บท
ตั้งค่า

26 เหลงผู้ทะเยอทะยาน 1

‘ฮึ มีความสุขกันเสียจริง ถ้าหากว่านังเหลงได้เป็นเมียคุณหลวง ฉันจักไม่ยอมให้ท่านออกรบ ต้องกกเราแต่เพียงผู้เดียว เชอะ พี่พนมส่งยิ้มหวานให้เรา ทหารยศต่ำอย่างนั้นนังเหลงไม่มองให้เสียหางตาดอก’

เหลงกลายเป็นผู้หญิงเต็มไปด้วยดวงจิตริษยาไปแล้ว คงเพราะความยากลำบากต่องานที่ได้รับมอบหมายจากจั่นและน้อย เมียบ่าวของหลวงราชศักดิ์ เมื่อเห็นนวลจิตอยู่ดีกินสบายเพราะได้ตำแหน่งเมียเอกไปครองไม่ต้องทำอะไรนอกจากชี้นิ้วเพียงอย่างเดียว จึงทำให้สาวบ้านป่ามักใหญ่ใฝ่สูง พยายามส่งสายตาให้นายรูปหล่อ แต่หลวงราชศักดิ์ไม่มีตาให้ใครนอกจากนวลจิตเพียงผู้เดียว

หลวงราชศักดิ์กับพนมได้เดินทางไปรบแล้ว เรือนจึงเงียบเหงาราวไร้ชีวิต จรวยรับรู้เรื่องนวลจิตถูกผีร้ายหลอกจึงมานอนเป็นเพื่อน เกรงว่าจะหวาดกลัวในเวลากลางคืน ก่อนนอนทั้งสองร่วมกันสวดมนต์แผ่เมตตาให้แก่เจ้ากรรมนายเวร และวิญญาณสัมภเวสีเร่ร่อน ไม่ให้มารบกวน แต่วิญญาณผีตายทั้งกลมผู้ตกอยู่ในอำนาจควบคุมของหมอผีขนอม ไม่ยอมรับความเมตตา มันได้แต่ร่ำร้องครวญครางบนยอดไผ่ที่ไม่อาจเข้ามาหลอกหลอนนวลจิตให้หวาดกลัว

“ฮึ่ม สวดมันเข้าไว้ อย่าเผลอก็แล้วกัน ข้าจักหลอกให้ช็อกตายไปเลย ฮื่อ ฮื่อ”

“โบร๋ววว”

หมาเร่ร่อนหอนรองรับเสียงโหยหวนของผีร้าย พวกมันหอนรับเป็นทอด ๆ จนเสียดแทงเข้าไปในโสตประสาทของผู้ที่ได้ยิน บ่าวไพร่ในเรือนของหลวงราชศักดิ์ต่างพากันปิดประตูหน้าต่าง นอนคลุมโปงด้วยความหวาดกลัว จะมีแต่เพียงนวลจิตกับจรวย สวดมนต์ในห้องพระ ไม่ได้ยินเสียงน่ากลัวใด ๆ เพราะจิตมุ่งอยู่กับบทสวดอันศักดิ์สิทธิ์

แสงจันทร์หรุบหรู่ในยามค่ำคืน อากาศเริ่มแปรปรวน เพียงครู่เดียวเมฆดำรวมตัวกัน เป็นก้อนใหญ่บดบังดวงจันทร์จนมืดมิด ผวนห่อตัวเข้ากันด้วยความเย็นที่ถาปะทะเนื้อตัวจนขนลุกตั้งชัน ฝ่ามือใหญ่โลมลูบไปตามแขนล่ำแมน สายตาคมกร้าวจ้องมองขึ้นไปบนท้องนภากาศ อาจารย์ขนอมในชุดขาวยืนตระหง่านหน้าประตูห้องพิธี

“ท้องฟ้ามันแปลก ๆ นะขอรับอาจารย์”

ผวนแหงนมองท้องฟ้าก่อนเอ่ยขึ้นอาจารย์ขนอมพยักหน้าเห็นพ้องกับลูกศิษย์ผู้จงรักภักดี แต่ในใจอดเวทนาไม่ได้ ผวนต้องจากคนรักที่ห่างหายร้างไกลเพราะน้ำมันพรายเสื่อมคลายไปแล้ว ทำให้ผวนเศร้าจนแทบไม่อยากจะทำอะไร นอกจากนั่งถอนใจทิ้งไปวัน ๆ

“ท้องฟ้าผีส่งข่าวแก่ข้า อ้ายผวน ผีตายทั้งกลมมันไม่สามารถหลอกหลอนผู้คนที่อยู่ล้อมรอบนังเหลงได้ ทำให้มันโกรธ”

“เยี่ยงนั้นรึ เรื่องนังเหลง ฉันทุกข์ใจเหลือคณา ทำไมมันเงียบหายไปไม่กลับมาเยี่ยมเรือนเลย เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่อาจรับรู้”

ผวนรำพึงถึงคนรักด้วยความอนาทร ในใจห่อเหี่ยวเมื่อยล้าเสียแทบหมดแรงทรงตัวเป็นอานุภาพแห่งความรักที่ยากจะกลับฟื้นคืนสู่สภาพเดิม เมื่อเหลงไม่ติดต่อมา เกรงว่าจะหมดสิ้นเยื่อใยต่อกัน ผวนจึงมีสภาพเหมือนคนอกหัก

“เอ็งไม่ต้องกังวลไปดอก อ้ายผวน อีกไม่นานนังเหลงมันก็จักกลับมา เชื่อข้าสิ ไม่นานเกินรอ ใจเย็น ๆ เอ็งได้ชื่นชมสมใจแน่”

กล่าวจบร่างใหญ่เร้นหายเข้าไปในห้อง ทิ้งให้ศิษย์เอกยืนแหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยดวงใจฟีบแบน จวบจนกระทั่งได้ยินเสียงนกเค้าแมวร้องใกล้ตัว ด้วยความกลัวรีบกระโจนผลุงเข้าห้องไปอีกคน แม้ว่าเป็นศิษย์หมอผี แต่ก็หวาดกลัวต่อสิ่งที่มองไม่เห็นตัว มักจะแสดงฤทธิ์ได้สารพัดสร้างความหวาดหวั่นให้ไม่น้อย ผู้ชายร่างกำยำอย่างผวนก็อดสั่นคลอนในความรู้สึกได้เช่นกัน

ภายในกระท่อมเก่าผุเจียนพัง เพ็ญนอนแบบอยู่บนฟากไม้ไผ่ มีเพียงท่อนไม้แข็งกระด้างหนุนหัว ข้างกันร่างเล็กบางกระจ้อยของผุดลูกชายคนสุดท้องคอยดูแลไม่ห่าง สายตาที่พร่างไปด้วยม่านน้ำตาเหลือบมองดูหล่าน ร่างอ้วนพุงพลุ้ยไม่มีทีท่าว่าจะอินังขังขอบต่อความเจ็บป่วยของเมีย

“พ่อ พ่อ ตัวแม่ร้อนจัดนัก ฉันฝนยาแก้ร้อนในกรอกปากตั้งสองครั้งแล้วยังไม่หาย จักทำอย่างไรดีเล่า”

ผุดเอ่ยถามบิดาด้วยเสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้ หล่านมองเห็นสภาพทรุดโทรมแล้วถอนหายใจยาว ใช่ว่าจะใจจืดใจดำต่อคู่ชีวิต แต่ในสภาวะสงคราม ยากที่จะหาตัวยาดี ๆ มารักษาอาการป่วยของเมียให้ทุเลาเบาบางจนเหมือนคนปกติ

“ข้าเองก็จนปัญญาว่ะ กลางค่ำกลางคืนเช่นนี้ จักหายาที่ไหนมาต้มให้กิน นอกจากยาแก้ร้อนในนั่นแหละ หากบุญแม่เอ็งมีก็คงรอดล่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel