3 ชอบแต่ไม่แสดงออก
ชายหนุ่มนำกาแฟมาเสิร์ฟแก่กุลดาตามหน้าที่ของพ่อค้าที่ดี เธอส่งยิ้มให้ เท่ากับว่ากระชากความรู้สึกอย่างจัง ดีใจที่สุดเมื่อเจอกับสาวสวยคนนี้
ชอบ แต่ไม่กล้าแสดงออกมา กลัวผู้หญิงจะหาว่าเป็นคนขี้หลี คิดว่าถ้ามีวาสนาต่อกันคงไม่พ้นที่จะได้อยู่ร่วมกัน แม้ว่ามีเหตุให้พลัดพราก สุดท้ายก็ลงเอยด้วยดี
“อร่อยมาก ขนมก็สุดยอด สงสัยกลับบ้านคงอ้วนเป็นหมูตอน”
“ไม่หรอกครับ เราใช้น้ำตาลและครีมแบบพร่องมันเนยทั้งสิ้น ผมขอนำเสนอขนมปังนมสดอุ่น ๆ แถมให้พิเศษครับ”
“ขอบคุณมาก คุณพีเมียร์ก่อนฉันกลับบ้านขอสั่งขนมของคุณไปฝากพ่อแม่กับเพื่อน ๆ ต้องบอกล่วงหน้ากี่วันคะ”
“แค่บอกตอนเย็น พรุ่งนี้เช้าคุณก็ได้แล้วครับ”
“ดี เอาหมดทุกอย่างเลย”
“ขนาดนั้นหรือครับ ดีใจจัง”
ชายหนุ่มดีใจที่มีคนชื่นชมความอร่อยของขนมตัวเอง คิดว่าจะต้องทำให้สุดฝีมือ ระหว่างนั้นแอบชำเลืองมองมาที่กุลดาบ่อยครั้ง
ชอบที่เห็นความงามแบบโดดเด่นโดยที่ไม่มีใครเสมอเหมือน ผู้หญิงคนนี้มีอะไรหลายอย่างที่ชวนมอง ดูแล้วไม่เบื่อตา ท่าทางมีเงินอีกด้วย แต่ว่าเขาไม่กล้าซักถามว่าทำอาชีพอะไรกลัวว่าจะเป็นการละลาบละล้วงจนเกินไป
ถุงอาหารหลายอย่างถูกนำมาวางเอาไว้ตรงหน้าเคาน์เตอร์ คนที่ถือนั่งเอนกายลงกับเก้าอี้นุ่มตัวสวย ใกล้ ๆ กับพีเมียร์ที่ยังคงง่วนอยู่กับการจัดขนมใส่ลงไปในจานให้แก่ลูกค้าชาวต่างชาติ
“ยังไม่ว่างพอที่จะกินข้าวใช่ไหม”
“แค่ชุดสุดท้าย เดี๋ยวเราไปกินข้าวกันได้แล้ว”
“ขยันจริง เอาเงินไปเก็บไว้ที่ไหนเนี่ย”
“เอาไว้กินตอนแก่สิ”
“คิดว่าจะเก็บไว้แต่งเมีย แต่อย่างว่านั่นแหละนะ คนเราทุกวันนี้แต่งงานทั้งทีจะต้องใช้เงินจำนวนมาก ทางที่ดีหากตกลงกันได้ จัดแค่งานเล็ก ๆ ทำบุญเลี้ยงพระกับพรรคพวก เท่านั้นก็น่าจะพอแล้วนะ”
“เออ ถ้าผู้หญิงโอเคก็คงไม่มีปัญหา รู้หรือเปล่าทุกวันนี้ส่วนใหญ่ติดขัดที่ผู้หญิงนั่นแหละ จะเอาอย่างนั้นอย่างนี้ เจอคนพูดง่ายก็ดีไป พงษ์ นายเองก็ยังไม่มีแฟน เราเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวย น่ารัก อยากแนะนำให้รู้จัก”
พีเมียร์บอกเพื่อนว่าจะแนะนำผู้หญิงให้ ทำเองพงษ์พันธ์ชะงัก ดีดตัวมานั่งตรง ๆ ทำหน้าเหรอหรา ไม่เข้าใจว่าทำไมพีเมียร์ถึงได้พูดอย่างนี้
“คนที่ไหนวะ”
“ลูกค้า มาดื่มกาแฟ สวยนะ พูดจาดี”
“ในเมื่อทั้งสวยและดีอย่างนี้ มีแฟนแล้วมั้ง ใครจะอยู่คนเดียวล่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกันโว้ย เอาเป็นว่าถ้าเธอมานั่งที่ร้านเราจะให้นายช่วยต้อนรับก็แล้วกัน”
มัดมือชกเพื่อนทันที ทั้งที่ตัวเองรู้สึกหวิว ๆ เช่นกัน รู้ว่าชอบกุลดา แต่ไม่กล้าแสดงตัวตน จึงขอให้เพื่อนเข้าไปทำความรู้จัก อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร ขณะที่พงษ์พันธ์เองก็แบ่งรับแบ่งสู้เพราะมีผู้หญิงในใจอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกไหม
ก่อนอาหารมื้อค่ำ กุลดาเข้ามาในร้านของพีเมียร์อีกครั้ง ไม่ได้ดื่มกาแฟแต่ซื้อขนมเอาไว้รับประทานในระหว่างไปเที่ยววันรุ่งขึ้น เธอจะต้องตื่นแต่เช้า ร้านเขายังไม่เปิด เมื่อเห็นเธอเท่านั้นชายหนุ่มพยักพเยิดหน้าให้พงพันธ์รับรู้ทันที
“นั่นเห็นไหมเพื่อน ผู้หญิงคนนั้น”
“อะไร มีผู้หญิงในร้านตั้งหลายคน”
“เข้ามาใหม่ไง คนผมน้ำตาลแดงน่ะ ยาวเลยหลัง ใส่เสื้อสีขาวกับกางเกงยีนสีน้ำเงิน รองเท้าแตะแบบสาน”
“นายเล่นบอกละเอียดขนาดนั้น ไม่รู้ก็แย่แล้ว สวยจริง ๆ ว่ะ กำลังซื้อขนมนี่นา”
“ใช่ สวย ถูกใจไหม”
“ความสวยนับว่าใช้ได้อยู่นะ แต่นิสัยยังไม่รู้ เราไม่ได้พูดคุยด้วย”
ท่าทางเอื่อย ๆ ของพงพันธ์ไม่ถูกใจพีเมียร์เสียเลย ทำเสียงฮึดฮัดแล้วเดินเข้าไปพูดคุยกับสาวสวยด้วยมารยาทที่ดี แต่ไม่ลืมที่จะดึงมือเพื่อนตามติดไปด้วย
“สวัสดีครับ คุณกุล”
“ค่ะ สวัสดี ขอซื้อขนมเก็บเอาไว้พรุ่งนี้ค่ะ”
“ผมทำใหม่ให้ดีกว่าครับ จะได้กินสด ๆ อร่อยกว่านี้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจะออกแต่เช้าเลย ร้านคุณยังไม่เปิดหรอก เพื่อนจะพาไปเที่ยวล่องแม่น้ำ ปิกนิกในเรือค่ะ”
สาวสวยไม่ปิดบังเกี่ยวกับกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ เรียกรอยยิ้มจากพีเมียร์ได้ดี เขาอาสาที่จะทำขนมให้ใหม่เพื่อเธอเป็นกรณีพิเศษ โดยไม่กลัวว่าตัวเองจะอดนอนเพิ่มขึ้น
“เอาเป็นว่าผมทำให้ใหม่ แล้วเอามาส่งคุณตอนตีห้า”
“ลำบากเปล่า ๆ ค่ะ ไม่ต้องหรอก ขอบคุณมาก ฉันคิดว่าของคุณอร่อย เอาไว้นานแค่ไหนก็อยู่ตัวค่ะ เอาไปให้หมดแถวหน้านี้เลยนะ”