5 เสือผู้หญิง
“เอาไหม ถ้าเจอคุณพงจะแนะนำให้อีกทอดหนึ่ง”
จู่ ๆ ผลักไสพงพันธ์ให้แก่นาถฤดีทันที ซึ่งก็ได้ยินเสียงอุทานตามมาด้วยความตกใจ พร้อมกับผลักบ่าออกห่าง ๆ
“ไม่ล่ะ ในเมื่ออีตาเจ้าของร้านกาแฟเค้าแนะนำให้เธอแล้วไม่ใช่เหรอ แหม ยังจะมาโยนให้เราอีกที อย่างนี้ไม่ถูกแล้วล่ะ”
“เราบอกตามตรงเลยนะ ไม่ชอบผู้ชายคนนี้เลย หล่อก็จริงอยู่หรอก แต่ว่าไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ คือ เค้าไม่ใช่สไตล์ที่เราชอบน่ะ”
“เรื่องนี้พักเอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้เราจะพาไปกินอาหารที่แถวริมปิงก็แล้วกัน เธอเอ๊ยจะรู้ว่ามันอร่อยมาก ราคาไม่แพงด้วย โดยเฉพาะปลาแม่น้ำย่างเกลือ มีน้ำพริกจิ้มแจ่วหลายอย่างให้เลือก”
นาถฤดีบรรยายความอร่อยของอาหารร้านแสนอร่อยของตัวเอง ตามประสาเจ้าถิ่น เรียกน้ำย่อยให้ออกมาอออยู่ที่กระพุ้งแก้มทันที กุลดาเข้าไปนั่งในรถทันที หลังจากที่นาถฤดีขับรถไปแล้ว หญิงสาวมองไปรอบ ๆ ตัวรับรู้ถึงความเจริญเติบโตของท้องถิ่นที่นี่ ไม่ต่างจากกรุงเทพฯ แม้แต่น้อย จากที่คิดว่าเข้ามาเที่ยวเพื่อชมธรรมชาติ บัดนี้ความคิดได้เปลี่ยนไปแล้ว
“เป็นไงร้านดี บรรยากาศสบาย บริการรวดเร็วเสียด้วย จานแรกก็มาแล้ว ออเดิร์ฟไงล่ะ”
“หา อลังการขนาดนี้เชียวหรือ”
“ใช่ ชิมเลย รับรองว่าอร่อยมาก ค่อย ๆ กินก็ได้ยังมีอีกตั้งหลายอย่างคอยให้เธอละเลียด รับประกันว่าสุดยอดมาก”
“ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอีกแล้ว เอาเป็นว่าเราชอบก็แล้วกัน”
หญิงสาวทั้งสองรับประทานอาหารมื้อเย็นด้วยความอิ่มเอมทั้งปากและตา ขณะนั้นกุลดามีความรู้สึกว่าเหมือนใครบางคนกำลังมอง กระทั่งหันไปดูก็เจอกับชายหนุ่มท่าทางดียิ้มให้เธอพร้อมกับชูแก้วเหล้าขึ้น แสดงออกซึ่งมิตรภาพของคำว่าอยากทำความรู้จัก
หญิงสาวบอกกับตัวเองว่า ผู้ชายคนนี้เจ้าชู้ สิ่งที่แฝงอยู่กับการอยากรู้จักก็คือเขาก็คงจะต้องอยากได้ตัวเธอ คิดว่าคงเป็นผู้หญิงใจแตกทั่วไป อยากสอนมวยผู้ชายคนนี้นัก
“ฉันไม่ชอบอีตาผู้ชายหน้าขาว คิ้วเข้มคนนั้นเลย ดูสิยกแก้วเหล้าให้เรา แสดงความอยากออกมาขนาดนี้ ถ้าเราแกล้งล่ะ”
“อย่าเลย เดี๋ยวมีเรื่อง”
“ทำไมล่ะ เราอยากรู้นี่นาว่าถ้าโดนเข้าไปแล้วจะกล้าทำอย่างนี้กับผู้หญิงคนอื่นไหม”
“เราคิดว่าเคยเห็นผู้ชายคนนี้อาจจะเป็นพ่อเลี้ยงอะไรสักอย่าง”
“รวยสิท่า คงคิดว่าเงินซื้อผู้หญิงได้ทุกคน แต่ขอบอกก่อนนะว่าสำหรับฉันแล้วอย่าได้หวังเด็ดขาด”
“เธอยิ้มให้ทำไม เขาเดินเข้ามาแล้ว”
นาถฤดีกระซิบเสียงสั่น ๆ ด้วยความกลัว มีความรู้สึกว่าผู้ชายคนดังกล่าวไม่ควรที่จะเข้าใกล้เด็ดขาด แต่คนอย่างกุลดาไม่กลัวแต่อย่างใด กล้าต่อกรกับผู้ที่ท้าทาย ยิ้มหวานเป็นการโปรยเสน่ห์ให้เขาลุ่มหลง ซึ่งก็ทำให้ผู้ชายคนดังกล่าวทรุดตัวลงนั่งใกล้ ๆ
“ขอโทษครับ ผมเห็นคุณแล้วไม่เหมือนคนถิ่นนี้”
“ค่ะ ฉันมาเที่ยว”
“ผมชื่อฉัตรหรือใคร ๆ พากันเรียกว่าพ่อเลี้ยงฉัตร ทำธุรกิจเกี่ยวกับบ้านจัดสรรและมีผับสองที่ ว่าง ๆ ก็เชิญคุณทั้งสองไปเที่ยว ผมจะต้อนรับอย่างดี นี่ครับนามบัตรของผม”
พ่อเลี้ยงฉัตรให้นามบัตรแก่หญิงสาวทั้งสอง สายตาที่มองกุลดานั้นเต็มไปด้วยความหมายบางอย่าง ทำไมจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร ถ้าไม่ใช่ความใคร่ ต้องการที่จะได้ตัวเธอ อยากจะถามนักว่า รูปร่างหน้าตาอย่างนี้เหมือนเด็กสาวใจแตกหรือไง ทั้งที่เธอเองก็ผ่านช่วงวัยนั้นมาแล้ว
ผู้ชายแบบนี้ก็ต้องจัดการให้เข็ด ไม่อย่างนั้นเขาก็คิดว่าผู้หญิงคือขนมหวานอยู่เรื่อย
“ขอบคุณนะคะ ฉันชื่อกุลค่ะ ส่วนคนนี้สาวเหนือชื่อนาถ”
“อ๋อ คนเหนือ ผมไม่เคยเห็นคุณเลยนะครับ คุณนาถ”
“คือว่าฉันอยู่ที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เด็ก เพิ่งเรียนจบแล้วมาอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงสามเดือน ช่วยพ่อแม่ทำงานค่ะ”
“ทำงานหรือครับ ขอโทษนะครับ ทำเกี่ยวกับอะไร เผื่อว่ารู้จัก”
“โรงงานเซรามิกเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่ะ”
หญิงสาวตอบด้วยเสียงสะบัด ด้วยความรู้สึกที่ไม่ชอบใจเท่าใดนัก แม้รู้ว่าเขาสนใจกุลดา แต่ก็ยังแอบส่งสายตาเจ้าชู้มาให้เธออีก คนแบบนี้สมควรแล้วที่กุลดาจะสั่งสอน
“พ่อผมอาจจะรู้จักก็ได้ คือว่าพ่อเป็นนายกสมาคมพ่อค้าของที่นี่เลยนะครับ”
“จริงหรือคะ อาจจะเป็นพ่อเลี้ยงโชค ใช่ไหมคะ”
“ครับ ผมดีใจจังที่คุณรู้จักพ่อของผม เท่ากับว่าพ่อคุณเป็นสมาชิกของสมาคมใช่ไหมครับ อย่างนี้ลูก ๆ ก็ต้องทำความรู้จักกันเอาไว้บ้างแล้วล่ะ ยินดีจริงๆ ที่เจอคุณ”