27 เหลงผู้ทะเยอทะยาน 2
ร่างอ้วนดำถอนใจเฮือกอีกครั้งด้วยความทุกข์ระทมมองเมียที่นอนหายใจอ้าปากพะงาบ ๆ ด้วยความเป็นห่วง จนต้องขยับเข้ามาเอาผ้าขาวม้าเก่าคลาคล่ำชุบน้ำ แล้วเช็ดตามใบหน้าเนื้อตัวด้วยความเป็นห่วง เสียงลูกชายสะอื้นร่ำไห้เพราะความสงสารมารดา หล่านรู้สึกเศร้ารันทดใจ ที่ผ่านมา ไม่มีเวลาดูแลเมีย ปล่อยปละละเลยจนล้มป่วย ครั้งนี้เพ็ญเจ็บหนักจนคาดไม่ถูกว่าจะอยู่หรือไป
“พี่หล่านหากว่าฉันตายไป พี่สัญญานะว่าจะดูแลลูกทั้งสองของเราให้ดี ฉันเป็นห่วงมัน”
เพ็ญกลั้นใจพูดน้ำเสียงขาดหายเป็นช่วง ๆ หล่านผวาคว้ามือกุมบางของเมียเอาไว้แนบอก สายตาที่มองร่างหนังหุ้มกระดูกเป็นห่วงจับใจ
“นังเพ็ญ เอ็งอย่าพูดเยี่ยงนี้สิ ข้าเชื่อว่าเอ็งต้องรอด รอให้ฟ้าสางเสียก่อน ข้าจักไปหายามารักษาเอ็ง ข้า ข้าผิดเองที่ไม่เอาใจใส่เอ็งกับลูก มัวเมาอยู่กับการพนันจนเสียลูกให้เป็นขี้ข้าเขา”
หล่านร้องไห้ฮือ ๆ สิ้นอายชายชาตรี เพ็ญเผยอยิ้มดีใจที่รู้ว่าผัวสำนึกผิด อนิจจา รอยยิ้มของนางช่างน่ากลัวจนผัวและลูกต้องเมินหน้าหนี
การสู้รบแบบกองโจรของหลวงราชศักดิ์ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงเพราะกำลังพลมีน้อย เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่ล้อมกรอบเข้ามา จึงสู้อย่างจนตรอก ดาบแรกของฝ่ายตรงข้ามฟันฉับลงมา หลวงราชศักดิ์ไหวตัวพลิ้วกายหลบไปได้ แต่ก็เรียกเลือดให้พุ่งกระฉูดออกจากแขนจนร้องโอย พนมรีบเข้ามาคุ้มกันพร้อมด้วยทหารอีกสามนาย
“คุณหลวงมาทางนี้ กระผมจักพาคุณหลวงฝ่าวงล้อมออกไป แข็งใจอีกนิดเถิดขอรับ”
พนมผู้มีหัวใจแกร่งเยี่ยงชายชาติทหารดันหลังเจ้านายให้ไปอีกทาง ฟันดาบฝ่าวงล้อมออกมาได้แต่เสียทหารไปถึงสองนาย พนมบอกให้หลวงราชศักดิ์ไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด อย่ามองด้านหลัง แม้จะเหน็ดเหนื่อยจวนเจียนขาดใจ แต่สองนายบ่าวรอดพ้นจากคมดาบศัตรูได้อย่างหวุดหวิด การรบครั้งนี้สูญเสียกำลังพลไปเกือบครึ่ง โชคดีที่หลวงราชศักดิ์รอดกลับมาได้แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บจากคมดาบเฉี่ยวแขนจนเป็นแผลเหวอะหวะก็ตามที
นวลจิตสะดุ้งตื่นจากสมาธิเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องดัง ๆ เปิดประตูออกมาพร้อมจรวย เห็นพนมประคองหลวงราชศักดิ์ในสภาพบาดเจ็บ ร่างอรชรผวาเข้าหาผัวรักด้วยความเป็นห่วง
“คุณพี่ คุณพี่เจ้าขา เกิดอันใดขึ้น ทำไมถึงเป็นเยี่ยงนี้ โอ แผล พนม คุณหลวง”
เสียงร่ำร้องด้วยความเป็นห่วงดังขึ้น เมื่อเห็นสภาพหลวงราชศักดิ์ย่ำแย่ ใบหน้าอิดโรย ริมฝีปากซีดขาวเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางจนเปลี้ยสิ้นแรง ร่างที่เคยสง่างามทิ้งตัวลงนอนแผ่หราบนพื้นไม้มะค่าเงางาม
“คุณหลวงถูกคมดาบศัตรู ขอรับ แต่แผลไม่ลึกนัก กระผมหายาสมุนไพรห้ามเลือดเอาไว้แล้ว ตอนนี้ก็ต้องชำระร่างกายให้คุณหลวงสะอาด หาอาหารอ่อน ๆ ให้รับประทาน กระผมจักไปตามหมอมารักษา”
พนมกล่าวด้วยเสียงแหบโหย นวลจิตเห็นสภาพของทหารรับใช้สามีแล้วรู้สึกว่าย่ำแย่พอ ๆ กัน รีบสั่งการโดยด่วน
“พนม เจ้าก็แย่เช่นกัน พักผ่อนสักครู่ อาบน้ำ กินข้าวให้อิ่มหนำเสียก่อนเถอะ แล้วค่อยไปตามหมอ ไม่เช่นนั้นเจ้าจักทรุดนะ”
“แต่ กระผม ยังไหว”
“อย่าเลยพนม พักชั่วครู่ เหลง เหลง ให้ป้าตุ่มทำข้าวต้มเครื่องสองที่ แล้วต้มน้ำร้อนเอาไว้ด้วย”
นวลจิตสั่งเหลงซึ่งคอยรับใช้อยู่ไม่ห่าง จากนั้น จรวย จั่นและน้อย ช่วยกันชำระล้างคราบไคลจากเรือนร่างหลวงราชศักดิ์ รวมทั้งทำแผลให้สะอาด ส่วนพนมเมื่อรับประทานอาหารและนอนพักผ่อนเพียงชั่วครู่ ร่างกายฟื้นสู่สภาพเดิม รีบไปตามหมอมารักษาหลวงราชศักดิ์จนอยู่ในสภาพปลอดภัย
เหลงยังคงขลุกอยู่ในครัวเหมือนเดิม ต่างจากน้อยและจั่นคอยอยู่ดูแลหลวงราชศักดิ์ นวดเฟ้นไม่ห่าง จรวยหมั่นไส้ไล่สองบ่าวไปหาผักในบึงหลังบ้าน
“คนอะไรใจดำ ผัวเจ็บทั้งทีไม่ยอมให้เข้าใกล้ฉันก็มีหัวใจเหมือนกันนะ”
จั่นบ่นด้วยความน้อยใจ ใบหน้างอง้ำ น้อยถอนใจเฮือก เห็นใจจั่นแต่ก็สงสารตัวเองเพราะตกอยู่ที่นั่งเดียวกัน
“เราต้องเข้าใจว่าเป็นเมียบ่าว ท่านบอกอย่างไรก็ต้องทำ อย่าขัด เออ คุณจรวยสั่งให้ป้าตุ่มทำข้าวต้มไปให้คุณหลวง เอ็งแวะบอกหน่อยซีวะ”
น้อยออกคำสั่งแก่จั่นอีกครั้ง เมียบ่าวอันดับสองไม่กล้าขัดเพราะนับถือน้อยในฐานะเมียบ่าวคนแรก ศักดิ์ศรีย่อมเหนือกว่าตนเอง