บทที่ 2 บุกถ้ำเสือ 1
วันทั้งวันสาวน้อยไม่เป็นอันเรียนเลย พอเลิกเรียนชลินดาก็มาหยุดยืนอยู่หน้าบ้านอีกหลังที่ติดกับบ้านตน คิดชั่งใจอยู่นานสองนานก็ตัดสินใจกดกริ่งหน้าบ้าน รอไม่นานก็มีเด็กรับใช้มาเปิดให้
“คุณหนูมาพบใครคะ” แม่บ้านที่มาเปิดเอ่ยถามอย่างสุภาพ
“สวัสดีค่ะคุณป้า หนูอยู่บ้านหลังข้างๆ นี้นะคะ พอดีว่า....”
บรื้น! บรื้น! บรื้น! เอี๊ยด!
ระหว่างสาวน้อยกำลังนึกหาคำมาพูดอยู่นั้น รถหรูของเจ้าของบ้านก็วิ่งเข้ามาจอดอยู่ตรงหน้าประตูพร้อมกับเดินลงมาหาแขก
“ให้เธอเข้าไปได้ครับป้าเพ็ญ” พูดจบก็หันมายิ้มกว้างให้ชลินดา ก่อนจะเดินกลับไปที่รถโดยไม่พูดะไรกับสาวน้อยเลย
“เชิญค่ะคุณ”
“ขอบคุณนะคะคุณป้า”
ชลินดาดึงสายกระเป๋าแน่น ก่อนจะเดินตามแม่บ้านเข้าไป ส่วนคนที่ขึ้นรถมาก็ได้แต่กระตุกยิ้มมุมปาก มองตามหลังคนที่เดินเข้าไปในบ้านตน
“มาให้เชือดถึงทีเลยนะครับวันนี้” เป็นสมิงเองที่พูดแทรกขึ้นในความเงียบ
“มีหน้าที่อะไรก็ทำไป อย่าเสือก! ”
“โอ้! แร้งงงง” ว่าแล้วก็ออกรถทันที
ตอนนี้ลูกกวางน้อยได้แต่นั่งตัวสั่นเทาด้วยความประหม่า ยิ่งตอนนี้เจ้าของบ้านนั่งอยู่ตรงข้ามเธอ วันทั้งวันไม่เป็นอันเรียน พอมาถึงตอนนี้กลับอยากย้อนเวลาไม่ให้ตัวเองเข้ามาในบ้านหลังใหญ่หลังนี้ แต่ก็เปลี่ยนใจไม่ทันเสียแล้ว
“อะแฮ่ม!” ขุนพลกระแอมให้สาวน้อยตรงหน้าได้สติ เขารู้ว่าเธอกลัวตัวเอง แต่ทำไมยิ่งมองใกล้ๆ ชัดๆ แบบนี้ยิ่งทำให้เสือร้ายในกายเขาร้อนรุ่ม
“คะ...ขา...” สาวน้อยเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ ร่างเล็กสะดุ้งโหยงอย่างกลัวๆ
“หึหึ มีธุระอะไรกับฉันสาวน้อย?” ถามน้ำเสียงเยือกเย็น แววตาจ้องมองเหยื่อสาวด้วยความปรารถนา
“คะ...คือหนูอยากรู้ว่าคุณไปทำแบบนั้นกับหนูทำไมกันคะ” พูดอย่างกล้าๆ กลัวๆ พร้อมกับเอาผ้าพันคอที่เธอใส่ปกปิดรอยช้ำจากฝีมือเขาออก
“ทำแบบไหน แบบนี้รึเปล่า”
“ว้ายยยยยย...”
ชลินดากรีดร้องด้วยความตกใจทันที เมื่อร่างใหญ่ถลาเข้าไปประชิดร่างตน พร้อมกับยกร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตักตน
“อย่าดิ้นนะปิ่น!” เอ่ยเสียงเย็น
“คุณปล่อยหนูนะ แล้วคุณรู้จักชื่อหนูได้ยังไง?” เธอถามด้วยความสงสัย ตอนนี้เธอกลัวเหลือเกิน กลัวว่าจะเกิดเรื่องแบบเมื่อคืน
“หึหึ ทำไมจะไม่รู้จักล่ะ ก็เธอเป็นเมียฉันแล้ว มีใครบ้างจะนอนกับผู้หญิงที่ไม่รู้จักว่าไหมที่รัก จุ๊บ!” ว่าแล้วก็หอมแก้มนวลแรงๆ อย่างมันเขี้ยว
“ปล่อยหนูนะคะ ปล่อยหนูไปเถอะ อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ” สาวน้อยพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากการกอดรัดของคนตัวโต
“ปล่อยไปง่ายๆ ก็ไม่ใช่ขุนพลสิ”
ว่าแล้วก็ลุกขึ้นพร้อมกับโอบอุ้มร่างเล็กที่ดิ้นไม่หยุดไปยังชั้นสองของบ้านตน และปลายทางที่เขาตั้งใจจะพาไปนั้นก็คือห้องนอนตัวเองนั้นเอง
“ปล่อยหนูไปเถอะค่ะ อย่าทำแบบนั้นเลยนะคะ ฮือๆๆๆ” สาวน้อยทั้งดิ้นทั้งร้องไห้ แต่ก็ไม่มีผลอะไรเลย
“อย่าใช้คำแทนตัวเองว่าหนูได้ไหม มันทำให้ฉันดูแก่ยังไงไม่รู้ปิ่น เรียกพี่พลสิ” ครั้งนี้ขุนพลพูดจานุ่มนวลกับคนตัวเล็ก พร้อมกับวางร่างเล็กลงบนเตียงนุ่มอย่างเบามือ
“ถ้าหนูแทนตัวเองว่าปิ่นคุณจะปล่อยหนูไปใช่ไหมคะ” ถามทั้งๆ ที่รู้คำตอบ
“แล้วคิดว่าไงล่ะเมียจ๋า...คิดว่าผัวจะปล่อยไปเหรอ รู้ไหมกว่าจะแอบปีนห้องเธอได้แต่ละคืนมันยากแค่ไหน” พูดพร้อมกับปลดเปลื้องชุดสูทราคาแพงของตนออกทีละชิ้น
“อย่าทำอะไรปิ่นเลยนะคะ เท่าที่ผ่านมาคุณยังไม่พออีกเหรอ ฮือๆๆ” สาวน้อยดิ้นถอยไปชิดหัวเตียง ตอนนี้รู้แล้วว่าตนคิดผิดที่มาบ้านของผู้ชายคนนี้ เขาช่างน่ากลัวเหลือเกิน
“อย่ากลัวไปเลยสาวน้อย จำไม่ได้เหรอว่าเธอร้องครวญครางเพราะขนาดไหนเวลาอยู่ใต้ร่างของฉัน” ขุนพลเอ่ยเสียงแหบพร่าคืบคลานเข้าไปหาร่างเล็กอย่างใจเย็น
“ไม่จริง! ปิ่นไม่ได้เต็มใจ คุณข่มขืนปิ่น อึก!” ตอบโต้กลับด้วยเสียงสะอื้นไห้
“ว้า!...เธอคงลืมแล้วสินะว่าร้องยังไง เดี๋ยวก็รู้กันว่ามันดีแค่ไหน และจำไว้ฉันชื่อขุนพล ชาติเจริญทรัพย์ หรือเรียกพี่พลหรือผัวขาก็ได้นะ เพราะยังไงฉันก็เป็นผัวเธอแล้วสาวน้อย”
พูดจบก็จับข้อเท้าเล็กไว้แน่นทันที เขารู้ว่าเธอกลัวแต่ตอนนี้จะสนใจทำไมเล่า อยากจะโลดแล่นเข้าไปในกายเล็กเต็มทนแล้ว ไม่ชอบเลยเวลาที่เห็นร่างเล็กๆ ดิ้นรน เห็นแล้วมันยั่วยวนความต้องการของเขาเหลือเกิน
“เข้ามาแล้วก็ค้างที่นี่เถอะนะ อยู่กับฉันเถอะ”
ขุนพลไม่ชอบเลยที่เธอมีน้ำตาเพราะตัวเอง แต่จะทำยังไงได้ก็เมื่อร้องไห้ไปแล้ว แต่เขาเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีแต่เสียงร้องแห่งความสุข
“ไม่ๆ ปิ่นจะกลับบ้านตอนนี้เลย ปิ่นไม่อยู่กับคุณ” สาวน้อยส่ายหัวแรงๆ พร้อมกับดิ้นถีบเท้าตัวเองรัวๆ แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะมือที่เขาจับข้อเท้าเธอนั้นแข็งแรงยิ่งกว่าอะไร
“คิดว่าเข้ามาแล้วจะออกไปง่ายๆ เหรอคนดี”
ว่าแล้วก็ไม่รอช้าที่จะกระชากขาเรียวเล็กเข้ามาหาตัวเอง ตามด้วยร่างหนาที่เหลือเพียงแต่กางเกงสแล็คติดตัว ท่อนบนนั้นเหลือแต่อกเปลือยเปล่าแล้วตอนนี้
“ว้ายยยยยย....”
สาวเจ้าดิ้นเร่าด้วยความกลัว พยายามดิ้นหนีแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อถูกร่างใหญ่กักไว้ใต้ร่าง
“เข้ามาแล้วก็อยู่ให้คุ้มสิสาวน้อย” ว่าแล้วก็ก้มลงซุกไซ้ซอกคอระหงอย่างหิวกระหาย ไม่สนใจว่าร่างเล็กจะดิ้นผลักไสตน
“ปล่อยปิ่นไปเถอะนะคะ อย่าทำอะไรปิ่นเลย” ชลินดาได้แต่พยายามร้องวอนขอความเมตา แต่เสือร้ายอย่างเขาหาได้สนใจไม่
“มันยากนะที่จะทำให้หยุด เธอรู้ไหมตอนนี้ลูกชายฉันมันพร้อมมากแล้ว” ว่าแล้วก็ผละกายออกจากร่างเล็กเล็กน้อย ก่อนจะถอดชุดของคนตัวเล็กออกอย่างถือวิสาสะ
“อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ มันไม่ดี ฉันยังเด็กและยังอยากเรียนต่อมหา’ลัยอยู่ค่ะ” พยายามหาเหตุผลมาหยุดยั้งบุรุษหนุ่ม
“หึหึ เธอพูดอย่างกับฉันแก่เลยนะ แต่มันก็จริงฉันแก่กว่าเธอ แต่มีกฎหมายข้อไหนห้ามมีเมียเด็กมิทราบฮึ!” ยอมรับว่าตัวเองอายุห่างกับหญิงสาวเป็นรอบ แต่โบราณว่ายิ่งแก่ยิ่งมีประสบการณ์เยอะ และเขาก็เป็นคนมีประสบการณ์เยอะเสียด้วยสิ คนอย่างชลินดารึจะไปไหนรอดเขาได้
“อย่าทำหนูเลยนะคะ”
ยังไม่ลดละความพยายาม ถึงแม้ว่าตอนนี้เสื้อผ้าของตัวเองจะถูกถอดโยนทิ้งไปคนละทิศละทางแล้ว จะเหลือติดตัวก็เพียงแต่ชุดชั้นในตัวจิ๋วเท่านั้น
“สวยขนาดนี้จะกลัวจะอายทำไมเล่า ของดีๆ แบบนี้ต้องแบ่งให้ฉันดูสิจ๊ะหนู อยากด่าว่าแก่ก็ว่า ฉันภูมิใจในความแก่มากประสบการณ์ของฉันนะสาวน้อย” ยิ่งเห็นสาวน้อยดิ้นหนีด้วยความกลัว แถมเนื้อตัวแดงเป็นลูกแอปเปิ้ลแบบนี้เขายิ่งชอบใจ
“ปิ่นไม่ต้องการแบบนี้....ฮือๆๆ” วอนด้วยเสียงสะอื้น พร้อมกับถอยหนีอีกรอบ รู้ทั้งรู้ว่าหนีไม่รอดแต่ก็ยังจะถอยหนี
“อย่าร้องเลยนะคนดี เดี๋ยวสักพักจะดีเอง ไม่ใช่ครั้งแรกของเราสักหน่อยว่าไหม”
ว่าแล้วมือหยาบกร้านก็ลูบไล้ประโลมไปตามเรียวขาเล็กอย่างอ่อนโยน เขารู้ว่าเธอกลัว แต่มันก็เหมือนทุกครั้งนั้นแหละ เพียงแต่ต่างกันที่เธอมีสติไม่ใช่ครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนที่ผ่านมา
ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความกลัวเมื่อร่างใหญ่โตเคลื่อนกายมาคร่อมร่างตนไว้ หญิงสาวไม่รู้จะทำยังไงจะหนีจากเงื้อมมือของคนเหนือร่างได้ยังไง ‘แม่จ๋า พ่อจ๋าช่วยลูกด้วยค่ะ ฮือๆๆ’ ได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือในใจ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้
“ไม่ต้องกลัวนะคนดีของฉัน ฉันจะถนอมเธอดุจเจ้าหญิงเลย เป็นของฉันนะคนดี” ขุนพลอยากให้สาวน้อยใต้ร่างผ่อนคลายไปกับตัวเอง
“ปิ่นกลัวคุณพลปล่อยปิ่นเถอะนะคะ อึก!”
อยากให้เรื่องในตอนนี้เป็นฝันร้ายเหมือนที่คิดแต่มันไม่ใช่ เธอมีสติเต็มร้อย รับรู้ถึงสัมผัสหวามที่เขามอบให้ในตอนนี้
“ไม่เอาน่า...ฉันชอบนะที่เธอเรียกฉันพี่พล เรียกแบบนี้ทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกันนะ” ขุนพลรู้สึกมีดอกไม้บานในใจก็วันนี้แหละ วันที่สาวน้อยเรียกชื่อเช่นตนอย่างสนิทสนม
บทเพลงรักที่แสนจะนุ่มนวลอ่อนโยนก็เริ่มขึ้น เมื่อสาวน้อยใต้ร่างใหญ่ผ่อนคลายและคล้อยตามไปกับการสัมผัสของเสือร้ายผู้ชำนาญ
“อูว์! ค่อยๆ ไปนะคนดี ครั้งนี้เราจะไปพร้อมกัน” ร่างใหญ่เคลื่อนกายด้วยความเชื่องช้าทั้งที่ในใจนั้นอยากจะกระแทกเข้าหาร่างเล็กใจจะขาด
“อือ!” ชลินดาครวญครางด้วยความเผลอไผล ปากเล็กตอบรับจูบร้อนเสน่หาของชายหนุ่มด้วยความเคอะเขิน เรียวขาเล็กเปิดทางรับร่างหนาแทรกกลางเข้ามาหาตน เพื่อที่ร่างจะได้แนบชิดกันมากขึ้น
“นั่นแหละสาวน้อยของฉัน แบบนั้นแหละ นี่แค่ภายนอกเท่านั้นเอง อา! อืม! ” เสียงพร่าเอ่ยชมนักเรียนคนเก่งของตน มือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างเล็ก ก่อนจะปลดตะขอเสื้อในตัวจิ๋วออกแล้วโยนทิ้ง
ร่างเล็กสะดุ้งแนบอกเบียดร่างหนาด้วยความตกใจ เมื่อถูกถอดชั้นในตัวสวย และไม่นานก็เป็นกางเกงในตัวจิ๋วที่ปิดบังกุหลาบงามแรกแย้มฉ่ำแฉะของเธอ
“อา! เราจะคุ้นชินมันเองนะปิ่น เป็นของฉันนะ เป็นเมียฉันมันดียังไงเธอจะรู้เอง อูว์! เป็นเมียฉันสบายนะ เธอควรดีใจที่ฉันยกตำแหน่งนี้ให้ อืม!”
เสียงพร่าเอ่ยกระซิบข้างหูของสาวเจ้าพร้อมขบเม้มเบาๆ และผละร่างออกมาปลดเปลื้องกางเกงของตัวเองบ้าง และก็ใช้เวลาไม่นานการถอด
ตอนนี้ร่างสองร่างเผชิญหน้ากันด้วยร่างกายที่พระเจ้าสรรสร้างให้ ปรุงแต่งสวยงามล่ำค้ากว่าผู้คนทั่วไป โดยเฉพาะร่างกายของขุนพลที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง อกแน่นไปด้วยกล้ามที่ผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก ผิวแทนคร้ามแดด สัดส่วนของเขาไม่แพ้ดารานายแบบต่างประเทศเลย
ร่างใหญ่ค่อยๆ สานสัมพันธ์รักกับเด็กสาวไร้เดียงสาอย่างใจเย็น ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องกลัวตัวเองไปมากกว่านี้ ขุนพลใส่ใจทุกรายละเอียดของชลินดา ชายหนุ่มจูบซุกไซ้ตามลำคอระหงมายังเนินอกสาวที่ขนาดพอดีมือทั้งสองข้างของตนที่กอบกุมอุ้มทรวงงามไว้ ปากร้อนขบเม้มไปตามเนินอก ไล่ปลายลิ้นสัมผัสไปทั่วเต้างาม หยอกเย้ากับปลายยอดดอกบัวตูมแรกแย้มของคนตัวเล็ก
สาวน้อยเรียนรักเปล่งเสียงครวญครางออกมาราวกับคนละเมอ เธอบอกไม่ว่าตอนนี้ตัวเองเหมือนกำลังวิ่งเล่นอยู่ในสวนดอกไม้ ที่ประดับไปด้วยดอกไม้ที่เบ่งบานสวยงาม
“เราจะมีความสุขไปพร้อมกันนะคนดี อืม!”
เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ตอนนี้ร่างเล็กแอ่นเด้งเบียดแนบไปกับความแข็งแรงของเขาจนแทบจะหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันแล้ว
“ปิ่นกลัว...อะ! อืม!”
พูดได้แค่นั้นก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกลิ้นร้อนลากวนไปมาตามหน้าท้องแบนเรียบ เรียวขาเล็กโอบเกี่ยวเอวสอบไว้แน่น อ้อมแขนก็โอบกอดร่างใหญ่ไว้แน่นด้วยความเสียวซ่าน
บุรุษแข็งแรงมีหรือจะยอมให้ความปรารถนาในครั้งนี้จบลงง่ายดาย ด้วยความที่มากประสบการณ์ชายหนุ่มก็บำเรอร่างเล็กด้วยนิ้วทั้งสิบของตน ร่างใหญ่เคลื่อนกายมาอยู่กลางลำตัวเล็ก แยกเรียวขางามออกแล้วก็ก้มลงซุกไซ้กลางกายสาวอย่างชื่นชม
ลาวาหวานของชลินดาก็ไหลอาบเยิ้มไปทั่วเนินเนื้อสาว ตอนนี้สาวน้อยไม่หลงเหลือความเป็นตัวเองเสียแล้ว ไม่ว่าเสือหนุ่มจะพาไปเที่ยวสวรรค์แดนไหนเธอก็พร้อมที่จะไปกับเขา ร่างเล็กไหวเอนไปตามแรงรักที่เขาปรนเปรอให้อย่างมีความสุข
“ร้องออกมาเลยคนดี ฉันชอบเสียงของเธอ อยากฟังทุกคืนเลย อืม! อูว์!” ตอนนี้ขุนพลไม่ไหวแล้ว เขาบำเรอความสุขให้สาวน้อยจนตัวเขาพร้อมที่จะแหวกว่ายในกายเล็กเสียแล้ว
“อา! ปิ่น...อืม!” สาวน้อยตาปรือมองเพดานห้องด้วยความพร่ามั่ว และต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อถูกความแข็งแรงแทรกเข้ามาในกายลำตัวของตน
“โอ๊ะ! ซี้ดดดด....”
“ชูว์! แน่นเหลือเกินเมียรักของฉัน เราจะมีความสุขไปด้วยกัน กอดฉันแน่นๆ แบบนั้นแหละ” ขุนพลไม่รอช้าที่จะเร่งพลังแรงม้าของตน เมื่อได้เข้ามาในความคับแคบในกายสาวแล้ว
ชายหนุ่มกอดรัดร่างเล็กแนบแน่น เอวสอบก็ขับเคลื่อนไปตามจังหวะรักของตน ส่วนคนตัวเล็กก็ทำตามคำสั่งของเสือร้ายเป็นอย่างดี ไม่ว่าเขาจะกระหน่ำแรงรักใส่กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ส่งเสียงร้องครวญครางให้กำลังใจตลอด และกว่าบทเพลงรักในครั้งนี้จะจบลงได้ก็เล่นเอาคนตัวเล็กใต้ร่างแทบหมดสติไปเลย
“อ๊า! มาหาฉันทุกวันได้ไหมปิ่น”
เมื่อสุขสมหวังพร้อมกับปล่อยพลังแสงใส่ร่างเล็กจนหมดเม็ดแล้วก็ถอดถอนแก่นกายมานอนประคองกอดคนตัวเล็กไว้อย่างอ่อนโยน เขาชอบเหลือเกินที่มีร่างน้อยๆ ของคนตัวเล็กในอ้อมกอด