บทย่อ
เถาว่านชิง ช่างอาภัพนัก บิดาไม่รักและยังถูกกล่าวหาว่านางเป็นลูกของชายชู้ และนั่นยังไม่พอ พี่สาวต่างมารดา ไม่อยากแต่งงานกับคุณชายรองเสียนเหวินปิน สองแม่ลูกวางแผนเปลี่ยนเจ้าสาวเป็นนางแทนลูกสาวที่เขารัก มีหรือที่ว่านชิงจะยินยอม นางจึงได้หนีออกจากจวนตระกูลเถา และได้รับความช่วยเหลือจากชายหนุ่มรูปงาม เขาคือฝูจิ้นคัง คุณชายสาม เมื่ออยู่ใกล้เขาทีไร นางก็อดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ นางไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า การมีความรักเป็นเช่นนี้นี่เอง ความรักของนางและเขาเติบโตขึ้นอย่างช้า ๆ และทำให้คนทั้งสอง ต่างก็คิดว่า กว่าจะรักก็ช่างยากเย็นยิ่งนัก เรื่องย่อ เถาว่านชิง ถูกบิดาตราหน้าว่านางเป็นลูกชายชู้ เลี้ยงดูนางราวกับเบี้ยชีวิตตัวหนึ่ง ยามที่ลูกสาวของเขาทำร้ายนาง เขามิเคยสนใจนางสักนิด เมื่อนางตัดสินใจหนีออกมาจากจวนตระกูลเถา หวังมาตายเอาดาบหน้า แต่ใครจะคิดเล่า ว่านางได้ถูกช่วยเหลือโดยบุรุษรูปงาม มารู้ทีหลังว่าเขาคือองค์ชายสามโจวจิ้นคัง โจวจิ้นคัง หรือท่านรองแห่งสำนักคุ้มภัยหยางเฉิน หรือ คุณชายสามฝูจิ้นคัง ถูกปลดออกจากตำแหน่งองค์ชายเพียงเพราะไม่ยอมแต่งงาน เผอิญได้ช่วยหญิงสาวรายหนึ่ง นางช่างเคราะห์ร้ายนักถูกพิษเล่นงานหนักหนาแทบเอาชีวิตไม่รอด เขาจึงได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ และก่อเกิดเป็นความรักของเขากับนาง
ตอนที่ 1 แผนร้าย
องค์ชายสามโจวจิ้นคัง ขัดพระประสงค์รับสั่งของพระบิดา ไม่อภิเษกสมรสกับสตรีนางนั้น บุตรีของขุนนางผู้หนึ่ง
แต่ทว่าพระบิดาทรงกริ้วนัก จึงได้ขับไล่ไปให้พ้นวังหลวง
ยังพระทัยดีมากถึงมากที่สุดประกาศถอดยศองค์ชายให้เหลือเพียงแค่คุณชายสาม เมื่อเข้าทาง โจวจิ้นคังแล้วมีหรือจะเสียใจ
กลับยิ้มร่าอย่างเบิกบานเดินออกจากพระตำหนักด้วยรอยยิ้มที่กว้างยิ่งนัก ทำให้ฮ่องเต้ประชวรอยู่หลายวัน
ฮองเฮาปวดพระทัยไม่น้อย องค์ชายสามผู้ที่แสนจะดื้อรั้นเอาแต่ใจ มิยอมใครง่าย ๆ พระนางจึงทำได้เพียงแค่ แอบช่วยเหลืออยู่ห่าง ๆ
จวนตระกูลฝู
จวนหลังใหญ่ ไร้สาวใช้ดูแล ยามนี้เจ้าของจวนกำลังนอนมือก่ายหน้าผาก พลางกลุ้มอกกลุ้มใจนักหนา ที่มีจวนหลังใหญ่ขนาดนี้จะดูแลอย่างไรไหว
สีหน้านั้นเบื่อหน่ายไม่น้อย พอถูกถอดยศศักดิ์แล้วหลงเหลือเพียงแค่คุณชายสาม หลานชายของท่านตา จวนหลังใหญ่โตแบบนี้เขาจะทำอันใดไหวกันแน่
เสียถอนหายใจครั้งที่เท่าไหร่ ตัวเขาเองก็ไม่ได้นับสักนิด และยังโชคดีที่ข้างกายมีองครักษ์ติดตามมาด้วยสองคน หนึ่งคือ จื่อหวง สองคือ จื่อเทา
“องค์ชาย” เสียงเอ่ยเรียกเจ้านายอย่างแผ่วเบา ผู้ที่เรียกนั้นคือจ่อหวง องครักษ์คนหนึ่ง เขาหย่อนก้นลงที่พื้นหยาบกระด้างข้างเตียงนอนอย่างถือวิสาสะ ราวกับสหายขององค์ชายสาม ผู้ถูกถอดยศเชื้อพระวงศ์อันสูงศักดิ์ให้ลงเหลือเพียงแค่ สามัญชน
พวกเขาทั้งคู่นั่งชันเข่าระหว่างตรงกลางของคนทั้งสอง มีเมล็ดพืชชนิดหนึ่งที่เอาไปตากแห้งแล้วกะเทาะเปลือกของมันออก กินส่วนด้านในนั้น รสชาติทั้งมันและอร่อย
ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งสองจะกินเพลินไปหน่อย ทำให้เปลือกของมันหล่นกระจายเกลื่อนกลาดอยู่ที่พื้นเย็นเฉียบราวกับหว่านเมล็ดพืชในสวนผักอย่างไรอย่างนั้น
ดวงตาขององครักษ์ทั้งสองเหม่อ มองออกไปด้านนอกที่ไร้เสียงหวาน ๆ กังวานของนางกำนัลทั้งหลาย ทำให้นึกถึงยามที่อยู่ในวังหลวงเสียจริง ปากของพวกเขาก็ยังคงกัดกะเทาะเปลือกออกมาอยู่ไม่ขาด
“บอกกี่ครั้งแล้วอย่าเรียกองค์ชาย ข้าล่ะเบื่อพวกเจ้าจริง ๆ เชียว” องค์ชายสามเอ่ยน้ำเสียงกระแทกกับองครักษ์ที่เอ่ยขึ้น มือหนายังก่ายหน้าผากกว้างของตนเองอย่างกลุ้มอกกลุ้มใจ
หลิวชิงรับปากจะหาสาวใช้มาให้ แต่เหตุใดสามวันมานี้ยังไร้วี่แววอยู่อีก ในจวนใหญ่โตมีแต่เศษฝุ่น อีกทั้งยังมีถ้วย ชามที่ยังมิได้ล้างทำความสะอาด เสื้อผ้าเขาอีกเล่า
จะให้เจ้าองครักษ์ทั้งสองจัดการซักก็หาใช่หน้าที่ไม่ เขาก็ทำได้เพียงแค่นอนรอเหมือนผักที่กำลังเหี่ยวเฉา ดีที่ยังมีเงินมากมาย ด้วยเพราะมารดาใจดีเกรงว่าจะลำบาก
แต่บิดานี่สิใจดำยิ่งนัก ตัดหางเขาเสียแล้ว มิให้พี่ชายทั้งสองมาเยี่ยมเยือนหรือมอบความช่วยเหลือใด ๆ ให้เขาสักอย่าง ก็หวังพึ่งน้ำใจของพี่สาวคนงามอย่างหยางหลิวชิงที่เกิดก่อนแค่สองวันเท่านั้น
“แต่ว่า” จื่อหวงหันมองเจ้านาย ด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าตนเองกังวลไม่แพ้กัน
“เมื่อไหร่พวกเจ้าจะเลิกกินมันสักที เห็นหรือไม่ มันกระจายเต็มพื้นไปหมดแล้ว แล้วก็จัดการเก็บกวาดด้วยเล่า” คราวนี้จิ้นคัง กระเด้งตัวขึ้นมาจากหมอนที่เขาหนุนอยู่ ลุกนั่งและมองไปที่พื้นข้างล่างด้วยสายที่ไม่พอใจ
ไม่ทำความสะอาดแต่มันยังสกปรกเพราะเจ้าสองคนนี้กินไม่เลิกเสียที องครักษ์ทั้งสองคนนั้นรับใช้มานานราวเกือบ
สิบห้าปี ด้วยความสนิทสนมจึงได้เอ่ยพูดกันเช่นนี้
หาได้เจ้ายศเจ้าอย่างไม่ อีกทั้งองค์ชายสามก็มิได้ชอบข่มเหงรังแกใครเพียงแค่ตนเองเกิดมาสูงศักดิ์ น้ำเสียงดุ ๆ นี้ดังขึ้นมา เหมือนกำลังตะคอกองครักษ์ทั้งสองคนกลาย ๆ
“องค์ชาย พวกข้าทำเป็นที่ไหนเล่า จะให้ทำก็มีแต่สังหารคนเท่านั้น งานเช่นนี้ก็ย่อมเป็นสตรีมิใช่หรือขอรับ”
จื่อเทาแย้งขึ้นทันใด มือของเขาวัน ๆ ก็เอาแต่จับดาบ จับอาวุธ ฝึกซ้อมอยู่ จะให้มาจับผ้าเช็ดทำความสะอาดก็ดูจะไม่เหมาะกระมัง
“นี่ พวกเจ้านี่มัน ไสหัวไปให้พ้นเลย” เมื่อเห็นว่าเจ้าสองคนนั้นเถียง จึงได้เกิดโทสะเล็กน้อย ไล่ให้พ้นหน้าเสีย เขากำลังคิดหาวิธีจะทำอย่างไรดี ถึงจะมีสาวใช้มาดูแลในจวนนี้
แต่ทว่า องครักษ์ของเขามิรู้สึกรู้สาอันใด มัวแต่เมามันด้วยการแทะเมล็ดพืชสีดำนี้อย่างเอร็ดอร่อย มันน่าให้เขา
มีโทสะหรือไม่ ไม่ใช่เหลือ ยังมาทำให้สกปรกอีก
จวนตระกูลเถา
เถาว่านอิง เติบโตท่ามกลางความโดดเดี่ยวและอ้างว้าง บิดาไม่รักและมิสนใจการเป็นอยู่ของนาง มารดาก็จากไปตั้งแต่ห้าหนาว ใครเล่าจะกางปีกปกป้อง
ก็คงจะมีเพียงสาวใช้ของนางกระมัง หากมิได้สาวใช้ผู้นี้คอยดูแลตั้งแต่ห้าหนาว จนถึงตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่านางจะตายตามมารดาไปเมื่อไหร่
คนตัวเล็กรูปร่างซูบผอม ดวงหน้าของนางดูจะงดงามไม่น้อยทำให้พี่สาวต่างมารดานึกอิจฉาริษยาในความงามของนางมิได้
ในห้องนอนของเรือนใหญ่ พี่สาวต่างมารดามีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ที่นางได้รับทาบทามจากชายหนุ่มผู้หนึ่งให้แต่งงานด้วย
เพราะสัญญาหมั้นหมายที่จะต้องตกลงแต่งงานกัน แต่นางก็เอาแต่บ่ายเบี่ยงมาทุกครั้ง ครานี้ทางตระกูลนั้นมิยินยอมแล้ว
ฮูหยินใหญ่มือสองข้างกำลังคลึงขมับตนเอง เพราะคิดไม่ออกจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี ของขวัญวันหมั้นก็รับมาตั้งเสียมากมาย ติดเพียงแค่อย่างเดียว
คือคุณชายจวนนั้นมักดื่มเที่ยวเล่นเสเพลไม่เอาการเอางานอันใดเลย มีแต่สร้างเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับคนอื่นไปทั่ว
คราแรกพวกนางที่รับมานึก ว่าเป็นคุณชายใหญ่ แต่ที่ไหนได้เป็นคุณชายรองจอมเกเรอันธพาลแห่งเมืองหลวง
“ท่านแม่ลูกไม่อยากแต่งนะเจ้าคะ” เถาว่านหลิน เอ่ยขึ้น ดวงหน้าของนางก็ดูจะงดงามอยู่ แต่แพ้น้องสาวอย่างว่านชิง ที่รายนั้นได้ความงามมาจากมารดา
“แม่รู้ รอให้ท่านพ่อเจ้ากลับมาก่อนเถิด แม่จะคุยให้อีกที” มารดาก็เห็นดีว่าไม่ให้ลูกสาวที่นางรักยิ่งแต่งงานกับคนไม่เอาถ่านเช่นนั้น
อนาคตย่อมมืดมัวและไม่อาจจะเชิดหน้าชูคอได้เป็นแน่หรือไม่ก็อาจจะถูกบรรดา พี่น้องเหยียบย่ำซ้ำเติมทำให้จมดินไม่อาจจะเงยหน้าขึ้นมาได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวนัก
“หรือว่า หากให้ท่านพ่อสลับตัวจะได้หรือไม่เจ้าคะ” ว่านหลินกำลังเอาตัวรอดหนีให้พ้นจากเรื่องเช่นนี้ นางไม่อยากจะแต่งงานเพราะนางแอบชอบคุณชายใหญ่ พี่ชายของเจ้าเกเรผู้นั้น
เขาคนนั้นทั้งรูปงาม การศึกษาก็สูงส่ง ยังเป็นที่นับหน้าถือตา ต่อไปเขาก็ได้เป็นผู้นำตระกูลเป็นแน่ หากจะให้ดีเปลี่ยนเจ้าบ่าวเป็นเขา นางจะรีบแต่งให้เร็ววัน
“แม่ไม่แน่ใจจะต้องดูสัญญามั่นหมายอีกที” มารดาก็เห็นดีเห็นงามกับลูกสาวอยู่แล้ว หากเปลี่ยนตัวได้ก็จะสบายใจนักไม่ต้องมานั่งกลุ้มอกกลุ้มใจเช่นนี้
“ท่านแม่ ทางนั้นไม่รู้หรอกเจ้าค่ะ ท่านก็เพียงแค่พูดจาหวาน ๆ กับท่านพ่อ คร้านจะเห็นดีเห็นงามตามท่านแม่ด้วย”