร่างนั้นได้แต่บิดเร้าครวญครางไปตามกระแสความเสียวซ่านที่ชายหนุ่มเหนือร่างกำลังปลุกปั่นให้แก่ตน “โอว์!...ดีเหลือเกินเด็กน้อยจ๋า.....ชูว์!.....” เสียงเข้มคำรามก้องด้วยความสุขสม เมื่อตัวเองนั้นถึงปลายโค้งฟ้าแล้ว และไม่นานก็ตามมาด้วยเสียงร้องครวญครางเล็กของ “กรี๊ดดดด.....” สาวน้อยวัยกระเตาะกรีดร้องอย่างมีความสุข เธอกรี๊ดทุกครั้งที่คนเหนือรางส่งถึงวิมารดอกฟ้า ก่อนจะเผลอหลับหมดแรงไปอย่างเหนื่อยล่า
บทที่ 1 กระหายสวาทมาร
ในห้วงความฝันของสาวน้อยไร้เดียงสาวัย 18 ปี ทุกค่ำคืนมักจะฝันประหลาด จนคล้ายเรื่องจริง และยิ่งแปลกไปกว่านั้นตื่นเช้ามาเนื้อตัวปวดระบมไปหมด เหมือนกับว่าตอนกลางคืนไปออกรบจับศึกมาอย่างไงอย่างงั้น แต่สาวน้อยก็ยังคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ฝัน อีกอย่างจะเล่าให้ใครฟังได้เล่า พ่อแม่หรือ เล่าไปก็อาย อายุหล่อนยังน้อยไม่ควรหมกมุ่นกับเรื่องโลกีย์พรรค์นี้
ในค่ำคืนนี้ก็เช่นกัน มันมาอีกแล้วความฝันที่แสนจะเร่าร้อน แต่ครั้งนี้มาแปลกกว่าทุกคืน เพราะทุกสัมผัสร้อนจากมือหนาที่ตนจำได้ไม่เคยลืม ไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น ใบหน้าหล่อเหลานั้นเด่นชัดเสมอ มันรุนแรงและหนักหน่วงกว่าทุกครั้งที่ได้พบ จนต้องลืมตาขึ้นมาเพื่อให้ความฝันนั้นจางหายไป แต่แล้วก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อพบกับร่างหนาที่กำลังคร่อมทับร่างเล็กของตนอยู่ สาวน้อยเพิ่งรู้ก็ตอนนี้เองว่ามันไม่ใช่ความฝัน แต่มันเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง แล้วทำอย่างก็เด่นชัดขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อมือหนาเอื้อมไปเปิดไฟที่หัวเตียงของหล่อน
“คุณเป็นใคร” สาวน้อยเอ่ยถามเสียงแข็ง ใช่เพิ่งเห็นใบหน้าคมชัดก็วันนี้เอง เขาหล่อ มีกล้ามหน้าท้องที่แสนจะแข็งแกร่ง
“จุ๊ๆ สาวน้อยต่อจบบทก่อนค่อยถามนะ” ชายนิรนามเอามือปิดปากสาวน้อยใต้ร่าง ก่อนร่างหนาจะเริ่มเบียดเสียดสีเข้าหาร่างเล็ก
ร่างหนาบิดพลิ้วไปตามจังหวะรักเป็นท่วงทำนองเพลงรักที่เขาเป็นคนแต่งและควบคุมบทเพลงเอง ส่วนร่างเล็กใต้ร่างนั้นได้แต่บิดเร้าครวญครางไปตามกระแสความเสียวซ่านที่ชายหนุ่มเหนือร่างกำลังปลุกปั่นให้แก่ตน
“โอว์!...ดีเหลือเกินเด็กน้อยจ๋า.....ชูว์!.....”
เสียงเข้มคำรามก้องด้วยความสุขสม เมื่อตัวเองนั้นถึงปลายโค้งฟ้าแล้ว และไม่นานก็ตามมาด้วยเสียงร้องครวญครางเล็กของ
“กรี๊ดดดด.....”
สาวน้อยวัยกระเตาะกรีดร้องอย่างมีความสุข เธอกรี๊ดทุกครั้งที่คนเหนือรางส่งถึงวิมานดอกฟ้า ก่อนจะเผลอหลับหมดแรงไปอย่างเหนื่อยล้า
“อ๊า!...หลับซะนะเด็กน้อยของฉัน”
เสียงเข้มแหบพร่าเอ่ย พร้อมกับพลิกตัวนอนข้างกายของสาวน้อย ก่อนจะดึงรั้งร่างเล็กเข้ามาซุกอกตนนอนหลับไปด้วยกันในค่ำคืนที่แสนจะหฤหรรษ์นี้
ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ข้างบ้านของสาวน้อยผู้น่ารักในอ้อมกอดเขาก็ไม่อาจจะหักห้ามความปรารถนาของตัวเองได้เลย เพราะความอยากได้ของเขาจนทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ซ้ำๆ แทบทุกคืน ใช่เรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากตัวเขาและคนสนิทนั้นเอง
“เฮ้อ! ”
ร่างใหญ่ถอนหายใจแรงๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อนใจ ไม่รู้จะทำเช่นไรกับชีวิตนี้ จะปล่อยคนตัวเล็กไปก็เสียดาย กลัวเหลือเกินว่าจะมีชายอื่นมาทับรอยตน ตัวรู้ว่ามันไม่ควรที่จะทำแบบนี้กับสาวน้อยวัย 18 ปีอย่างเจ้าหล่อน
ย้อนไปเมื่อต้นเดือนที่แล้ว ขุนพล ชาติเจริญทรัพย์ หรือ พล วัย 35 ปี เจ้าของโรงแรม 7 ดาวชาติเจริญ ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่ตนได้ซื้อไว้ และเพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางไปทำงานจึงได้เลือกบ้านหลังนี้ ชายหนุ่มเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลชาติเจริญ คุณพ่อได้เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก เขาเติบโตมากับแม่ โชคดีที่พ่อเขาร่ำรวยเลยทิ้งสมบัติไว้ให้มากมาย และตอนนี้แม่ของเขาก็ไปเที่ยวยุโรป ไปแบบไม่มีกำหนดกลับ เพราะเบื่อลูกชายที่ไม่ยอมหาลูกสะใภ้ให้ตนสักที คุณพิสมัย ชาติเจริญ วัย 58 ปี จึงต้องไปเที่ยวผ่อนคลาย และถ้ากลับมารู้ว่าลูกชายมาซื้อบ้านใหม่และย้ายมาอยู่โดยไม่แจ้งตน มีหวังบ้านบึ้มแน่ๆ
ย้ายมาก็ได้ประสบพบเพื่อนบ้านน่ารักอย่างชลินดา วไลกร หรือปิ่น สาวน้อยวัย 18 ปี ลูกสาวของเจ้าของร้านดอกไม้ที่อยู่ตรงหน้าปากซอยของหมู่บ้านแห่งนี้นั่นเอง
เพียงแค่ยิ้มที่ได้เชยชมก็ทำให้บุรุษหนุ่มแข็งแกร่งอย่างเขาเก็บมานึกคิดและใฝ่ฝันทุกค่ำคืน จนแล้วจนรอดเก็บกักความทรมานและความปรารถนาไม่ไหว จนได้บุกรุกเข้ามามอบความเป็นชายชาตรีให้เด็กน้อยไร้เดียงสา และความภาคภูมิใจก็ได้เกิดขึ้น เมื่อครั้งแรกของเธอเป็นเขาที่ได้ครอบครอง พอตอนนี้จะถอนตัวก็กลับถอนไม่ได้เสียแล้ว เมื่อกวางน้อยนั้นแสนหวานและเร่าร้อนเหลือเกิน
“เฮ้อ! เพราะความอยากของเราแท้ๆ ถึงทำให้เป็นบ่วงแบบนี้ ฉันจะเอายังไงกับเธอดีแม่สาวน้อยวัยแรกแย้ม” ขุนพลพำพึมเบาๆ เมื่อกลับมาอยู่ในปัจจุบัน
“อื้อ!” ร่างเล็กครวญครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน เมื่อถูกมือใหญ่รุกเร้ากึ่งกลางกาย
“อ่า! เธอติดไฟไวเหลือเกินปิ่น อูว์! ”
การกระทำมันสวนทางกับความคิดเสมอ ตอนนี้บุรุษหนุ่มหลงลืมไปแล้วว่าอันไหนดีอันไหนชั่ว ก็ตอนนี้ร่างเล็กนั้นครวญครางกระเส่าน่าค้นหาเหลือเกิน มือหยาบกร้านจึงไม่รอช้าที่จะสอดแทรกเข้าไปในกลางกายสาว ถึงแม้ว่าคนตัวเล็กนั้นจะหลับอยู่ก็ตาม
“อีก 2 ชั่วโมงก็จะตี 5 แล้ว ขออีกรอบก่อนจะกลับไปนะสาวน้อย” เมื่อเหลือบตามองโทรศัพท์เครื่องแพงของตัวเองแล้ว ก็ไม่รอช้าที่จะพลิกร่างขึ้นคร่อมร่างเล็กอย่างรวดเร็ว
“ว้าย! อ่า! ”
ร่างเล็กร้องออกมาได้แค่นั้น เมื่อถูกปากหนาบดขยี้ให้ แถมกายสาวก็ถูกสอดแทรกด้วยความแข็งแรงของชายหนุ่ม ตอนนี้ชลินดาครึ่งหลับครึ่งตื่น แยกไม่ออกว่ามันคือความจริงหรือความฝันกันแน่น แต่เธอก็หาได้ใส่ใจไม่ เมื่อทุกคืนมักจะฝันแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา
“ปิ่นจ๋า...ขออีกรอบนะแล้วฉันจะกลับ พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะ” ว่าแล้วเอวสอบก็ไม่รอช้าที่จะขับเคลื่อนแรงม้าของตน
“อะ! อืม!” เสียงครวญครางดังมาเป็นระยะ พร้อมกับเสียงคำรามซ่านของคนต้นเรื่อง
“โอว์! ตอดรัดดีเหลือเกินคนดีจ๋า อ่า! ”
เสียงพร่ากระซิบข้างหูคนตัวเล็ก มือหยาบจับรั้งเอวเล็กให้มั่น ก่อนจะโถมแรงม้าเฮือกสุดท้ายของตนเข้าหากระบอกอย่างดุดัน
“อะ! โอว์!” ร่างเล็กแอ่นเด้งรับอย่างรู้จังหวะ มือเล็กจิกผ้าปูที่นอน ใบหน้าเปียกชื้นเหงื่อแหงนมองเพดานห้องอย่างคนละเมอ ก่อนจะร้องออกมาอีกครั้ง เมื่อความสุขซ่านไปทั่วเรือนกาย
“อา! ขอบคุณนะสาวน้อย..อืม!” ใบหน้าหล่อซบลงซอกคอระหงอย่างหมดเรี่ยวแรง ก่อนจะขบเม้มฝากรอยไว้ให้คิดถึงและพลิกร่างไปนอนข้างกายคนตัวเล็กด้วยความเหนื่อยล้า ยังไม่หายเหนื่อยดีก็ถูกรบกวนด้วยเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัยของตน
ตึ๊ด! ตึ๊ด! ตึ๊ด!
“ใครวะ! คนยิ่งเหนื่อยๆ อยู่” สบถออกมาด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะหยิบขึ้นมาดูว่าใครโทรมา
“น่าขึ้นเงินเดือนให้จริงๆ เลยสมิงนิ รู้หน้าที่ก็แกนี่แหละ” บ่นกับโทรศัพท์ก่อนจะกดรับสาย
“รู้แล้วน่าสมิง นายจะโทรตามทำไมวะ! ”
“ไม่ได้หรอกเจ้านาย ผมกลัวเจ้านายหลับคาอกเด็กเอา”
สวนกลับเจ้านายด้วยความหมั่นไส้ ก็ดูเอาเถอะ ตัวเองไปมีความสุข ส่วนตัวเขามานอนให้อาหารยุงดูต้นทางให้เจ้านายหนุ่ม
“เออน่า! ใส่เสื้อผ้าเสร็จจะตามลงไป นายเนี่ยนะทำหน้าที่ดีจนฉันอยากหักเงินเดือน” ว่าแล้วก็กดตัดสายลูกน้องตัวขัดความสุขทันที
เพียงเวลาไม่นานขุนพลก็แต่งตัวเสร็จ และก่อนจะออกจากห้องสาวเจ้าก็ไม่ลืมจะจูบลาก่อนกลับบ้านตน ทำแบบนี้ทุกค่ำคืน เหมือนกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความฝันสำหรับชลินดา
เช้าวันนี้ชลินดาตื่นสายกว่าทุกวัน จนผู้เป็นมารดามาตามถึงห้อง เพราะตอนแรกให้เด็กรับใช้ขึ้นมาตามแต่หญิงสาวก็เงียบ จนนางต้องมาตามลูกเอง แต่จนแล้วจนรอดคนข้างในก็ยังเงียบอยู่ ด้วยความเป็นห่วงจึงให้เด็กเอากุญแจไขเข้าห้องลูกสาวอย่างถือวิสาสะ
ว้าย!!!
หญิงวัยกลางคนอุทานพร้อมกันกับภาพที่เห็น เมื่อเปิดประตูเข้ามาสภาพลูกสาวแทบดูไม่ได้ เตียงนอนยับยู่ยี่ แถมนอนร่างเปลือยเปล่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้
“อือ! ”
เจ้าของห้องครวญครางออกมาด้วยความเมื่อยล้า ก่อนจะค่อยๆ ปรือตาขึ้นช้าๆ เพื่อปรับกับแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างของห้องนอน
“หนูปิ่นลูกแม่ทำไมนอนแก้ผ้าแบบนี้จ๊ะ” นางถามด้วยความสงสัย พร้อมกับเดินสาวเท้าไวๆ เข้ามาหาคนเป็นลูก
“อะไรคะคุณแม่ขา....” สาวเจ้าลากเสียงยาวๆ ด้วยความเมื่อยล้า แถมยังไม่รู้ตัวอีกว่าตัวเองนั้นไม่มีชุดห่อหุ้มร่างกายเลย
“ก็ดูตัวเองสิลูก ทำไมเปลือยแบบนี้ แล้วเนื้อตัวไปโดนอะไรกัดมา เป็นรอยแดงจ้ำๆ แบบนี้หึ”
นางจับตัวลูกสาวบิดไปมาด้วยความสงสัย นางไม่อยากคิดหรอกนะว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับลูกสาวตน แต่ดูสภาพตอนนี้แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าถูกข่มขืน แล้วใครกันล่ะจะมาข่มขืนลูกสาวตนได้ นี่ก็บ้านของนางเอง
เมื่อถูกผู้เป็นแม่พูดแบบนั้นให้ สาวเจ้าก็รีบสังเกตมองตัวเองบ้าง
“ว้ายยยยยย...นี่มันรอยอะไรกันคะคุณแม่”
ถามด้วยความตกใจเช่นกัน แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมามันวิ่งเข้ามาในหัวเป็นชุดๆ จนอดแก้มแดงไม่ได้
“แม่ต้องเป็นคนถามลูกมากกว่าว่านี้มันอะไรกัน แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยลูก”
“ไม่มีอะไรหรอกแม่นวลขา...” สาวน้อยลากเสียงยาว แล้วผลักดันแม่ตัวเองออกจากห้องไป
“แม่ออกไปก่อนนะคะ เดี๋ยวปิ่นตามลงไปนะคะแม่ขา....”
“รีบๆ ลงมานะลูก เดี๋ยวสักพักหนูมิก็มารับแล้ว”
นวลจันทร์ยอมออกไปพร้อมกับความสงสัยเรื่องรอยแดงจ้ำๆ ตามตัวลูกสาวสุดรักนางต้องรู้ให้ได้ และเรื่องนี้สามีของเธอต้องรับรู้ด้วยเช่นกัน
“เฮ้อ! รอดตัวจากแม่แล้วเรา แต่มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน แล้วผู้ชายข้างบ้านเข้ามาในห้องเราและทำแบบนั้นกับเราได้ยังไงกัน มันไม่ใช่ความฝันแล้วหลักฐานเต็มตัวขนาดนี้”
เมื่อแม่ลับหายจากห้องชลินดาก็เอาแต่พูดกับตัวเองไปมา ก่อนจะตัดสินใจไปอาบน้ำ เพราะใกล้ได้เวลาไปเรียนพิเศษเตรียมความพร้อมก่อนเข้ามหาวิทยาลัย