3.พี่สาวใจดี
ด้านศิลาที่มัวแต่อ่านข้อมูลที่ลูกค้าส่งมาก็ไม่ทันได้สังเกตว่าหลานทั้งสองนั้นหนีไปเล่นน้ำ พอเขาได้ยินคนตะโกนว่าเด็กจมน้ำก็หันไปมองตรงที่หลานทั้งสองนั้นเล่นก่อทรายทันทีแต่เขาก็ไม่เจอใคร ก่อนจะเห็นผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งตรงดิ่งไปที่ทะเล แล้วเขาก็เห็นหลานทั้งสองของเขากำลังจะจมน้ำ เขาก็เอาโทรศัพท์ทิ้งแล้วรีบวิ่งตามเข้าไปช่วยหลานทั้งสองทันที
“ลูกนัท!... ลูกพีช!...” ศิลาพูดไปก็วิ่งหน้าตั้งไปที่ทะเลก่อนจะรีบว่ายน้ำตรงไปช่วยหลานแฝดของเขาอย่างเป็นห่วง และก็มีทีมงานที่มาถ่ายพรีเวดดิ้งนั้นตามมาช่วยเขาอีกหลายคน
เรวดีที่ว่ายไปหาเด็กอีกคนถึงแล้วเธอก็โอบกอดไว้แล้วชูตัวเด็กทั้งสองขึ้นไปเหนือน้ำอย่างเหนื่อยๆ ก่อนจะรวบรวมแรงของตัวเองนั้นว่ายพาทั้งสองเข้าฝั่ง แต่เด็กผู้หญิงที่เธอพึ่งช่วยนั้นกลัวแล้วก็มากอดเธอจนเธอนั้นไม่สามารถว่ายน้ำได้
“อื้อ…หนูอย่ากอดพี่แบบนี้เดี๋ยวเราก็จมไปด้วยกันหรอก อื้อ…” เรวดีพูดไปก็พยายามสะบัดเท้าให้ตัวลอยอยู่ในน้ำให้ได้นานที่สุดเพราะเธอเห็นคนว่ายเข้ามาช่วยอยู่ใกล้ๆแล้ว เธอจึงพยายามโอบกอดทั้งสองไว้อย่างอดทน
“หนูกลัว ช่วยหนูด้วย หนูกลัว อือๆ อือๆ…” ลูกพีชที่กลัวมากก็ไม่ได้ฟังที่พี่สาวคนสวยที่มาช่วยเลยสักนิด เด็กน้อยก็โอบกอดแน่นก่อนจะเอามือตะเกียดตะกายขึ้นมาอย่างรนราน
“ลูกพีชพี่อยู่นี่ ลูกพีช อย่าทำอย่างนั้นพี่เขาจะจมน้ำแล้ว” ลูกนัทเอ่ยพูดออกไปเมื่อพี่สาวที่มาช่วยพวกเขานั้นกำลังจะจมน้ำอยู่แล้ว
“ลูกพีช ลูกนัท อามาช่วยแล้วลูก …. คุณ ไหวหรือเปล่า” ศิลาว่ายน้ำเข้ามาแล้วเขาก็เข้าไปโอบตัวของผู้หญิงคนนั้นให้ขึ้นมาเพาะเธอจะจมน้ำอยู่แล้ว เขาก็เอ่ยถามเธอออกไปแล้วก็มองคนที่กำลังว่ายมาช่วยก็ใกล้จะถึงพวกเขาแล้ว
“วะ ไหวค่ะ คุณพาน้องผู้หญิงไป เดี๋ยวฉันจะพาน้องผู้ชายไปเอง” เรวดีที่พยายามว่ายน้ำนั้นก็ไม่ทันได้มองหน้าตาของคนที่เข้ามาช่วย เธอก็เอ่ยบอกไปแล้วก็ปล่อยเด็กผู้หญิงที่ดิ้นตัวอย่างกลัวๆนั้นให้เขาไป แล้วเธอก็โอบกอดเด็กผู้ชายไว้ เพราะเด็กคนนี้มีสติมากกว่าและเธอก็น่าจะพาเข้าฝั่งไหว
“อือๆ อาศิลา ลูกพีชกลัว อือๆ” ลูกพีชก็โผล่เข้าไปกอดผู้เป็นอาแน่น แล้วร้องไห้ออกมาท่ามกลางคลื่นที่ยังคงชัดอย่างแรง
“ไม่ต้องกลัวอาอยู่ตรงนี้แล้ว ลูกพีชไม่เป็นอะไรแล้ว เราเข้าฝั่งกันเถอะ คุณว่ายน้ำพาหลานผมนำไปก่อนเลย” ศิลาพูดบอกไป เพราะเธอมาช่วยก่อนเขาแล้วและคงจะอ่อนล้าแล้ว เขาจึงให้เธอว่ายน้ำพาลูกนัทเข้าไปก่อน เพื่อที่เขาจะได้ดูเธอด้วย
เรวดีก็ไม่ได้สนใจที่เขาพูดเพราะเธอนั้นรู้ตัวว่าเธอนั้นจะไม่ไหวแล้ว พอเธอส่งเด็กผู้หญิงคนนั้นให้ผู้ชายคนนี้ไปแล้ว เธอก็โอบกอดเด็กผู้ชายคนนี้ว่ายกลับเข้าฝั่งทันที ก่อนจะมีคนว่ายเข้ามาช่วยเธอพาตัวเด็กผู้ชายคนนั้นไป เธอก็รู้สึกโล่งอกทันทีที่ได้เห็นเด็กคนนั้นปลอดภัย
“โอ๊ย… ช่วยด้วย….อื้อ….ฉันเป็นตะคริว” เรวดีที่กำลังจะว่ายตามไปอยู่ๆก็เป็นตะคริวที่น่องทำให้เธอนั้นไม่สามารถว่ายน้ำต่อไปได้ เธอก็ร้องขอความช่วยเหลือก่อนที่เธอจะค่อยๆจมลงไปอย่างไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ด้านศิลาที่ตามมานั้นก็รีบส่งหลานของเขาให้คนที่เข้ามาช่วยไปอีกคน ก่อนจะรีบว่ายไปช่วยผู้หญิงคนนั้นอย่างรวดเร็ว เขาก็ดำน้ำไปหาเธอเพราะคลื่นซัดแรงจนเขากลัวว่าถ้าเธอจมลงไปแล้วจะถูกซัดไปจนเขานั้นหาไม่เจอ แต่โชคดีที่เธอนั้นไม่ได้อยู่ไกลจากเขามาก ทำให้เขาได้เห็นเธอจมน้ำไปแต่เหมือนว่าเธอนั้นจะหมดสติไป
เขาจึงรีบเข้าไปโอบกอดตัวเธอไว้ แล้วก็จูบปากเธอเพื่อเปาลมของเขาเข้าไปในปากเธอแต่เธอก็ยังไม่ได้สติ เขาจึงเอามือโอบเอวเธอแล้วพาว่ายน้ำขึ้นไปหาอากาศที่เหนือผิวน้ำ
“คุณ แปะ แปะ ฟื้นสิคุณ แปะ แปะ ให้ตายเถอะ! ” ศิลาพูดไปก็เอามือตีที่หน้าของเธอเบาๆเพื่อเรียกสติ แต่เธอนั้นก็หมดสติไป ทำให้เขานั้นต้องเอามือโอบรัดที่คอของเธอ แล้วพาว่ายเข้าฝั่งอย่างทุลักทุเล
พอมาถึงฝั่งศิลาก็อุ้มตัวผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาแนบอกอย่างแข็งแรงก่อนจะพาไปวางที่หาดทราย แล้วเขาก็เอามือปั้มหน้าอกของเธอ ก่อนจะก้มลงไปเป่าปากเพื่อเอาอากาศเข้าปากของเธอ ศิลาก็ทำแบบนั้นรัวๆท่ามกลางสายตาของหลานแฝดทั้งสองและคนที่เข้ามาช่วยเหลือ
“คุณ….ฟื้นสิคุณ จุ๊บ….” ศิลาเลยหน้าขึ้นมาแล้วก็เรียกผู้หญิงคนนี้ ก่อนจะก้มลงไปเป่าลมที่ปากของเธออีกครั้ง เพราะเธอยังไม่ได้สติเลย
“แค่กๆ แค่กๆ แค่กๆ…” เรวดีสำลักน้ำออกมาในที่สุด ทำให้ทุกคนที่ลุ้นอยู่นั้นโล่งใจขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั้นสำลักน้ำออกมาแล้ว
“ค่อยๆลุกขึ้นมาคุณ แล้วก็หายใจเข้าลึกๆ” ศิลาพูดไปก็พยุงตัวเธอขึ้นมาอย่างอ่อนโยน แล้วบอกเธอให้หายใจเข้าลึกๆ
“โอ๊ย…ขาฉันเป็นตะคริวคุณ โอ๊ยเจ็บ…” เรวดีเอ่ยพูดออกไปเมื่อเธอได้สติมาแล้วชายคนนี้พยุงเธอลุกขึ้นนั่งทำให้เธอนั้นปวดตะคริวที่น่องอย่างทรมาน
“ใจเย็นๆคุณ แล้วค่อยๆเกร็งปลายเท้าแล้วจิกลงช้าๆ” ศิลาได้ยินแบบนั้นก็รีบขยับตัวไปจับที่น่องของเธอแล้วเขาก็พูดบอกเธอไป จากนั้นเขาก็เอามือดันปลายเท้ากระดกขึ้นช้าๆแล้วทำค้างไว้ ส่วนมืออีกข้างก็เริ่มคลึงเบาๆที่กล้ามเนื้อบริเวณที่เป็นตะคริว เพราะมันจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวได้เร็วขึ้น
เรวดีที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้นก็ทำตามที่เขาบอกอย่างลืมตัว นี่เธอเป็นหมอแต่กลับให้คนอื่นมาบอกได้ซะนี่ ก่อนจะเงยหน้ามองเขาอย่างชัดเจนและมันก็ทำให้เธอนั้นถึงกับอึ้งไปเพราะผู้ชายที่มาช่วยเธอนั้นหล่อมาก หล่อกว่าแฟนเธอด้วยซ้ำ นี่เขากินอะไรเป็นอาหารเนี่ยถึงได้หน้าตาออกมาเพอร์เฟคขนาดนี้ เรวดีคิดในใจไปก็มองหน้าเขาอย่างเพลินๆ
“ดีขึ้นหรือเปล่าคุณ” ศิลาเงยหน้าขึ้นมาถามเธอมันจึงทำให้สายตาของเขาและเธอนั้นมองสบกันอย่างไม่ตั้งใจ และเขาก็พึ่งเห็นว่าผู้หญิงคนนี้นั้นสวยมาก สวยจนเขานั้นมองอย่างไม่ละสายตาเลย ผู้หญิงอะไรหน้าหวานขนาดนี้ เห็นแล้วจะอยากจะจับกลับบ้านจริงๆ
“อ่อค่ะ ดีขึ้นนิดหน่อยแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันนะคะ” เรวดีพูดบอกไปอย่างขอบคุณแล้วรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก เพราะสายตาที่เขามองมามันทำให้เธอนั้นใจเต้นตุบตับเลย เธอจึงหลบสายตาเขาไปอย่างเลี่ยงๆ
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ที่คุณต้องมาจมน้ำแบบนี้ก็เพราะว่าคุณว่ายน้ำเข้าไปช่วยหลานของผม ผมต่างหากครับที่ต้องขอบคุณคุณ ถ้าไม่ได้คุณหลานผมคงแย่แน่…อ่อ แล้วผมก็ต้องขอโทษด้วยที่ผมล่วงเกินคุณเมื่อกี้ สถานการณ์มันฉุกเฉินน่ะครับ” ศิลาพูดบอกไปด้วยเสียงอ่อนอย่างขอบคุณเธอ เพราะถ้าเธอไม่เข้าไปช่วยไว้ก่อนล่ะก็ หลานๆของเขาก็อาจะไม่รอดแล้วก็ได้ ก่อนจะเอ่ยขอโทษที่เขาผายปอดเธอ
“ล่วงเกินฉัน…?” เรวดีทำหน้าสงสัยออกไปว่าเขานั้นล่วงเกินอะไรเธอ คนก็อยู่ตรงนี้ออกจะเยอะแยะ เขาจะมาล่วงเกินเธอได้ยังไงกัน
“เมื่อกี้ผมผายปอดช่วยคุณน่ะครับ หวังว่าคุณจะเข้าใจสถานการณ์นะครับ” ศิลาเอ่ยพูดบอกไปแล้วมองเธอด้วยใบหน้านิ่งๆ เพราะเขาคิดว่าเธอน่าจะเป็นเจ้าสาวที่มาถ่ายพรีเวดดิ้งกับคนรักก่อนหน้านี้
เขาจำเสื้อที่เธอใส่ในตอนนี้ได้ เขาจึงต้องเอ่ยขอโทษกับเธอที่ล่วงเกินไปต่อหน้าคนมากกมายแบบนี้ และเขาก็แอบเสียดายที่เขานั้นมาเจอเธอช้าไป เพราะเธอนั้นเรียกได้ว่าตรงสเปคที่เขาตั้งเอาไว้เลย ทั้งหน้าตาที่สวยแบบธรรมชาติและรูปร่างเว้าโค้งเป็นสัดส่วนแบบนี้น่าฟัดสุดๆ
“อ่อ…ฉันเข้าใจค่ะไม่เป็นไร ว่าแต่หลานๆของคุณปลอดภัยใช่ไหมคะ” เรวดีพูดตอบไปก็รู้สึกเขินๆอย่างบอกไม่ถูกที่เขาผายปอดช่วยเธอ นี่ก็แสดงว่าเขากับเธอจุ๊บกันน่ะสิ เอ้ย นี่เธอคิดลามกอะไรเนี่ย มันคือการช่วยชีวิต เขาไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย อีกอย่างเธอก็มีแฟนแล้วจะมาคิดมโนถึงผู้ชายคนอื่นได้ยังไงเนี่ย เรวดีคิดไปก็เอ่ยถามถึงเด็กที่เธอเข้าไปช่วยไว้แก้เขิน
“พวกเราปลอดภัยดีครับพี่สาวคนสวย ขอบคุณมากๆเลยนะครับที่ช่วยพวกเราไว้” ลูกนัทที่ยืนมองอยู่ข้างๆเอ่ยพูดออกไปก็ยกมือไหว้พี่สาวคนสวยคนนี้ที่เข้าไปช่วยเขา
“ว่าแต่พี่สาวคนสวยชื่ออะไรเหรอคะ หนูชื่อลูกพีช ส่วนนี่พี่ชายฝาแฝดของหนูชื่อลูกนัทค่ะ ส่วนคนที่จุ๊บกับพี่สาวคนสวยเมื่อกี้คืออาศิลาค่ะ” ลูกพีชเอ่ยพูดออกไปด้วยเสียงน่ารักก่อนจะเข้าไปยืนยิ้มให้พี่สาวคนสวยอยู่ใกล้ๆ
“ลูกพีช…” ศิลาเรียกชื่อหลานสาวด้วยเสียงเข้มแล้วส่งสายตาดุๆไป เมื่อหลานสาวพูดว่าเขานั้นจุ๊บเธอ ทั้งที่เขาทำแบบนั้นก็เพราะช่วยเธอต่างหาก ถ้านั่นเรียกจุ๊บเขาก็คงจะจุ๊บเธอไปหลายทีเลยล่ะ
“อ่อไม่เป็นไรค่ะแกยังเด็ก คงยังไม่เข้าใจเรื่องการช่วยชีวิตคนจมน้ำแบบนี้… พี่ชื่อเรวดีจ้า น้องๆเรียกพี่ว่าพี่เรย์ก็ได้จ้า ส่วนคุณยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” เรวดีพูดบอกไปด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรกับเด็กทั้งสอง ก่อนจะหันมาพูดกับชายตรงหน้าอย่างมิตรเช่นกัน ศิลาก็พยักหน้ายิ้มตอบเธอไป
“ในเมื่อไม่มีใครเป็นอะไรแล้วพวกผมขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวต้องไปเปลี่ยนชุดแล้วมาเก็บของต่อ” พวกทีมงานเอ่ยพูดออกไปเมื่อเห็นว่าทุกคนนั้นปลอดภัยแล้ว
“อ่อครับ ขอบคุณพวกคุณด้วยนะครับ เด็กๆขอบคุณพี่ๆเขาสิ” ศิลาพูดบอกไปก็ลุกขึ้นแล้วหันไปบอกหลานทั้งสองให้ขอบคุณคนที่เข้ามาช่วยเหลือทันที
“ขอบคุณครับ / ขอบคุณค่ะ” ลูกนัทและลูกพีชก็ยกมือไหว้ขอบคุณออกไปตามที่ผู้เป็นอาบอกทันที จากนั้นพวกทีมงานก็พยักหน้ายิ้มให้แล้วก็ขอตัวกลับไปเปลี่ยนชุดใหม่แล้วเก็บของต่อ
ส่วนเรวดีนั้นก็ยังไม่หายจากเป็นตะคริวดีที่เท่าไหร่ เธอจึงได้แต่นั่งจิกเกร็งปลายเท้าเพื่อทำให้อาการมันดีขึ้น แต่มันก็คงจะใช้เวลาอีกหลายนาทีอยู่เหมือนกัน
“ตรงนี้แดดมันเริ่มร้อนแล้ว คุณไปนั่งพักที่บ้านพักของผมก่อนละกันนะ เดี๋ยวผมอุ้มคุณไปเอง ” ศิลาพูดบอกไป เพราะเธอคงจะเดินไปเองไม่ไหว อีกอย่างพวกทีมงานก็ไปกันนู้นแล้ว เขาจะใจร้ายทิ้งเธอนั่งร้อนอยู่ตรงนี้ได้ยังไงล่ะ
“อ่อ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันนั่งตรงนี้สักพักก็คงดีขึ้นแล้ว คุณพาหลานๆไปเถอะค่ะ” เรวดีพูดออกไปอย่างเกร็งใจ เธอจะให้เขาอุ้มไปได้ยังไงกันล่ะ ตัวเธอก็ไม่ได้เบาๆเลยนะนั่น
“ร้อนขนาดนี้คุณจะนั่งยังไงนานๆล่ะ ไม่ต้องเกรงใจหรอก กว่าคุณจะหายเป็นตะคริวก็คงอีกนาน ให้ผมอุ้มไปดีกว่า ขออนุญาตนะครับ พรึบ!...” ศิลาพูดบอกไปแล้วยิ้มออกมา ก่อนจะเข้าไปช้อนตัวเธออุ้มขึ้นมาอย่างไม่รอเธอตอบตกลง
“ว้าย…คุณ…” เรวดีก็ทำหน้าตกใจแล้วก็รีบเอามือจับที่เสื้อเปียกๆของเขาอย่างกลัวๆ แล้วเธอก็สัมผัสได้เลยว่าหน้าอกของเขามันแน่นมาก ไม่สิ นี่เธอมาคิดลามกอะไรเนี่ยเธอมีแฟนแล้วนะ เรวดีคิดในใจอย่างสลัดความคิดของตัวเองออกไป
ส่วนสองฝาแฝดนั้นก็มองผู้เป็นอาและพี่สาวคนสวยไปด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนจะวิ่งตามทั้งสองกลับไปที่บ้านพักด้วยสภาพที่เปียกปอน