31 เหลงถูกหยามเยาะ
เมื่อสิ่งที่คาดหวังไม่ได้เป็นอย่างที่คิด อาภรณ์ใหม่สวยและเครื่องประดับเพชรพลอยไม่เคยได้คลุมห่มต้องร่างกาย นอกจากผ้าแถบเก่าสีซีดจวนเจียนขาด ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากจั่นและน้อย ทั้งสองต่างเจียดให้เพราะสังเวชใจ เป็นเมียนายทั้งทีแทบจะไม่มีผ้าห่อหุ้มคลุมกาย และเหตุที่เหลงยากไร้เพราะจรวยกลั่นแกล้งไม่ยอมเบิกผ้าใหม่ส่งให้
อีกทั้งจั่น น้อย เมียบ่าวทั้งสองคนต่างไม่พอใจที่เหลงได้ตกเป็นเมียของหลวงราชศักดิ์อีกคน ในฐานะมาทีหลังจึงถูกกดให้อยู่ในครัวเพียงอย่างเดียว เมื่อหลวงราชศักดิ์ต้องการก็เรียกขึ้นไปรับใช้จนหนำใจแล้ว ถีบหัวส่งลงมาในครัวเหมือนเดิม
นวลจิตนั้นไม่สนใจเหลงอีกเลยเพราะถือว่าเป็นผู้ที่สร้างความทุกข์ให้กับตนเอง ใช้ความสาวแย่งเวลาจากหลวงราชศักดิ์ไปครอง จึงมึนเฉยชา ทำให้เหลงคิดเดาไปเองว่าที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างนี้คงเป็นคำสั่งจากนวลจิต
“เป็นไงคุณนายคนสุดท้าย ต้องมานั่งเป่าฟืนพ่นไฟอยู่ในครัว เฮ้อ คนเราน้อ ฝันเกินตัวแทนที่จักได้เป็นเมียทหารชั้นผู้น้อยอย่างคุณพนม ดันทะลึ่งชายตาให้คุณหลวงหวังจักไปไกล ท้ายสุดก็เป็นแค่คุณนายก้นครัว ฮิ ฮิ ถ้าได้กับคุณพนม ป่านนี้คงนั่งหน้าใสไม่ต้องกรำงานหนักอย่างนี้หรอก จริงไหมพี่น้อย”
จั่นเยาะเย้ยเหลงด้วยความชอบใจแล้วหันไปหาลูกคู่อย่างน้อยซึ่งเขม้นมองด้วยความสะใจต่อความระทมทุกข์ของเหลง เนื้อตัวซีดเซียวมอมแมม เสื้อผ้าเก่าปุปะด้วยฝีเข็มเย็บซ่อมแซม เหลงก้มหน้ามองพื้นด้วยความน้อยใจ น้ำตาพาลจะไหลเสียให้ได้ เมื่อตวัดสายตามองสองเมียบ่าวก็เห็นยิ้มแยกเขี้ยว น่าหมั่นไส้
“เมื่อวานบุญหล่นใส่หัวฉัน พี่น้อยรู้ไหม คุณหลวงเมตตาเรียกหาให้ฉันไปรับใช้ พี่น้อยล่ะท่านเรียกหรือไม่”
จั่นแอ่นอกเชิดหน้าสูง ปรายตามองเหลงอย่างดูถูก น้อยเป็นลูกคู่ที่ดี เออออไปด้วย หวังเพียงแค่สร้างความสะใจให้เจ็บช้ำเกิดขึ้นแก่เหลง
“ทำไมท่านจักไม่เรียก เช้านี้สด ๆ ร้อน ๆ ไม่รู้ว่ากินอันใดเข้าไป ทำเอาข้าอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปหมดแล้ว เห็นทีว่าจะเข้าไปงีบสักประเดี๋ยว อุ้ย คุณนวลจิตมา งามแท้ ๆ”
สองเมียบ่าวคุกเข่าลงนั่งกับพื้นเมื่อนวลจิตเดินผ่านครัว เหลงก้มหน้างุดแต่ไม่วายแอบมอง รู้สึกร้อนวาบไปทั้งกายด้วยไฟริษยาเมื่อเห็นอาภรณ์แพรไหมตัวใหม่สีน้ำตาลอ่อนเข้าชุดกัน มีอุบะเส้นยาวห้อยระย้าตกลงที่กลางอก ผมดำขลับยาวสลวยทัดหูด้วยดอกกุหลาบสีชมพูเพิ่มความสว่างงามล้ำบนใบหน้ามากกว่าเดิม จรวยตามติดมาข้างหลังปรายตามองเหลงแล้วเบะปาก สะบัดหน้าเมินไปทางอื่น
ความชอกช้ำบังเกิดแก่เมียบ่าวจนต้องแอบปาดน้ำตาทิ้ง ริษยานวลจิต คิดแค้นอาฆาตหลวงราชศักดิ์ ไม่เคยยกย่องเชิดชูนอกจากย่ำยีเรือนร่างจนหนำใจแล้วไล่ออกจากห้อง ความสุข ความสบายไม่เคยได้รับ จึงคิดหาทางที่จะเล่นงานให้รู้จักกับความเจ็บปวดเหมือนเธอในเวลานี้
“จั่น น้อย มาทำสิ่งใดตรงนี้”
นวลจิตเอ่ยถาม พลางปรายตามองดูเหลง สลดใจไม่น้อย เมื่อเห็นความทรุดโทรมจนน่าใจหาย ได้แต่เฝ้าโทษหลวงราชศักดิ์ที่ใช้งานเมียบ่าวจนหาความงามไม่เจอ
“ก็มาดูแลเรื่องอาหารเที่ยงเจ้าค่ะ คุณนวลจิต”
น้อยเสนอหน้ารีบตอบก่อน จั่นแอบค้อนนิด ๆ เรื่องหน้าใหญ่ใจโตต้องยกให้น้อย มักจะทำอะไรโดยข้ามหัวตนเสมอ แต่จั่นยินยอมเพราะเห็นว่ามาก่อนตน
“พวกเจ้ากินกันเองเถิดนะ คุณนวลจิตกับคุณหลวงแล้วก็ข้าจักไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านแม่ของคุณนวลจิต”
จรวยกล่าวแก่บ่าวจอมสอพลอทั้งสอง แต่ไม่วายชำเลืองแลดูเหลงเห็นก้มหน้างุดไม่ยอมส่งเสียงใด ๆ ออกมา สภาพเนื้อตัวขะมุกขะมอมอย่างนั้นใครเห็นรังเกียจไม่อยากเข้าใกล้ เกรงคราบไคลเมือกคล้ำจะกระเด็นติดตัว
อาจารย์ขนอมนั่งบริกรรมคาถาตลอดเวลา ปากขยับขมุบขมิบเพียงชั่วครู่แล้วเป่าพรวดลงไปที่พื้น ปรากฏร่างของผีตายทั้งกลมยืนตระหง่าน ตามันแดงก่ำด้วยสีเพลิงปานว่าจะเผาผลาญสรรพสิ่งรอบตัวให้ราบพนาสูญ
“ฮิ ฮิ ฮิ อาจารย์มีอันใดจักใช้ข้า บอกมา”
เสียงแหลมเล็กแหวกอากาศจนเย็นยะเยือก ใครได้ยินเป็นต้องขนหัวลุกชันด้วยความหวาดกลัว เสียงหมาหอนร่ำรับกันเป็นทอด ๆ จากไกลแล้วใกล้เข้ามา ท้ายสุด เสียงหมาเหล่านั้นหอนล้อมรอบ ๆ อาณาบริเวณสำนักนี้