บท
ตั้งค่า

10 ผีก็มา พม่าก็บุก

หล่านทำท่าจะปล่อยของเก่าออกมา แล้วหน้าหันออกไปในครัว ผุดซึ่งหลบซ่อนอยู่ตรงนั้นพอดี กระโดดเหยงโดยเร็ว พลางร้องห้ามพ่อเสียงดังลั่นบ้าน

“อย่านะพ่อ รากแตกตรงนี้คงโดนฉันเข้าพอดี”

“อ้าว ไอ้ห่าผุด เอ็งหลบตรงนี้ดอกรึ มาให้ข้าหวดซักหน่อยปะไร หนอยหนีข้ามวันข้ามคืนเชียวนะเอ็ง”

ร่างใหญ่กำยำถลาเข้าหาลูกชายแล้วเงื้อมือขึ้นสูง ผุดตกใจร้องลั่นห้ามไม่ให้พ่อตี เพ็ญทนไม่ไหวปราดเข้าหาผัว ถามไถ่เอาความจริงทำไมถึงแค้นลูกชายนักหนา หล่านไม่กล้าบอกความจริงกลัวเมียจะกล่าวหาว่าเป็นคนเลว ได้แต่อ้อมแอ้มไปตามเรื่อง

“ไม่มีอันใดดอกนังเพ็ญ ข้าเพียงแค่หยอกลูกมันเล่นเท่านั้น เพ็ญโว้ยเอ็งออกมาคุยกับข้าสักหน่อย มีเรื่องจะหารือเกี่ยวกับปากท้องของพวกเราทั้งหมดนี่แหละ”

ผัวฉลาดแกมโกงรีบตัดบท ไม่ต้องการให้เมียรู้สึกถึงความระยำของตัวเอง คว้าจับข้อมือเล็กแห้งของนางลากออกมานั่งคุยกันที่นอกชาน ท่ามกลางท้องฟ้ามืดมิดเพ็ญแหงนหน้าขึ้นดูแต่แล้วต้องสะดุ้งโหยง เมื่อปลายหางตาคล้ายกับว่าเห็นใครบางคนตัวใหญ่สูงเทียบต้นตาล ผมยาวสยายยืนอยู่ด้านหลังกระท่อม

“พะ พี่ พี่หล่าน ฉัน ฉันเห็น”

เพ็ญเกิดอาการติดอ่างขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน หล่านแปลกใจต่อท่าทีของเมียไม่น้อย ทำเสียงสะบัดไม่สู้ชอบใจเท่าใดนัก

“เฮ่ย เป็นอันใดวะ จู่ ๆ ติดอ่างขึ้นมาเสียกระนั้นแหละ รึว่าใครเฉือนลิ้นเอ็งทิ้งล่ะใบ้จึงเกิดกับเอ็ง”

“ปะ เปล่าพี่หล่าน เมื่อตะกี้ฉันเห็นผู้หญิงผมยาวตัวสูงเทียบเท่าต้นตาล ยืนด้านหลังเรา มันไม่ใช่คนดอกนะ เปรตแท้ ๆเชียวล่ะ พี่เรากลับเข้าเรือนกันเถอะ ฉันว่าแปลก ๆ อยู่นา”

ด้วยความกลัวจับใจ เพ็ญฉุดมือผัวให้ลุกขึ้นเข้าไปในกระท่อมโดยเร็ว หล่านกลับผลักอกเมียให้นั่งลงกับพื้นเต็มแรง เสียงก้นกระแทกฟากดังพลั่ก เพ็ญมองผัวตาเขียวไม่พอใจต่อความรุนแรงที่ได้รับ น้ำตาแทบทะเล็ดออกมาด้วยความน้อยใจ เกือบยี่สิบปีที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันน้อยครั้งจะได้รับความชื่นมื่นในหัวใจ มีแต่ความทุกข์ระทมต่อความเสเพล ถ้าไม่กลัวว่าลูกจะขาดพ่อ เพ็ญคงพาลูกหนีไปนานแล้ว

“นังบ้า เอ็งน่ะตามันหาเรื่อง นี่ยังจักมาสำออยบีบน้ำหูน้ำตาอีกมันน่าเกลียด เป็นสาวน้อย ๆ ข้าจักไม่ว่าสักคำ นี่อะไรแก่จนหน้าเหี่ยว นมยานเป็นลูกฟักยังร้องไห้ยังกับเด็ก ๆ พอทีเถอะข้ารำคาญเต็มทน”

“พี่หล่านก็เป็นเสียเยี่ยงนี้ล่ะ ฉันพูดอันใดเป็นต้องผิดหูไปเสียหมด เอาเถิดเห็นแก่ว่าอยู่กันมานานฉันไม่เคืองพี่ดอก พี่มีความใดจักเล่าขานก็รีบ ๆ เถอะฉันอยากงีบแล้ว”

เมียสิ้นกำลังใจเมื่อถูกผัวต่อว่าให้เจ็บปวด ซึ่งเป็นแบบนี้หลายครั้งติดกัน จนเข้าใจผิดว่าหล่านแอบไปมีผู้หญิงคนใหม่ เมื่อพิจารณาดี ๆ จึงเห็นว่าเป็นไปได้ยากเพราะตัวดำใหญ่ หน้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผมหงอกจนหมดหัว แม้ว่าอยู่ในช่วงข้าวยากหมากแพง แต่พุงยังป่อง เพียงแค่เห็นหน้าต้องพากันหัวเราะในสารรูปอาภัพความเสน่หา หล่านเองก็คงพอจะรู้ว่าเมียเคืองต่อคำพูดของตน รีบดึงข้อมือให้มานั่งลงดังเดิม

“อย่าเพิ่งนอนเลยน่า ข้ารู้ว่าทุกวันนี้พวกเราอยู่อย่างแร้นแค้น เบี้ยก็ไม่มีติดเรือน ข้าวที่เคยกินต้องเปลี่ยนเป็นหัวเผือกหัวมัน ข้าสงสารลูกเต็มทน”

“สงสารลูก แต่พี่ก็วิ่งเข้าบ่อนอยู่เรื่อย ๆ ผ้าแพรใหม่ ๆ พี่เอาไปขายเสียเกลี้ยง จนแทบจักเอาผ้าขี้ริ้วห่อตัวอยู่แล้ว หากพี่สงสารลูกเลิกได้ไหมไอ้การพนันน่ะมันไม่ทำให้เราดีขึ้นดอก เชื่อฉันเถิด”

ถ้าไม่ใช่เวลาอยากหาผลประโยชน์จากทุกคน หล่านคงซัดปากช่างพูดของเมียไปแล้ว แต่นี่ระงับเอาไว้จนสุดกำลัง มองหน้าเพ็ญด้วยสายตาไม่สู้พอใจนัก ชั่วครู่ถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“ข้ารู้ว่ามันผิด แต่จักทำเช่นไรเล่ามันไม่มีงานทำก็ต้องไปหาที่ระบายออกมาบ้าง กลัวจะบ้าถ้าอยู่เฉย ๆ นี่นังเพ็ญข้าได้ข่าวมาว่าคุณนวลจิตภริยาหลวงราชศักดิ์เป็นผู้มีจิตใจดีงามชอบช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก ข้าว่าจักไปขอความช่วยเหลือสักเล็กน้อย”

หล่านไม่มีความละอายต่อความคิดของตนหวังแค่เพียงเพื่อให้ได้เบี้ยมาจับจ่ายในวงพนัน แต่อ้างกับเมียว่าจะขอเบี้ยมาเลี้ยงครอบครัว เพ็ญขมวดคิ้วเข้าหากันต่อชื่อนวลจิตกับหลวงราชศักดิ์ ไม่คุ้นหูมาก่อนว่าเป็นใครมาจากไหน ผัวนางรู้จักได้อย่างไร

“ฉันไม่เคยได้ยินชื่อเลย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel