24 ผีตายทั้งกลมมาเฝ้าเหลง 2
“คุณพนม คุณพนมเจ้าคะ อยู่ที่ใด คุณหลวงท่านเรียกหา คุณพนม”
เสียงจั่นดังใกล้เข้ามาทุกที พนมรีบลุกขึ้นด้วยความเสียดาย มองเหลงชั่วครู่ พร้อมรอยยิ้มที่จริงใจ
“เหลง พี่ต้องไปหาคุณหลวงก่อน ถ้าว่างเมื่อไหร่จักมาคุยด้วย”
“เจ้าค่ะ พี่พนม แต่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจักมีเวลาเช่นนี้อีกหรือไม่ งานในครัวกำลังรออยู่ ฉันเกรงว่า”
เหลงยังไม่ทันจะกล่าวจบ จั่นถลันมายืนตรงหน้า ยกสองมือท้าวสะเอวเอาไว้ มองเหลงด้วยสายตาไม่สู้จะพอใจเมื่อรู้ว่าอยู่ใกล้ชิดกับพนม คิดว่าเหลงต้องการให้ทหารผู้นี้ฉุดดึงลากจากการเป็นบ่าวด้วยมารยาจริตและความงาม
“คุณพนมเจ้าคะ คุณหลวงต้องการพบตัวด่วนเจ้าค่ะ”
จั่นปรายตามองพนมแล้วกล่าวย้ำคำเดิมอีกครั้ง พนมยิ้มให้ไม่พูดอะไรแล้วเดินจากไปโดยเร็ว คล้อยหลังทหารหนุ่มไปไม่นาน จั่นเริ่มวางก้ามกับเหลงทันที
“ว่าไงยะนังเหลง หนอย มาอยู่ใต้ชายคาเรือนท่านไม่นานเริ่มมีมารยาใส่จริตผู้ชายแล้วรึ"
จั่นได้เห็นว่าเหลงลุกพรวดโดยเร็วเช่นกัน
“พี่จั่น พูดอันใดให้คิดซะบ้าง ฉันจักอยู่ที่นี่มีแต่เจียมเนื้อเจียมตัว ทำงานแทบไม่มีเวลาจักชายตาใส่จริตกับผู้ใด อย่าใส่ความกันนักเลย”
ท่าทางเหลงไม่เบา ไม่มีความเคารพยำเกรงแก่ผู้ที่มาก่อนและพ่วงตำแหน่งอนุของหลวงราชศักดิ์ ว่าไปแล้วจั่นก็คือเจ้านายน้อย ๆ คนหนึ่ง แม้แต่ตุ่มผู้อาวุโสยังเกรงใจ เมื่อถูกเหลงสาวบ้านป่าแก้ต่างให้ตัวเองอย่างนี้มีหรือจั่นจะอยู่นิ่ง
“อะ อ้าว นังเหลง เดี๋ยวนี้กำแหงเพียงนี้เชียวรึ จักรู้มากเกินไปแล้วกระมัง เชอะ น้ำหน้าอย่างเอ็งน่ะมันไม่ได้ดีไปกว่าเป็นขี้ข้าอย่างทุกวันนี้ดอก อย่าหวังว่าคุณพนมจักชายตาแล เขาผ่านร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำมาแล้ว ย่อมมีหญิงที่พึงใจ เอ็งน่ะ เพียงแค่ของเล่นเท่านั้น”
ดูถูกกันเหลือเกิน เหลงรู้ตัวดีว่าอยู่ในสภาพเป็นรอง ไม่มีสิทธิ์ต่อความจึงได้ปล่อยน้ำตาออกมาด้วยความเจ็บปวดใจ ร่างอรชรสั่นระริก ไม่เอ่ยคำใดออกมา จั่นหัวเราะชอบใจอีกครั้งต่อสิ่งที่เห็น ชี้นิ้วจิ้มหน้าผากสาวคนยากจนหน้าหงาย
“จำเอาไว้ นังเหลง อย่ามาบีบน้ำหูน้ำตาที่นี่ ข้าไม่ชอบ ไป ไปในครัวเดี๋ยวนี้ อ้อ ข้าสั่งห้ามเอ็งอย่าคุยกับคุณพนมอีก จำไว้”
จั่นสำทับเสียงเหี้ยมกว่าเดิม เหลงรีบคว้ามีดอีโต้หัวตัดลุกขึ้นแล้วเดินหงอย ๆ จากไป แต่ในใจเดือดพล่าน คิดหาทางเล่นงานจั่นรวมถึงน้อยอีกคน ถ้ามีวาสนาเมื่อไหร่จะเล่นงานสองสาวให้เจ็บหนักเพราะทุกวันนี้รับรู้แต่ว่าถูกกดจนแทบเงยหน้าไม่ขึ้น
ผีตายทั้งกลมไม่พอใจเมื่อเห็นจั่นใช้คำพูดดูหมิ่นเหลง มันจะแสดงฤทธิ์เล่นงานแรง ๆ ก็ไม่ได้เพราะเป็นเวลากลางวันจึงได้แต่เขย่ากิ่งมะม่วงแรง ๆ จนเกิดเสียงดังซู่ ๆ จั่นเงยหน้าขึ้นมองไม่เห็นอะไร นอกเสียจากกิ่งมะม่วงขยับขึ้นลงเองด้วยความเป็นคนกลัวผีจนขี้ไปอยู่บนสมองจั่นเผลอหวีดเสียงร้องออกมาดัง ๆ ด้วยความหวาดกลัว
“เหวอ ผีหลอกกลางวัน เป็นไปได้อย่างไร เจ้าข้าเอ๋ยช่วยข้าด้วยเถิด ผี ผี”
จั่นตะโกนร้องด้วยความกลัวแล้วกระโจนออกไปด้วยความเร็ว ไม่สนใจว่ามีอะไรกีดขวางวิ่งหัวซุกหัวซุนไปจนถึงคลองหลังบ้าน ด้วยความกลัวจนลืมตัว ทิ้งตัวลงไปแช่น้ำ มุดหัวซ่อนอยู่ใต้ใบบัวอยู่นาน แม้ว่าจะหนาวสั่นต่อความเย็นของน้ำแต่จั่นยังคงนิ่งอยู่ที่เดิม
กระทั่ง.....เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงหลวงราชศักดิ์โอบประคองนวลจิตผ่านมา เห็นปลาตัวเล็ก ๆ แหวกว่ายอยู่ในน้ำ จึงชี้ชวนให้ภรรยาดู
“น้องนวลจิต เจ้าดูนั่นสิ ปลาท้องใสตัวเล็ก ๆ มันคงมีความสุขไม่น้อย พากันแหวกว่ายน้ำไปมา น้องว่าสวยไหม”
นวลจิตเพ่งมองด้วยความรู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้สามี นาน ๆ จะแนบชิดตามลำพัง ใบหน้างามสลดลงเมื่อคิดว่าจะได้รับความสุขอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่ บางทีมีราชการด่วนให้ไปช่วยรบหลวงราชศักดิ์ต้องจากไปอีก
“สวยเจ้าค่ะ คุณพี่ น้องชอบมานั่งดูบ่อย ๆ”
“เจ้าคงเหงาเวลาที่พี่ไม่อยู่ นวลจิตเอ๋ย เวลาแห่งความสุขมันสั้นนัก พี่รักเจ้าไม่อยากจากน้องไปไหนเลย”
“คุณพี่ น้องก็เช่นกันเจ้าค่ะ เอ๊ะ อะไรไหว ๆ ใต้ใบบัวตรงนั้นน่ะ แปลกจริง คุณพี่เพ่งดูให้ดีเจ้าค่ะ”