29 หลวงราชศักดิ์ปรารถนาในตัวเหลง 1
“คุณพี่ มีเรื่องใดก็ว่ามาเถิด น้องง่วงแล้ว”
“อะไรกัน นวลจิต เจ้าง่วงแล้วหรือ เมื่อก่อนต้องรอให้พี่หลับก่อน น้องถึงหลับ แปลกเสียจริง”
สามีแกล้งเย้าเพราะรู้ว่านวลจิตไม่พอใจต่อพฤติกรรมของตัวเอง มักแสดงความเจ้าชู้ใส่บ่าวหญิงน้อยใหญ่ในบ้านจนตกเป็นเมีย เว้นแต่ตุ่ม แม่ครัววัยเกินห้าสิบ
“ไม่ทราบเหมือนกันเจ้าค่ะ”
“เอาเถอะ พี่ขอพูดตรง ๆ นวลจิต ถ้าพี่หายดีแล้วพี่จักขอนังเหลงเป็นเมียอีกคนนะ”
เหมือนถูกฟ้าฟาดลงกลางกระหม่อม นวลจิตสิ้นเรี่ยวแรง น้ำตาไหลพรากอาบแก้ม และยังคงไหลรินออกมาไม่หยุด หลวงราชศักดิ์เข้าใจความรู้สึกของภรรยาดีว่าเสียใจต่อคำขอที่มากเกินไป แต่ความต้องการตามธรรมชาติของผู้ชายที่เห็นบ่าวผู้หญิงเป็นเครื่องปลดปล่อย ทำให้ไม่อาจหักห้ามใจได้
“พี่รู้ว่าน้องเสียใจ นวลจิตเจ้าต้องเข้าใจพี่ด้วยว่าเหน็ดเหนื่อยเพียงไหน ทั้งงานราษฎร์ งานหลวง อีกอย่างพี่ต้องการแบ่งเบาภาระน้องด้วย”
พูดเอาแต่ได้ นวลจิตขยับตัวออกห่างแล้วลุกขึ้นนั่งโดยเร็ว ไม่แม้แต่ชายตามองสามีผู้มักมาก บัดนี้เขากลายเป็นผู้ทำลายความรักที่เธอมีให้จนหมดสิ้น รู้แล้วว่าหลวงราชศักดิ์รักตัวเองมากกว่าผู้อื่น สิ่งไหนที่ให้ความสุขจะรีบทำทันที
“นังน้อย นังจั่นก็มี”
“โอ๊ย ! นังสองคนนั่นมันเก่าแล้ว น้องนวลจิตเอ๋ย ถึงพี่จะมีเมียบ่าว แต่พี่ยังรักและยกน้องเป็นเมียเหนือกว่าผู้ใด”
ตบท้ายด้วยหยอดคำหวานฉ่ำ แต่นวลจิตเสียใจเกินจะกล่าว รีบผละออกจากห้อง เดินร้องไห้ไปหาจรวยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ญาติผู้พี่ได้แต่ปลอบใจไม่ให้คิดมาก เพราะรู้อยู่แล้วว่าหลวงราชศักดิ์ต้องการสิ่งใดก็ต้องได้สิ่งนั้น โดยเฉพาะเหลง บ่าวในเรือน
“ทำใจเสียเถิดน้องพี่ นังน้อยกับนังจั่นก็มีมาแล้ว ถ้าจักเพิ่มนังเหลงอีกตัว เอ๊ย อีกคน ก็คงไม่เป็นไร ถ้าทนไม่ไหวก็กลับไปอยู่เรือนเรา”
“ไม่นะเจ้าคะ น้องไม่กล้าหอบผ้ากลับไปหาคุณแม่ดอกเจ้าค่ะ ในเมื่อแต่งงานออกเรือนมาแล้วต้องให้ท่านรู้ว่าชีวิตคู่เรามีความสุข”
นวลจิตยังคงยึดมั่นในชีวิตคู่ที่จะอยู่ต่อไปเพื่อให้คนภายนอกรู้ว่านาวารักไม่มีปัญหา แม้ว่าจะหวานอมขมกลืนสักเพียงไหนก็ตาม จรวยเข้าใจความรู้สึกของน้องสาวเป็นอย่างดี ได้แต่ปลอบใจให้คลายกังวลและยอมรับต่อความเป็นจริง
“ในเมื่อน้องพี่ยึดมั่นเยี่ยงนี้ก็คงต้องทนต่อไป สำหรับนังเหลง พี่จักกดมันไม่ให้กล้าเผยอขึ้นมาเทียบเท่า บ่าวต้องอยู่อย่างบ่าว”
“นั่นก็สุดแท้แต่พี่จรวยจะจัดการเถิดเจ้าค่ะ น้องคงไม่มีปัญญาทำอะไรมันได้ดอก ท้อแท้เหลือทน”
นวลจิตเศร้าเสียใจต่อคำขอของหลวงราชศักดิ์จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ร่างกายซูบผอมลงไปกว่าเดิม จรวยต้องเฝ้าดูแลเป็นอย่างดีและใส่อารมณ์กับเหลงบ่อยครั้ง
“อย่านึกนะว่าจะได้เป็นเมียบ่าวของท่าน แกน่ะ อย่างดีก็แค่อ้ายแดงบ่าวท้ายสวนด้วยกันนั่นแหละวะ”
จรวยกระแนะกระแหนใส่เมื่อเห็นเหลงเดินผ่าน ร่างงามชะงักมองหน้าจรวยด้วยความแค้นใจสายตาคมวาววับสร้างความไม่พอใจให้สาวใหญ่ไม่น้อย จนต้องออกงิ้วเสียงดังอีกครั้ง
“นี่ นังเหลง นังบ่าวคนเถื่อน เอ็งมองข้าทำไมยะ หนอยแน่ะ กำแหงนักนะ”
ตวาดเสียงดังใส่ด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ เหลงรีบหลบตามองลงพื้น กล่าวด้วยเสียงส่ำสั่น
“เปล่าเจ้าค่ะ บ่าว บ่าว ไม่ได้คิดสิ่งใดต่อคุณจรวยแม้แต่น้อย”
เหลงเนื้อตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัว ตามด้วยฝ่ามือไหว้ปลก ๆ จรวยเชิดหน้าสูง น้อยกับจั่นรีบเข้ามาสมทบ เห็นท่าทางหวาดกลัวของเหลงแล้ว คิดว่าจะต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น น้อยเอ่ยขยับถามด้วยความอยากรู้
“คุณจรวยเจ้าขา นังเหลงหน้าดำ มันทำสิ่งใดให้คุณจรวยไม่พอใจเจ้าค่ะ”
“จะอะไรเสียอีกล่ะ มันอยากเป็นเมียบ่าวอันดับสามนะซี๊”
สิ้นคำจรวย เมียบ่าวทั้งสองของหลวงราชศักดิ์ต่างสะดุ้ง ตาเหลือก อุทานเสียงดังด้วยความตกใจ
“ห๊า ! นังเหลง หนอยแน่ะ ฉันไม่ยอม ๆ”
จั่นตรงเข้ามาทุบตี ดึงทึ้งเนื้อตัวเหลงจนเกิดรอยช้ำ ตามด้วยน้อยผลักร่างเหลงจนล้มคว่ำคะมำหงาย เหลงไม่กล้าต่อกรนอกจากปัดป้องตัวให้พ้นจากความเจ็บปวด ดูเหมือนว่าสองบ่าวไม่พอใจ รุมสกรัมเสียจนเหลงร้องโอดโอย จรวยเดินยิ้มจากไปด้วยความสะใจ คล้อยหลังไม่นานหลวงราชศักดิ์ผ่านมาเห็นพอดี
“หยุดนะ พวกเอ็งสองคนทำอันใดนังเหลงน่ะ ข้าบอกให้หยุดบัดเดี๋ยวนี้”
น้ำเสียงโกรธจัด สร้างความหวาดหวั่นให้เกิดขึ้นแก่เมียบ่าวทั้งสอง ผละออกจากร่างเหลงซึ่งสะบักสะบอมเพราะถูกรุมทำร้ายจนต้องร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด หลวงราชศักดิ์ปราดเข้าไปหา จับต้องเนื้อตัวเหลงด้วยความสงสาร