ตอนที่ 3 ไม่ใช่ลูก
อาจิงไปพบพ่อบ้านแล้ว นางก็รีบกลับไปยังเรือนที่สภาพนั้นซอมซ่อจะพังทลายลงวันไหนก็ไม่อาจจะเดาได้
หากฝนตกเมื่อไหร่ น้ำก็จะรั่วลงมาทันที ด้วยเพราะหลังคานั้นเป็นรูโบ๋ ห้องอาบน้ำก็มีแต่รูคล้าย ๆ ถูกเจาะเอาไว้
สาวใช้เช่นนางจึงต้องหาของมาอุดรูพวกนั้น กันไว้มิให้ใครมาแอบมองยามเจ้านายของนางอาบน้ำ นายสาวของนางชีวิตรันทดยิ่งกว่าสาวใช้เสียอีก มีเพียงแค่นางที่ได้รับคำสั่งให้ปกป้องดูแลเจ้านายตัวเล็ก ๆ ของให้ดีที่สุด
“คุณหนู ทนอีกนิดนะเจ้าคะ ท่านหมอกำลังมาแล้ว” คนป่วยนอนซมเพราะพิษไข้ ก็จะใครเล่นงานมีเพียงแค่พี่สาวต่างมารดาที่ริษยาในความงามของคนป่วย
อาจิงรับรู้เพียงแค่นั้น แต่ทว่ายังมีอีกเรื่องที่ร้ายแรงกว่าความริษยาของพี่สาวต่างมารดา คนที่นอนราวกับผักเน่า
ไม่รับรู้อันใด นางกำลังฝันถึงวัยเด็กที่ได้นอนหนุนตักท่านแม่
ในสวนของจวนหลังใหญ่โต
ตักของมารดาช่างนุ่มเหลือเกิน รอยยิ้มเล็ก ๆ ของนางทำให้มารดานึกเอ็นดูและขบขันไม่น้อย เด็กน้อยหนุนตักอยู่เช่นนั้น
มารดาก็ร้องเพลงกล่อมเด็กอย่างไพเราะ ยิ่งฟังยิ่งเคลิบเคลิ้มหลงใหล ยิ่งฟังก็ยิ่งคิดถึงแทบขาดใจ มีหรือคนป่วยนอนซมเพราะพิษไข้จะไม่รู้ว่าตนเองนั้นได้ฝันไป
แพขนตาหนางอนงามขยับพลิ้วไหว ราวกับปีกผีเสื้อที่กระพือขึ้นลง ริมฝีปากแห้งแตกเป็นขุยอีกทั้งใบหน้าผอมซูบตอบจนมองดูน่าเกลียด
มือเรียวของอาจิงบีบนวดแขนที่ผอมแห้งยิ่งกว่ากิ่งหลิวเสียอีก ดูเหมือนจะคล้ายที่เรียกว่าหนังหุ้มกระดูกคงจะเป็นเช่นนี้ ช่างดูน่าสงสารยิ่งนัก
ผิดกับคุณหนูใหญ่ ที่กินอิ่มหนำสำราญ พร้อมด้วยบริวารทั้งหลาย รูปร่างยังดูสมส่วนอีกด้วย
ไม่นานท่านหมอก็มาถึง จัดการตรวจอาการป่วยของนาง ก็ส่ายหน้าระอาใจ นางตกน้ำไปทำให้ไอเย็นนั้นมาก คาดว่าช่วงที่ลงไปคงจะสำลักน้ำเข้าไปไม่น้อย อีกทั้งคงจะขาดอากาศหายใจ จนทำให้มีอาการเป็นเช่นนี้
คิดว่าหากฟื้นขึ้นมาได้ก็คงจะโชคดีนัก หลายคนที่ตกน้ำแล้วสำลักบ้างก็สิ้นลม บ้างก็นอนนิ่ง ๆ รอวันเหมือนผักเน่าเสียอย่างนั้น
“ข้ามิอาจจะช่วยอันใดได้มาก เดี๋ยวจะฝังเข็มให้ก็แล้วกันนะ” ท่านหมอวัยชรา คิ้วขมวดมุ่นทีเดียว สีหน้าออกจะดูเคร่งเครียดไม่น้อย
จากนั้นก็จัดการฝังเข็มช่วยเหลือเบื้องต้นเท่าที่ตนจะยื้อเอาไว้ได้ แต่ทว่าเลือดกลับมีสีที่คล้ำมิใช่สีแดงสด ท่านหมอจึงได้เอ่ยกระซิบกับสาวใช้ อย่างแผ่วเบายังใจดีบอกว่าจะช่วยนางอีกด้วย
อาจิงยิ้มแก้มแทบปริ ทว่าเขามีข้อแม้ว่า คุณหนูรองจะต้องเป็นภรรยาของบุตรชายเขา ทำให้อาจิงโกรธเกรี้ยว
จนควันออกหูทันใด แยกเขี้ยวเคี้ยวฟัน ด่ากราดหมอชราอย่างไม่ไยดี
ท่านหมอถูกด่าทอนึกด้วยถ้อยคำรุนแรง เขาสำนึกได้จึงเขียนและจัดเทียบยาให้แก่สาวใช้ผู้นี้ ฝีปากของนางช่างดุเดือดเผ็ดร้อนเหลือเกิน
ท่านหมอผู้นี้จัดการเรื่องเทียบบอกวิธีการต่าง ๆ นานาให้ฟังอย่างละเอียดจึงได้ขอตัวกลับ หากยังรั้งอยู่นานคงไม่แคล้วถูกสาวใช้ผู้นี้กินหัวเขาเป็นแน่
“คุณหนู คนพวกนี้กระไรกัน เห็นแก่ตัวยังมักมาก” อาจิงเป็นเดือดเป็นแค้นยิ่งนัก เอ่ยกับคุณหนูของนางที่นอนแน่นิ่งไม่กระดุกกระดิกอันใด
คงจะมีแต่แพขนตากระมังที่กำลังพยายามกระพือขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนกำลังบอกบางสิ่งบางอย่าง จิตใจของอาจิงนั้นดูเหมือนจะเหี่ยวเฉาลงเป็นอย่างมาก เพราะนางกลัดกลุ้มกังวลใจไม่น้อย
เรือนหลังใหญ่
“ท่านพ่อ จะต้องพูดดี ๆ กับนางนะเจ้าคะ ลูกมิอยากจะแต่งงานกับคุณชายรอง” คนตัวเล็กกำลังอ้อนบิดา
นางมิอยากจะแต่งงานกับคุณชายรองจอมเกเร หากเป็นคุณชายใหญ่นางยินยอมพร้อมใจเป็นอย่างดี เพราะเขาเป็นถึงขุนนางในวังหลวง อีกทั้งยังรูปงามอีกด้วย
หากได้แต่งกับเขานับว่าเป็นวาสนาของนางไม่น้อย บางทีอาจจะได้ติดตามเข้าวังหลวงหากมีงานเลี้ยงสังสรรค์
เกิดมามิเคยได้ย่างกรายเข้าไปชมวังหลวงสักครั้ง หากได้เข้าไปเมื่อไหร่เกรงว่าจะมีความสุขจนล้นทะลักยังได้พูดโอ้อวดได้อีกด้วย
“อืม พ่อจะทำให้เจ้าได้สมหวังกับคุณชายใหญ่นะ” รอยยิ้มของบิดาทำให้เจ้าลูกแมวอย่างเถาว่านหลินมีความสุขยิ่ง บิดารับปากแล้วอย่างไรก็ต้องช่วยนางสุดความสามารถ
นางมิอยากจะแต่งงานเป็นภรรยาไร้ค่าเช่นนั้น นางเหมาะสมที่จะเป็นภรรยาของขุนนางเช่นเขามากกว่า หาใช่คนไม่เอาถ่าน ดีแต่สร้างเรื่องไม่เว้นวัน
“ท่านพี่แล้วจะจัดการอย่างไรกับนางเล่าเจ้าคะ คงไม่ปล่อยให้นางตาย หาไม่แล้วใครเล่าจะแต่งงานแทนลูกของเรา” ลี่เถาหรือจางลี่เถาได้เอ่ยขึ้น
หากปล่อยให้ลูกเลี้ยงตายง่ายเกินไป มันจะไปสาแก่ใจนางได้อย่างไรเล่า มิสู้ส่งนางให้แต่งงานแทนลูกสาวของนางกับคุณชายผู้นั้น จอมอันธพาลแห่งเมืองหลวง
ให้นางอยู่มิสู้ตาย จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีกเล่า ในความคิดของแม่เลี้ยงใจร้ายผู้นี้ มีแต่ความแค้นและชิงชังลูกเลี้ยงผู้นี้นัก
ฟงถงยังลูบไล้เส้นผมของลูกสาวด้วยความรักใคร่แม้ว่านางเติบโตขึ้น จนจะแต่งงานออกเรือน แต่นางยังเป็นเด็กในสายตาของบิดาเช่นเขาและอดเป็นห่วงไม่ได้
เมื่อฮูหยินเอ่ยปากถามเรื่องนี้ เห็นทีว่าจะต้องตามท่านหมอมาตรวจอาการของนางเสียหน่อย หากให้นางตายไป เขาจะกลายเป็นคนใจดำมิสนใจใครจะเป็นหรือตาย
“พรุ่งนี้ข้าจะคงจะต้องไปเชิญท่านหมอมาตรวจด้วยตนเอง” ฟงถงเอ่ยขึ้น เกรงว่าเบี้ยชีวิตคนนี้จะสิ้นใจเร็วไป มันยังไม่สาแก่ใจ ที่มารดาของนางสวมหมวกเขียวให้เขา
จนถูกจับได้ยังตั้งท้อง แต่สตรีหน้าด้านไร้ยางอายก็เอ่ยกล่าวปฏิเสธเป็นพลันวัน เรื่องราวโสมมเช่นนี้มิมีใครล่วงรู้นัก มีเพียงเขาและฮูหยินข้างกาย
จะไม่ให้เขาแค้นได้อย่างไร ภรรยาที่แสนงดงาม ทำตัวไร้ยางอาย รอบคบชู้ในเรือน ทำงามหน้าขนาดนั้น ยังหน้าด้านเหลือทน เอ่ยกล่าวว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขา
“แต่ว่าจะทำให้เราสิ้นเปลืองเงินทองนะเจ้าคะ” ภรรยาของเขายังเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง ร่างอวบอ้วนมีน้ำมีนวลมากมายนัก แต่ติดที่นางมักจะเป็นคนตระหนี่ขี้เหนียวแต่ทว่านางมักจะเข้าบ่อนเล่นการพนันเสมอ สามีมิรู้เรื่องเช่นนี้
“หากคิดว่ามันคือกำไร อย่างไรก็คือกำไรอยู่ดี” ชายวัยเลยกลางคน อมยิ้มกับความคิดของตนเอง
“มันจะได้กำไรอย่างไรเจ้าคะ” ภรรยาเอ่ยขึ้นอย่างสงสัยเอ่ยถามกับสามีของตนเอง นางมิเข้าใจอย่างยิ่งยวดเหตุใดจึงเอ่ยว่าเป็นกำไร
นางก็เห็นอยู่แล้วว่ามีแต่ขาดทุนหาได้เช่นดังที่เขาเอ่ยอ้างไม่ หรือว่านางมีความคิดที่ผิดพลาดไปเช่นนั้นหรืออย่างไรกัน
“นางก็จะยอมทำตามคำขอของพวกเราอย่างไรเล่า มิเห็นจะเสียหาย หากทำดีพูดดีกับนางสักหน่อย คร้านนางจะดีใจ รีบตอบตกลงแต่งงานแทนหลินเอ๋อร์ของพวกเรา”
ผู้ที่เป็นบิดายิ้มแป้นนึกถึงเพียงแค่ว่า ลูกสาวของตนจะต้องไม่แต่งงานชายหนุ่มบุตรชายของตระกูลเสียน ที่แสนจะเกเรและอันธพาลอย่างยิ่ง
อีกอย่างเลี้ยงดูลูกสาวของสตรีที่ไร้ยางอายคบชู้สวมหมวกเขียวให้เขา และยังกล่าวว่าเด็กคนนี้เป็นลูกอีก มีหรือเขาจะเชื่อในเมื่อหลักฐานมันคาตาแบบนั้น
นี่ถึงคราที่นางจะต้องตอบแทนบุญคุณที่เขาได้เลี้ยงดู ทั้งยังมีตำแหน่งเป็นถึงคุณหนูรองอย่างภูมิใจอีกด้วย
“ท่านพี่ช่างฉลาดหลักแหลมเสียจริงนะเจ้าคะ” แววตาและรอยยิ้มช่างจะดูมีความสุขยิ่งนักกับแผนการที่ได้กล่าวมาทั้งหมด
มืออวบอูมของภรรยา ยกถ้วยชาขึ้นมาละเลียดจิบอย่างสบายใจ ที่ทุกอย่างเป็นไปตามความคิดของนาง ไม่เสียแรงที่ลงทุนไปมาก
ว่านหลินยิ้มแย้ม นางไม่พูดอันใดให้ระคายหูบิดา เพราะว่าสิ่งที่นางต้องการนั้นคือเป็นฮูหยินของคุณชายเสียนเหวินจิง คุณชายใหญ่ตระกูลเสียนเท่านั้น
หาใช่คนอันธพาลอย่างเสียนเหวินปินไม่ ชายคนนั้นไม่คู่ควรกับนาง แววตาเจ้าเล่ห์ที่ซุกอยู่ในอ้อมกอดของบิดา มารดาเห็นก็อดที่จะเอ็นดูลูกสาวไม่ได้
“หากไม่ฉลาดข้ามิเลี้ยงดูนางไว้หรอก ครั้งนี้นางต้องตอบแทนความกตัญญูของบิดาผู้นี้แล้ว”