33 ผีตายทั้งกลมจอมแส่ 1
แว่วเพลงยาวของหนุ่มที่ร่ายจีบกันดังแว่วในโสตประสาท ช่างเหมือนกับเขาในเวลานี้ที่เฝ้ารอการกลับมาของเหลงด้วยใจจดใจจ่อ หน้าเหลี่ยมเข้มดำแหงนมองท้องฟ้ากระจ่างใสด้วยใจเหงาว้าเหว่เดียวดาย
พลัน ! เพียงชั่วครู่หมู่เมฆสีดำก้อนใหญ่ลอยละลิ่วเข้ามาบดบังความงามจากแสงนวล สอดแทรกด้วยเสียงหอนของเหล่าสุนัขปากเปราะดังใกล้เข้ามาเป็นอันรับรู้ว่ามีสิ่งไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นแล้ว แม้เป็นชายอกสามศอก แต่ผวนก็ยังมีตาขาวหลงเหลืออยู่ กระโจนแผล็วเข้าไปในห้องนอน ปิดประตูลงดานเสียแน่นหนา ด้วยความกลัวจับขั้วหัวใจ
ตรงนอกชาน มีร่างของนังผีตายทั้งกลมยืนตาแข็งทื่อ มองเข้าไปในตัวสำนักด้วยสายตาโกรธแค้น ความเจ็บปวดต่อการถูกบังคับให้อยู่ภายใต้มนตร์ดำ ทำให้มันทุกข์ทรมาน พยายามหาทางหลุดพ้นจากเวทมนตร์ แต่ไม่อาจจะทำได้ จึงส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนเป็นการระบายความแค้นที่ทับแน่นสุมทรวง แต่ผู้ที่ได้ยินต่างพากันกลัวเสียงเจตภูตในยามราตรี
เหลงทนความกดขี่ข่มเหงจากจรวยที่บัญชาต่อมาให้จั่นกับน้อยช่วยกันเล่นงานไม่ไหว จึงพาร่างที่เต็มไปด้วยคราบความสกปรกเข้าไปหานวลจิต ซึ่งนั่งกินลมชมบรรยากาศกลางสวนด้วยความสุขใจ หญิงผู้คั่งแค้นเข้ามาหมอบกราบนอนราบลงกับพื้น แล้วสะอื้นจนตัวโยน
“อ้าว นังเหลง เจ้าเป็นอันใดรึ ทำไมถึงร่ำไห้ขนาดนี้”
หญิงสูงศักดิ์เอ่ยถามด้วยใบหน้างุนงงสงสัย แต่เหลงกลับคิดว่าเป็นการเสแสร้งแกล้งทำสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง นวลจิตต้องรู้เห็น ไม่เช่นนั้นบ่าวทั้งสองคงไม่กล้ากลั่นแกล้งให้ได้รับความทุกข์ทรมาน แม้แต่ตุ่มแม่ครัวยังไม่กล้ายื่นมือเข้ามาช่วย
“บ่าว บ่าวคิดถึงแม่เจ้าค่ะ ไม่รู้ว่าป่านนี้จักเป็นเช่นไร เมื่อคืนก็ฝันไม่ดีเห็นแม่ร่ำร้องขอความช่วยเหลือ บ่าวคงทนคิดถึงแม่ไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ”
เหลงยังคงส่งเสียงกระซิกกระซี้ออกมา หวังจะได้รับความเห็นใจจากภรรยาเอกของหลวงราชศักดิ์ที่ได้ชื่อว่าเป็นผัวของมันด้วยเช่นกัน
คำว่าคิดถึงแม่ช่างเสียดแทงเข้าไปในความรู้สึกเต็มที แม่ใคร ๆ ก็รัก เมื่อวานก่อนนวลจิตไปแวะเยี่ยมคุณหญิงเนื้อนวลผู้เป็นมารดา รับรู้ว่าสุขภาพท่านไม่ค่อยแข็งแรง ขนาดอยู่ในเมืองหลวงมีบ่าวไพร่คอยรับใช้ ยังน่าเป็นห่วงเสียจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอน แม่ของเหลงล่ะ ฐานะยากจน อดอยากข้นแค้น แถมยังต้องคอยวิ่งหลบหนีคมดาบจากพวกศัตรูบ้านเมือง ชีวิตน่าเวทนา ใครล่ะจะใจร้ายไม่ยอมให้กลับไปเยี่ยม อย่างน้อยเหลงก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของหลวงราชศักดิ์คนหนึ่ง
ย่อมได้สิทธิ์เหนือบ่าวคนใด !
“เอ็งคงอยากไปหาแม่”
“เจ้าค่ะ บ่าวอยากกลับไปดูแม่สักคราว่าเป็นเช่นไรบ้าง ในยามศึกสงครามเยี่ยงนี้จักกินอยู่หลับนอนอย่างไร เรือนร่างก็ไม่ค่อยสมบูรณ์นัก เจ็บออด ๆ แอด ๆ อยู่เรื่อย”
เหลงปล่อยน้ำตาไหลอาบแก้มเพื่อเรียกร้องความสงสารจากนวลจิตและเชื่อผู้หญิงใจอ่อนอย่างเธอคงอนุญาตให้กลับบ้านโดยเร็ว
“เอาเถอะ ในเมื่อเจ้าประสงค์เยี่ยงนี้ ข้าคงไม่อาจขัดได้ ว่าแต่เจ้าเถิดจักเดินทางคนเดียวได้รึ”
เพียงแค่รู้ว่าได้รับอนุญาตกลับบ้าน เหลงดีใจจนแทบกระโดดตัวลอยสูงเสียดยอดยาง หัวใจเต้นรัวราวกับกลองเพล เชื่อว่าการเดินทางกลับบ้านเพียงลำพังคงไม่ลำบาก
“บ่าวไปได้เจ้าค่ะ”
“เจ้าไปแล้วก็รีบกลับมาด้วยล่ะ เดี๋ยวคุณหลวงจะเคืองเอาว่าข้าปล่อยให้นางน้อย ๆ หนีกลับบ้าน ถ้าเจ้าไม่กลับมา ข้าก็ไม่รู้ว่าจักถูกตำหนิเช่นไร”
นวลจิตหวาดหวั่นว่าถ้าหากเหลงไม่กลับมา เธอคงถูกลงโทษบ้าง อย่างน้อยเหลงก็เป็นเมียบ่าวคนใหม่ที่ยังคงความหอมหวานอยู่ พักหลังหลวงราชศักดิ์มักเรียกให้เหลงไปรับใช้บ่อย ๆ ทำให้จั่นกับน้อยเกิดความริษยาต้องแกล้งให้เหลงทำงานหนัก เรื่องนี้เมียเอกอย่างเธอรู้ดี แต่ไม่ปริปากเกรงว่าจะสร้างความแตกแยกในหมู่บรรดาเมียและเธออยู่เหนือกว่าทุกคนไม่ลดตัวไปเกลือกกลั้วกับสิ่งโสมมที่สามีเก็บเอาไว้ในครอบครอง
“บ่าวขอขอบน้ำใจเจ้าค่ะ แล้วจักรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”
เหลงรีบลุกจากไปเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านป่าและได้สวนทางกับพนมตรงทางขึ้นบันได สายตาทหารหนุ่มที่มองมานั้นมีแต่ความเสียใจ เพราะรู้ว่าเธอเป็นอนุคนหนึ่งของหลวงราชศักดิ์ทำให้เขาหมดหวังที่จะได้เชิดชูเสน่หา
“คุณพนม”
เมื่อก่อนเคยเรียกพี่ หลังจากผันตัวเองมาอยู่จุดนี้ เหลงไม่กล้าตีตัวเสมอกับเขาอีกแล้ว เพราะรู้ว่าตัวเองสกปรกเกินไป น่าเสียดายผู้ชายอย่างพนมต้องหลุดมือไปเพราะความทะเยอทะยานของตัวเองดิ้นจนเกิดเรื่อง
“เหลง ขึ้นเรือนก่อนพี่เถิด”
“ไม่เป็นไรดอก คุณพนมขึ้นก่อนเถิด ฉันจักเก็บฟืนเข้าไปในครัวก่อน เชิญเจ้าค่ะ”
เหลงเลี่ยงหลบเดินก้มหน้าไปยังกองฟืน คว้าดุ้นเท่าแขนวางเรียงเอาไว้บนลำแขนตัวเอง ไม่กล้าสบตากับพนมที่เฝ้ามองด้วยความเวทนา ตั้งแต่เหลงตกเป็นเมียบ่าวของหลวงราชศักดิ์ แทนที่จะได้อยู่ดีกินสบายตรงกันข้ามกลับได้รับความทุกข์ทรมาน เรือนร่างผอมโซดูไม่ได้ ความชวนมองไม่มีแม้แต่น้อย ต้องโทษเจ้านายที่ใช้งานหนักเกินไป พนมตัดใจ แล้วเดินขึ้นเรือนโดยเร็ว ทิ้งให้เหลงก้มหน้าก้มตาทำงานด้วยเนื้อตัวสั่นระริกเพราะเหนื่อยล้า