5 ลนน้ำมันพรายนังผีตายทั้งกลม 1
เหล่าผีร้ายพร้อมใจกันหัวเราะเสียงลั่นป่าช้า หมอขนอมกลั้นใจท่องคาถาแล้วซัดข้าวสารเสกไปรอบ ๆ ตัว
“กรี๊ด อ๊าย ช่วยด้วย ปวดแสบปวดร้อนเหลือเกิน”
ผีทั้งป่าช้าล้มลงไปนอนกลิ้งกับพื้น ดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด บางตัวเนื้อหลุดออกมาเป็นชิ้น ๆ และบางตนกระดูกผุกรอบเกิดเปลวไฟไหม้ลุกโชน เป็นภาพสยองขวัญที่หมอขนอมมองด้วยความนิ่งสงบ ท่องมนตร์ชั่วครู่พร้อมกับซัดข้าวสารเสกไปอีกรอบคราวนี้ทุกอย่างเงียบสงบ ภูตผีหายวับไปกับตา
“อ้ายผวนลืมตาได้แล้ว”
เรียกศิษย์เอกให้ลืมตาขึ้นเมื่อผีร้ายหายไป ผวนลืมตาขึ้นมาพบกับความว่างเปล่า ต้นไม้ใหญ่น้อยยืนต้นตามปกติ เป็นสิ่งน่าอัศจรรย์เหนือความคาดหมาย
“อาจารย์ มันไปกันหมดแล้วรึ”
“เออ ไปหมดแล้วคราวนี้ล่ะข้าจักเรียกนังผีตายทั้งกลมในหลุมตรงหน้าเราขึ้นมา ถ้าปราบมันได้แล้ว เอ็งต้องเอาเทียนลนคางมันด้วยนะ ให้น้ำมันหยดลงใส่ขันเล็กนั่น”
“ขอรับอาจารย์”
ผวนรับคำด้วยความตื่นเต้นเพราะรู้ว่าในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า จะต้องมีเหตุการณ์สยองขวัญเกิดขึ้นอีกครั้ง นางปีศาจร้ายมันจะต้องโผล่ขึ้นมาจากหลุม ไม่รู้ว่าจะน่าเกลียดน่ากลัวสักแค่ไหน ในเวลานี้เขาก็ได้แต่เพียงภาวนาให้ผ่านไปด้วยดี หากปราบนังผีร้ายไม่ได้เขาจะขอเอาชีวิตเสี่ยงแทนอาจารย์ขนอมเพื่อแทนคุณที่มีต่อกัน
อาจารย์ขนอมท่องมนต์อีกครั้งเพื่อเรียกผีตายทั้งกลมให้โผล่ขึ้นมา เพียงชั่วครู่อากาศเริ่มปั่นป่วนเลื่อนลั่น สายลมพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง เสียงดังอู้ ๆ มาแต่ไกลแล้วใกล้เข้ามา บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝุ่นลอยเคว้งสักพักลมพาพัดหมุนเป็นรูปกรวย ฟ้ากระจ่างใสกลายเป็นสีแดงคล้ายดั่งเลือด ผวนรู้ดีว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ของผีที่นอนอยู่ในหลุมตรงหน้า
“เอ็งพยายามสงบจิตทำสมาธิเอาไว้ให้ดี อย่าให้ภาพมายาข้างหน้าลวงล่อจนแตกซ่าน เมื่อถึงเวลานั้นข้าก็คงจักช่วยเอ็งไม่ได้อีกแล้ว”
อาจารย์กล่าวแก่ศิษย์ให้เตรียมตั้งรับวิญญาณชั่วร้ายเอาไว้ให้ดี ยังไม่ทันขาดคำหลุมตรงหน้าแตกกระจาย ดินปลิวฝุ่นฟุ้ง ภาพน่าเกลียดน่ากลัวอุบัติขึ้น ผวนเห็นแล้วต้องผงะหงาย เมื่อผีตายทั้งกลมในสภาพเน่าเฟะกำลังโผล่ผุดขึ้นมา ผมยาวเป็นกระเซิงแสกกลาง จนเห็นหนังหัวกะโหลกขาดเว่อเพราะผมร่วงหลุดหายไป ซ้ำร้ายกว่านั้นหนอนกำลังชอนไชขึ้นมาจากผิวหนัง มันโก่งตัวดันขึ้นมา ผวนสะดุ้งเมื่อเห็นจะ ๆ ตาว่าหนังหัวแตกกระจาย หนอนตัวอ้วนยาวเท่านิ้วก้อยโผล่ขึ้นมาแล้วกัดชอนไชตามเนื้อส่วนต่าง ๆ จนขาดแหว่งแล้วคลานย้อนกลับลงไปในรูเดิม ชั่วครู่โผล่ขึ้นที่แก้มบวมเป่ง เนื้อปริแตก ทั้งเลือดและหนองกระจายรายรอบ
“โอย ! อาจารย์มันน่ากลัวจริง ๆ”
ผวนเผลอตัวปล่อยให้ความรู้สึกกลัวเข้าเกาะกุมจิตใจ มือสั่น ๆ จับแขนอาจารย์ขนอมเอาไว้แน่น ด้วยกลัวว่าศิษย์จะสติแตกเสียก่อนจึงหันมาเป่ากระหม่อมให้หนึ่งครั้ง ผวนสะดุ้งเฮือก รู้สึกร้อนและเย็นสลับไปทั่วกายา
“ข้าบอกเอ็งแล้วว่าอย่ากลัว ดูมันต่อไปจักมีฤทธิ์อันใดแสดงบ้าง”
สั่งศิษย์ด้วยเสียงมั่นคง ผวนเหลือบแลดูดวงหน้าผีตายทั้งกลมอีกครั้งเห็นว่าดวงตาแดงฉานทั้งสองข้างของมันเหลือกถลนจนแทบจะหลุดห้อยตกลงมา จมูกบานใหญ่นั้นเล่ามีเลือดหยดไหลตลอดเวลา ริมฝีปากใหญ่ขาดเว้าแหว่ง มีคราบเลือดเกรอะกรัง สำรวจดูเนื้อตัวของมันเต็มไปด้วยน้ำเลือดน้ำหนองส่งกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้ง
ตรงท้องบวมเป่งปูดโปนน่ากลัวว่าจะระเบิดแตก บัดนี้ยกตัวขึ้นเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายใน ผวนอ้าปากค้างต่อสิ่งที่เห็น
และแล้ว ผวนร้องลั่นเมื่อเห็นมือเล็ก ๆ ของเด็กแรกเกิดโผล่พรวดออกมาโดยเร็ว
“โอ๊ย ! ช่วยด้วย มือเด็ก เด็กผี”
“อ้ายผวน ข้าบอกเอ็งแล้วว่าอย่ากลัว ทำใจให้สงบนิ่งเอาไว้ เร็วเข้าเตรียมเทียน”
อาจารย์ขนอมสำทับศิษย์อีกคราโดยไม่ให้ใส่ใจต่อภาพผีเด็ก มันกำลังโผล่ส่วนหัวออกมาจากท้องและกอดคอแม่เอาไว้
ให้ตายเถอะ ช่างเป็นหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวเสียนี่กระไร หน้าเหี่ยวย่นยับราวกับคนแก่อายุเกินร้อย นัยน์ตาโตปานไข่ห่านของมันวาวเรืองแสงสีเขียวเข้มจัด จมูกไร้ดั้ง ริมฝีปากแสยะอ้าจนเห็นฟันแหลมคมซี่เล็ก ๆ พร้อมจะกัดกระชากคอศัตรู
“เคี้ยก เคี้ยก เคี้ยก”