39 เหลงมาให้อาจารย์ขนอมทำเสน่ห์
แต่แกล้งทำเหมือนหวาดหวั่น ไม่ต้องการให้เกิดทับซ้ำ เล่นตัวเพื่อให้มีค่า ทว่าความเร่าร้อนต่อรสสัมผัสอันซาบซ่าน ทำให้เหลงพ่ายต่ออำนาจฝ่ายต่ำเมื่อผ้าแถบถูกแกะดึงออกอย่างนุ่มนวล ความเย็นของสายลมที่โชยพัดผ่านปะทะกับปลายปทุมถันอันตูมเต่ง สยิวกายจนขนลุกชัน ฝ่ามือใหญ่หยาบกร้านคลึงขยี้เพียงเบาบาง
เพียงครู่เดียวเน้นหนักกว่าเดิม เหลงแอ่นอกขึ้น หลังไม่ได้แตะพื้นเพราะลำแขนอันแข็งแรงของคนรักสอดดันเข้าไปด้านล่าง
“อา พี่ผวน ฉัน ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรแทะเจาะตามเนื้อตัว โอย ไม่ไหวแล้ว พี่ผวนจ๋า ฉัน ฉัน”
เหลงยังคงร้องร่ำต่อความสุขที่ฝ่ามือเค้นขยี้ลงที่เต้าปทุมเนื้อนุ่ม แต่แล้วหญิงขี้ข้าต้องเกร็งตัวสะดุ้งแอ่น เมื่อปากของผวนอ้างับลงไป ความสุขซาบซ่านเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เหลงส่งเสียงอืออาด้วยความพึงพอใจ
“พี่ผวน พี่จ๋า ใจฉันจักขาดแล้ว อืม”
หญิงร่านในโลกีย์แอ่นส่ายเคลื่อนไหวเนื้อตัวไปมา ตามใบหน้าของผวนที่ขยับรุกซอกซอนดมดอมความหอมหวานสร้างความวาบหวามแก่ผู้ถูกโจมตีอย่างเหลง ได้แต่ส่งเสียงร้องร่ำด้วยอารมณ์เสน่หา โดยไม่รู้เลยว่านังผีตายทั้งกลมจ้องมองด้วยแววตาดุดันอยู่บนคาคบไม้ ส่งเสียงหัวเราะเสียงแหลมสะใจในความเร่าร้อนทางอารมณ์ของมนุษย์เดินดิน
“จิ๊บอ๋าย ฮ่า ฮ่า พวกมันจะต้องพบกับความวิบัติ ฮี่ ฮี่”
ผีร้ายหัวเราะชอบใจต่อภาพการเคลื่อนไหวของหนุ่มสาวที่คลุกเคล้าแนบชิดเป็นเนื้อเดียวกัน เสียงหอบหายใจดังรัวเร็วขึ้น ตามด้วยแรงขยับเนื้อตัวของผวนโดยมีผ้าขาวม้าของตัวเองคลุมทับส่วนบั้นท้ายเอาไว้ เมื่อมองจากเบื้องหลังลงมาจะเห็นผ้าเคลื่อนที่ไปมา
เหงื่อเม็ดเป้ง ๆ ซึมออกมาจากใบหน้าของทั้งคู่ เหลงขยับผ้ารัดรอบอกตัวเองให้แน่น แววตาที่มองคนรักเต็มไปด้วยความสุข ลำแขนโอบกอดรอบเอวผวนเอาไว้ อิงศีรษะลงกับไหล่ผึ่งผายด้วยความสุขจากรสรักที่ไม่ได้รับมาเนิ่นนาน
“พี่ผวน ฉันขอถามสักนิดเถิดว่า อาจารย์ขนอมอยู่หรือไม่”
“อยู่ มีเรื่องอันใดกับท่านหรือ”
“อยากคุยเรื่องบางอย่างเท่านั้น พี่ผวนช่วยพาฉันไปหาอาจารย์ขนอมหน่อยเถอะ ถ้าหากว่างานนี้สำเร็จ พี่กับฉันคงได้เป็นเศรษฐีใหญ่”
คำว่าเศรษฐีทำให้ดวงตาผวนลุกโพลงขึ้นด้วยความดีใจ เพราะเวลานี้เกลียดชังกับความยากจนแทบจะกัดก้อนเกลือคลุกข้าวกิน หากว่ามีเบี้ยเต็มกระบุง บ้านไม้สักทรงไทยหลังใหญ่ คราคร่ำไปด้วยบริวารข้ารับใช้
เหลงเป็นเมียเอกนั่งเคียงคู่กันบนตั่งตัวใหญ่ ลดหลั่นลงไปเป็นเมียเล็ก ๆ นั่งหมอบกรานรอเรียกไปปรนนิบัติ หากว่าเหลงไม่ยินดีให้มีก็คงต้องงดเพราะเบี้ยที่ได้มาต้องพึ่งพาเมียคนสวย เป็นความฝันที่คิดว่าต้องเป็นจริงสักวัน
“เหลง หากว่าเป็นจริงดั่งคำเจ้า ข้าจักให้ความช่วยเหลือเอ็งเต็มที่ ไปเถิด อาจารย์ไม่ไปไหนอยู่ในห้องพิธี ลุกไหวไหมให้ข้าอุ้มหรือไม่”
เขาทำท่าจะช้อนร่างหญิงเจ้ามายาอยู่ในอ้อมแขน แต่เหลงปัดมือออกโดยเร็ว รีบยันกายลุกขึ้น ทั้งสองเดินควงคู่ไปหาอาจารย์ขนอม การมาเยือนของหญิงคนบาป เสียงหัวเราะพอใจดังขึ้น ปรบมือดัง ๆ ด้วยความพึงพอใจ
“นังเหลง ในที่สุดเอ็งก็กลับมา อ้ายผวน เอ็งไปกวาดลานที ใบไม้มันเยอะ เมื่อครู่ลมบ้าอันใดไม่รู้กระหน่ำเสียจนมองแทบไม่เห็นฟ้า นังเหลงเอ็งมาในห้องกับข้า”
ราวกับว่าอาจารย์ขนอมล่วงรู้จุดหมายของเหลงได้เรียกให้เดินตามเข้าไปในห้องพิธี เมื่อชายผู้มากด้วยมนตรานั่งลงบนตั่งตัวใหญ่ สายตาเพ่งมองหญิงสองผัวด้วยความสมเพช
“นังเหลง ข้ารู้นะว่าเอ็งมาหาข้าด้วยเหตุใด”
เสียงเต็มไปด้วยพลังอำนาจดังขึ้น เหลงก้มลงกราบจนหน้าผากจรดลงพื้นแล้วเงยหน้าขึ้นมอง น้ำตาพร่างพราวด้วยความเศร้ารันทดใจ
“ข้าแต่อาจารย์ผู้หยั่งรู้ทุกอย่าง นังเหลงเองก็ไม่อยากตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ดอกเจ้าค่ะ แต่จักทำอันใดได้เล่าเจ้าคะ อยู่ใต้ฝ่าตีนเขาก็ต้องหวานอมขมกลืน แต่มันสุดทน มีแต่คำเหยียดหยาม ดูถูกราวกับฉันไม่ใช่คน อ้ายเจ้านายก็เลว มันเห็นฉันเป็นแค่เพียงทาสบำเรอกามเท่านั้น”
เหลงร่ำไห้น้ำตานองหน้า ตัวสั่นเทาจนไหล่เล็กไหวสะท้าน เป็นที่เวทนาแก่อาจารย์ขนอมยิ่งนัก จนต้องเป่ากระหม่อมไปหนึ่งพรวด
“อะ อา อาจารย์”
เหลงอุทานเสียงสั่น ต่อความเย็นวาบสาดซ่านไปทั่วเรือนกาย ความเศร้าหมองเมื่อครู่จางหายไป กลายเป็นสงบสุข สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ สายตาที่มองอาจารย์ขนอมนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเต็มที่ มือทั้งสองข้างยังคงพนมแต้อยู่ตรงหว่างอก
“เอ็งไม่ต้องพูดสิ่งใดแล้ว นังเหลง เรื่องการทำเสน่ห์ยาแฝดเพื่อให้ผู้ชายหลงนั้น เอ็งรู้ไหมต้องทำเยี่ยงไรบ้าง”
เหลงส่ายหน้าเมื่ออาจารย์ขนอมถามจบ เรื่องเวทมนตร์ดำสำหรับเธอไม่เคยเห็นต่อการทำพิธี รู้แต่ว่าเมื่อให้หมอเสน่ห์ฝังรูปฝังรอย เพียงไม่นานจะทำให้ฝ่ายชายหลงใหลจนลืมทุกอย่าง ไม่ยอมกลับบ้าน ขลุกอยู่กับฝ่ายหญิง คราวนี้ผู้ทำเสน่ห์อยากได้อะไรก็จะสมปรารถนา
“ไม่รู้ดอกเจ้าข้า แต่ฉันเชื่อว่าอาจารย์จักให้สมความตั้งใจ ช่วยด้วยเถิดหากสำเร็จจะสมนาคุณเต็มที่”