4 ลนน้ำมันพรายนังผีตายทั้งกลม
ลมกรรโชกพัดแรงขึ้นทุกที เสียงหวีดร้องจากเหล่าอสุภะรอบตัวดังขึ้น บรรยากาศปั่นป่วนจนเดาไม่ออกว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นเช่นไร เสียงหมาเห่าหอนดังใกล้เข้ามาทุกขณะ เพิ่มความหวาดหวั่นให้กับผวนจนต้องขยับนั่งชิดแอบด้านหลังผู้เป็นอาจารย์เอาไว้
พลัน ! เสียงแผ่นดินสั่นสะเทือนพร้อม ๆ กับเงาเลือนรางเคลื่อนไหววูบวาบผ่านไปมา เสียงหัวเราะสลับกับร้องโหยหวนสอดแทรกชวนให้ขนลุก อาจารย์ขนอมยังคงร่ายเวทมนตร์เช่นเดิมไม่มีอาการตื่นสะท้านแต่อย่างใด ตรงข้ามกับลูกศิษย์เสียอีกเกิดอาการกลัวจนต้องหลับตา สองมือยกพนมแต้
“ช่วยลูกช้างด้วยเถิด มันมากันแล้ว อ๊าย แผ่นดินลั่น”
ด้วยความตกใจเพราะมีความรู้สึกว่าแผ่นดินกำลังจะแยกตัวออกจากกันจนเกิดเสียงลั่นเปรี๊ยะ ๆ ตามด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยในป่าช้าหักโค่นจนเกิดเสียงดังโครมคราม ผวนลืมตาขึ้นโดยเร็ว ความน่าสะพรึงกลัวตรงหน้าที่เห็น มันแล่นขึ้นไปกระจุกอยู่บนหัว เส้นผมทรงหลักแจวพร้อมใจกันตั้งโด่เด่
“โอย... อาจารย์ช่วยฉันด้วย ผี ผีมาจากที่ใด มากมายเพียงนี้ บรื๋อ...”
ผวนร้องเสียงสั่น ๆ ด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นบรรดาผีโผล่ผุดขึ้นมาจากพื้นแผ่นดินที่แตกอ้าแยะ บางตนกำลังดันตัวขึ้นมาและบางคนยืนโผล่หน้าเน่าเฟะเรือนร่างพุพองเนื้อหลุดล่อนตามตัวฉาบไปด้วยน้ำเลือดน้ำหนองไหลเยิ้มหยดแหมะ ๆ
“อ้ายเดรัจฉานวิชา ปลุกพวกข้าลุกขึ้นมาทำไมมันทำให้ข้าเจ็บปวดแค่ไหน โอย โอย อยากจักเห็นนักใช่ไหม นี่ดูเสียให้เต็มตา”
อสุภะน่าเกลียดตนหนึ่งเอาเล็บกรีดหน้าท้องตัวเองจนเป็นรอยยาว สองมือของมันแบะอกให้แยกขาดจากกันโดยเร็ว ผวนเบิกตากว้างจ้องมองด้วยอาการช็อกสุดขีด
“ผลั๊วะ ! อา”
“โอ๊ย ! อาจารย์มันแบะอก น่ากลัว อา ฉันกลัวแล้ว”
สติสตังเวลานี้ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเสียแล้ว ผวนเขย่าแขนอาจารย์ขนอมด้วยความกลัวสุดขีดเมื่อเห็นเครื่องในเน่า ๆ ของผีร้ายเต็มตาและมีชิ้นส่วนบางอย่างกระเด็นหลุดตกลงมากองที่พื้นแล้วกลิ้งหลุน ๆ เข้ามาใกล้วงสายสิญจน์ เพียงเท่านี้ผวนแทบจะขาดใจตาย ไม่อาจปิดตาลงได้ คล้ายกับโดนสะกดให้ดูภาพความน่ากลัวตรงหน้าต่อไปอีก
“อาจารย์ ช่วยฉันด้วย ผี ผีมันมาจากที่ใด ทำไมเต็มไปหมด มันล้อมเราเอาไว้แล้วอาจารย์ ฉันว่าเผ่นก่อนเถิด”
ด้วยความกลัวผวนทำท่าจะลุกขึ้นออกจากวงล้อมสายสิญจน์ อาจารย์ขนอมรีบคว้าข้อมือมันเอาไว้ ตวาดด้วยเสียงดัง ๆ
“หยุด หยุดบัดเดี๋ยวนี้อ้ายผวน เอ็งไม่ต้องกลัวสิ่งใด ๆ ทั้งสิ้น มันเป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น เอ็งจงตั้งสติให้ดีอย่ากลัวระลึกถึงคุณพระคุณเจ้าเอาไว้ให้ดี อ้ายผวนเอ็งจงหลับตาเสียเดี๋ยวนี้”
เสียงนั้นช่างทรงอำนาจเสียจนผวนปิดเปลือกตาทั้งสองข้างลง สองมือพนมขึ้นตรงกึ่งกลางอก ระลึกถึงคุณพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้ช่วยคุ้มครอง น่าแปลกเสียงน่ากลัวต่าง ๆ เงียบหายไป ป่าช้าตกอยู่ในความสงบอีกครั้ง
ผวนนิ่งสงบไปแล้ว ตรงข้ามกับอาจารย์ขนอม เมื่อลืมตาขึ้นเห็นเหล่าผีร้ายในอากัปกิริยาต่าง ๆ หลอกหลอนให้เกิดความกลัว มือใหญ่ล้วงเข้าไปในย่ามหยิบข้าวสารเสกขึ้นมากำใหญ่ ตาที่มองภูตผีวาวโรจน์
“ไปซะ ข้าไม่อยากให้พวกเอ็งต้องเจ็บ”
ไล่ให้ภูตผีที่กำลังแสดงฤทธิ์เดชให้ชมกลับลงไปในหลุม ทว่าเปล่าประโยชน์ พวกมันกลับดาหน้าเข้ามา ไอ้ตัวใหญ่เนื้อตัวคละคลุ้งด้วยกลิ่นเหม็นเน่ายื่นหน้ายืดคอยาวเข้าใกล้ ดวงตาข้างหนึ่งของมันร่วงหลุดเผละ เด็กผีตัวเล็กรีบเก็บขึ้นมาแล้วยัดกลับคืนให้ ไอ้ผีร้ายส่งเสียงเยือกเย็น
“เอ็งใช้มนต์ปลุกพวกเข้าให้ลุกขึ้นมาแล้วยังไล่ให้กลับลงไปอีกมันไม่ง่ายไปหรือ อ้ายหมอเดรัจฉาน”
คำเรียกของมันสร้างความโกรธให้กับอาจารย์ขนอมจนต้องตวาดออกไป
“หยุดวาจาสามหาวของเอ็งได้แล้วนะ ข้าใช้มนต์ปลุกพวกเอ็งก็จริง แต่ข้าต้องการเรียกนังผีตายทั้งกลมเพียงตนเดียวเท่านั้น พวกเจ้าไม่เกี่ยว ลงไปเดี๋ยวนี้ไม่เช่นนั้นเจ็บตัวแน่”
ภูตผีทั้งป่าช้าหาใส่ใจไม่ พยายามแสดงฤทธิ์ให้น่ากลัวยิ่งขึ้น ผีโครงกระดูกตนหนึ่งผุดขึ้นมาจากดินใกล้ๆกับหน้าหมอขนอม มันหักหัวโยนทิ้งแล้วหัวเจ้ากรรมดันดีดลอยขึ้นมาตั้งอยู่บนบ่าเช่นเดิม
“ข้ารู้ เอ็งจักลนน้ำมันพรายมันใช่ไหม ใจร้าย เอ็งก็รู้ว่ามันเจ็บปวดทรมานแค่ไหน เอ็งใช้วิชาในทางผิด ๆ ระวังเวรกรรมมันจักตามสนองเอ็ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า”