19 นวลจิตเจอผี
“มันเป็นบทเรียนแห่งความเจ็บปวด หากเอ็งจักกำแหงต่อข้า คราวหน้าอย่าทำเยี่ยงนี้ให้ข้าเห็นอีกเป็นอันขาด จำใส่กะลาหัวเน่าๆ ของเอ็งเอาไว้”
ท่าทางอาจารย์ขนอมโกรธแค้นผีตายทั้งกลมมาก โดยเขาไม่คำนึงบุญคุณที่มันยอมสละน้ำเหลือง ทนเจ็บให้ลนน้ำมันออกจากใต้คาง ในเวลานี้มันต้องหาทางให้ตัวเองหลุดพ้นจากความเจ็บปวดโดยเร็วจะให้มันทำอะไรยินดีรับใช้ทุกอย่าง
“โอย ! ข้าผิดไปแล้วผู้วิเศษ ข้ายอม ยอมแล้ว ช่วยข้า ให้หายจากความเจ็บปวดด้วยเถิด จักให้ข้าทำสิ่งใดจงบอกมา”
ผีร้ายพยายามหยัดกายอันเน่าเหม็นลุกขึ้น แต่ไม่สามารถลุกได้จึงนอนเกลือกกลิ้งอยู่กับพื้นจนเนื้อตรงท้องปริแตก ลูกผีของมันร่วงหลุดตกลงมา ซึ่งมันมีอาการเจ็บปวดไม่แพ้ผู้เป็นแม่
“อ๊าก !แม่ ข้าปวดแสบ ปวดร้อน เนื้อจักหลุดออกแล้ว ช่วยข้าทีเถิด”
เด็กผีแหกปากกว้างจนมุมปากทั้งสองขยายติดกับใบหู เสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดน่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง อาจารย์ขนอมหัวเราะชอบใจ
“พวกเอ็งมันต้องให้เจ็บถึงจะรู้สึก เอาเถอะวะ ข้าจะยกโทษให้เอ็ง คราวหน้าถ้ากำแหงอีกละก็เอ็งไม่ได้ไปผุดไปเกิดแน่ ข้าจักจับวิญญาณพวกเอ็งถ่วงใต้น้ำ ให้ทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสไม่มีวันได้พบกับความสุข”
“โอย...ข้ากลัวแล้วอย่าทำเลย”
นังผีตัวแม่ยกมืออันเน่าเฟะพนมไหว้ อาจารย์ขนอมพยักหน้าตามด้วยหลับตาแล้วบริกรรมคาถาชั่วครู่หนึ่งจากนั้นพ่นพรวดใส่หน้าผากผีตายทั้งกลม ส่งผลให้มันยุติความเจ็บปวด ลูกน้อยของมันก็เช่นกัน หันมายิ้มแยกเขี้ยวให้เแล้วผลุงเข้าไปในท้องดังเดิม
“นังผี เอ็งจงไปเฝ้าดูนังเหลงเอ็งเอาไว้ ถ้าใครเอาน้ำมนต์ราดรดมันอีก จงแสดงฤทธิ์หลอกหลอนให้มันกลัวจนไม่กล้ายุ่ง ข้าเชื่อว่าน้ำมันพรายยังถูกชะล้างไม่หมด อีกไม่นานนังเหลงมันจะต้องกลับมาหาอ้ายผวนศิษย์ข้า เมื่อนั้นข้าจักให้มันอาบน้ำมันพรายไปทั้งตัว”
“เจ้าข้าอาจารย์ ข้าจักทำตามที่ท่านบอกทุกอย่าง”
เพียงวินาทีเดียว ร่างผีร้ายหายวับไปกับตา อาจารย์ขนอมลืมตัวขึ้นโดยเร็ว ใบหน้าสี่เหลี่ยมมองออกนอกหน้าต่าง เห็นผวนกำลังกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่นจากต้น ความซื่อสัตย์และขยันขันแข็งของศิษย์ผู้นี้ อาจารย์ขนอมบอกแก่ตัวเองว่ามันคือผู้สืบทอดวิชามนต์ดำโดยแท้จริง
เหลงแทบไม่เชื่อตาตัวเอง เมื่อขัดสีฉวีวรรณจนผิวเนื้อสะอาด ใบหน้าที่หมองคล้ำด้วยมนตร์ดำผสมกับคราบเหงื่อไคลหายเกลี้ยงไป บัดนี้ภาพตรงหน้ากระจกคือสาวน้อยหน้าตาผุดผาด แม้ผิวจะคล้ำไปบ้าง แต่ความสวยงามยังปรากฏให้เห็น น้อยเห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ หวั่นว่าหลวงราชศักดิ์จะเอาเหลงเป็นเมียอีกคน เพียงแค่มีนวลจิต จั่นและตัวเธอรวมเป็นสาม หลวงราชศักดิ์ ยังมอบความสุขให้ไม่ทั่วถึง ถ้าหากมีเหลงเพิ่มเป็นสี่ อย่าหวังเลยว่าจะได้อิ่มเอมกับรสเสน่หาตามประสาผัวพึงให้แก่เมีย
“พี่น้อย มองหน้าฉัน มีอันใดหรือจ๊ะ”
เหลงเห็นน้อยมองไม่วางตา เกิดอาการเขินอายเพราะคิดว่าตัวเองวิไลบาดตาแม้แต่หญิงด้วยกันยังชื่นชม น้อยจึงแกล้งข่มเข้าไว้
“ที่ข้ามองเอ็งนี่น่ะ เพียงแค่สงสัยว่าทำไม๊ หน้าตาถึงอัปลักษณ์ความงามนัก ตัวข้าที่ว่าขี้เหร่อยู่แล้ว แต่เอ็งยิ่งร้ายกว่า แซงนำหน้าไปแล้วนะโว้ย นังเหลง”
รอยยิ้มชั่วครู่หุบไปในบัดดล รีบคว่ำกระจกบานเล็กลงกับตะกร้าผักตบชวาที่มีแป้งร่ำหวีไม้ไผ่และขี้ผึ้งสีปากวางคละอยู่ด้วยกัน
“วันนี้เย็นย่ำแล้ว เอ็งรีบลงครัวไปช่วยป้าตุ่มล้างจานให้หมด ถ้าหิวก็คดข้าวในหม้อ ถามป้าตุ่มว่ามีอะไรกินก็ตักเอา กินพอประมาณนะ อย่าตักมาก เหลือแล้วเสียดาย ข้าวของยิ่งแพงอยู่ด้วย"
น้อยไม่วายวางกล้ามทำตัวเหนือกว่าสาวใช้ทั้งปวง เหลงอยากจะรู้ว่าน้อยเป็นใคร ทำไมถึงกล้าทำเสียงดังใส่จั่น สักวันหนึ่งคงจะได้รู้ได้คำตอบ
ข้างฝ่ายน้อยเก็บความอึดอัดใจเอาไว้ไม่อยู่ รีบแล่นไปหาจั่น ขณะนั้นกำลังโลมลูบเนื้อตัวด้วยน้ำปรุง แป้งร่ำกลิ่นหอมจรุง คาดหมายเอาเองว่าหลวงราชศักดิ์จะเรียกไปรับใช้ในห้องเล็กบนเรือนใหญ่ ซึ่งเป็นห้องสำหรับบำเรอสวาทกับเมียบ่าวทั้งสองซึ่งอยู่คนละฝั่งกับห้องของนวลจิต
“แหม อีจั่น เอ็งเตรียมตัวตั้งแต่หัววันเชียวนะ ไม่นึกรึว่าคุณท่านจักเรียกข้าไปรับใช้ก่อนเอ็ง”
น้อยรีบกล่าวด้วยเสียงชวนหมั่นไส้ สำหรับจั่นแล้วยอมน้อยอีกคน เพราะถือว่าตนมาทีหลัง ความเคารพยำเกรงที่มีต่อน้อยจึงลดหลั่นรองลงมาจากนวลจิต เมื่อเห็นน้อยเข้ามาจึงวางเครื่องประทินโฉมไว้ตามเดิม แล้วหันมายิ้มให้อย่างไม่ถือโทษโกรธเคืองต่อคำพูดเสียดแสลงใจ