บทย่อ
"แฟนเก่าคุณมันแต่งงานกับน้องสาวของผมแล้ว หยุดอาลัยอาวรณ์มันสักที! ตอนนี้คุณคือเมียของผม เพราะฉะนั้นอย่าได้แรดไปอ่อยหรือใกล้มันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นผมจะทำให้คุณเดินลงจากเตียงไม่ได้เลย จำเอาไว้! ศิลา ศรีกัลยาวุฒิ อายุ32ปี “ศิลา” หนุ่มหล่อนักธุรกิจไฟแรงที่ไม่เคยเชื่อในเรื่องความรักและไม่คิดที่จะแต่งงานกับใคร ต้องมาตกกระไดพลอยโจรแต่งงานกับแม่สาวขี้เมาอย่าง “เรวดี” ผู้หญิงที่ทำให้ครอบครัวของน้องสาวของเขานั้นสั่นคลอน จนเขาต้องจับเธอมาแต่งงานด้วย เพื่อคอยควลคุมพฤติกรรมของเธอไม่ให้ไปยุ่งวุ่นวายกับ “วิทวัส” สามีของน้องสาวของเขา แต่พอนานวันเข้ากลับกลายเป็นเขาเองที่เริ่มจะไม่พอใจเวลาที่เห็นเธออยู่ใกล้วิทวัสหรือผู้ชายคนอื่น เขาจึงทำให้การแต่งงานปลอมๆนั้นกลายเป็นจริงขึ้นมาด้วยการจับเธอทำเมียจริงๆมันซะเลย และจากนั้นเรื่องวุ่นๆของพวกเขาก็เริ่มขึ้น… เรย์ เรวดี วรพรรณ อายุ 26 ปี “เรวดี” หมอฟันสุดสวยที่กำลังจะเข้าประตูวิวาห์กับ “วิทวัส” แฟนหนุ่มของเธอ แต่แล้วทุกอย่างมันก็พังทลายลง เมื่อแฟนของเธอนั้นซุกผู้หญิงไว้อีกคนแล้วก็กำลังจะแต่งงานกัน ทำให้เธอนั้นแค้นใจจนตามไปทำลายงานแต่งงานของทั้งสอง แต่ก็ดันถูก “ศิลา” ผู้ชายที่เธอคิดว่าเธอนอนกับเขาแล้วนั้นจับตัวออกมาจากงาน และก็อึ้งไปอีกเมื่อรู้ว่าเขานั้นเป็นพี่ชายของผู้หญิงที่มาแย่งแฟนของเธอ และเขาก็บีบบังคับให้เธอแต่งงานด้วยเพื่อกันเธอออกจากครอบครัวของน้องสาวของเขา แต่เขาคงไม่รู้ว่าที่เธอยอมแต่งงานกับเขาก็เพราะเธอต้องการที่จะแก้แค้นเท่านั้น แต่เธอกับพลาดถลำตัวบำเรอสวาทให้เขาจนลืมความแค้นนั้นไป จนมันก่อเกิดเป็นความรู้สึกดีๆกับเขาขึ้นมา และเธอจะจบเรื่องวุ่นวายนี้ลงอย่างไร เมื่อเธอพลาดมีลูกกับเขาอย่างไม่ตั้งใจ แล้วเธอจะจัดการอย่างไร โปรดติดตามอ่านในเรื่อง....
1. ว่าที่เจ้าสาว
ณ บ้านพักต่างอากาศ ชายหาดเขาตะเกียบ หัวหิน
หนุ่มนักธุรกิจที่มีใบหน้าหล่อเหลารูปร่างกำยำราวกับนายแบบกำลังยืนถือแก้วไวน์มองไปที่ชายหาด ซึ่งกำลังมีคู่รักกำลังมาถ่ายพรีเวดดิ้งอยู่ไกลๆ ด้วยความคิดสงสัยว่าทำไมคนคนหนึ่งจะต้องเอาตัวเองไปผูกไว้กับคนอื่นไปตลอดชีวิตด้วย ทั้งๆที่ก็ไม่มีใครจะรักเราได้มากกว่าตัวเราเอง โดยเฉพาะกับความรักที่มีเงินเป็นตัวเดินความสัมพันธ์ มันแทบจะหารักแท้อะไรไม่ได้เลย
“ยืนคิดอะไรอยู่วะศิลา ฉันเห็นแกมายืนตรงนี้นานแล้วนะโว้ย ทำไมวะ มองแบบนี้อย่าบอกนะว่าแกอยากจะแต่งงานแบบนั้นน่ะ ” เพชรรัตพี่ชายของศิลาเขาไปหาน้องชายก่อนจะเอ่ยแซวออกมาอย่างขำๆ เพราะน้องชายเขาน่ะแทบจะไม่มีความคิดที่จะแต่งงานอยู่ในหัวเลยล่ะมั้ง
“หึ ผมไม่โง่เอาตัวเองไปเป็นทาสเมียแบบพี่หรอก ผมถนัดรักสนุกแต่ไม่ผูกพันมากกว่า” ศิลาหันไปพูดตอบพี่ชายของเขาด้วยสีหน้ายิ้มมุมปาก ก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอย่างชิวๆ
“ทำเป็นพูดไป แกก็แก่แล้วนะศิลา จะอยู่แบบไม่มีใครไปจนแก่ตายเลยหรือไงวะ ผู้หญิงมันไม่ได้เหมือนกันทุกคนนะโว้ย คนที่รักจริงมันก็มีอยู่ อย่างน้องเอมไงวะ ฉันเห็นแกกับเขาก็เข้ากันได้ดีนิ ทำไมแกไม่ตกลงคบกันเป็นแฟนไปเลยวะ ฐานะบ้านเขาก็เหมาะสมกับบ้านเราด้วย ” เพชรรัตพูดไปอย่างบ่นๆน้องชายของเขาที่ไม่มีแผนการในชีวิตว่าจะคบใครจริงจังเลย
“ผมพึ่งจะสามสิบสองเองนะพี่เพชร จะให้ผมรีบมีเมียไปไหนหึ แล้วผมจะบอกพี่ให้เข้าใจนะว่าเอมเขาเหมาะกับการเป็นเพื่อนและเป็นคู่นอนมากกว่าที่จะเป็นแฟนของผม แค่ไม่ใช่แฟนเขายังไล่ตามหึงหวงและแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของผมขนาดนี้ ถ้าผมตกลงคบกับเขาผมนี่คงดิ้นไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว พี่ไม่ต้องเสียเวลาเชียร์หรอก” ศิลาได้ยินพี่ชายพูดมาแบบนั้นก็เอ่ยตอบไปตามความคิดของเขา ถึงเอมิกาจะมีซัมติงกับเขามานานแล้วก็เถอะ แต่เธอก็ไม่เหมาะกับการเป็นคนรักของเขา
“เฮ้อ…แล้วแกจะเอาผู้หญิงแบบไหนมาทำเมียวะเนี่ย นั่นก็ไม่เหมาะนี่ก็ไม่ดี ต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนวะถึงจะทำให้คนอย่างแกหวั่นไหวได้เนี่ย ฉันล่ะอยากจะรู้จริงๆ” เพชรรัตเอ่ยพูดออกไปอย่างไม่เข้าใจน้องชายเลยสักนิด ว่ามันจะเอาผู้หญิงแบบไหนมาทำเมีย
“ก็ผู้หญิงที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาไงพี่ ผู้หญิงแบบนี้น่ะน่าตื่นเต้นแล้วก็น่าเข้าหาจะตายไป” ศิลาพูดไปด้วยรอยยิ้มก็ดื่มไวน์อย่างไม่คิดอะไร เพราะเขายังไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน
“เออ งั้นฉันก็ขอให้แกเจอคนแบบนั้นเร็วๆก็แล้วกัน แต่เรื่องของแกฉันไม่ห่วงเท่าเรื่องของยัยพลอยหรอก ตั้งแต่บอกว่ามีแฟนก็กลับบ้านดึกๆดื่นๆ บางครั้งก็ไม่กลับบ้านเลยก็มี ฉันอยากให้แกเตือนยัยพลอยมันบ้าง อย่างน้อยยัยพลอยมันก็กลัวแกมากกว่าฉัน” เพชรรัตพูดบอกไปอย่างเป็นห่วงน้องสาวคนเล็กของเขาที่ตอนนี้นั้นกลับบ้านดึกดื่นจนเขาและพ่อแม่นั้นเป็นห่วง
“ยัยพลอยมีแฟนงั้นเหรอพี่เพรช ใครกัน ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย” ศิลาทำหน้าสงสัยออกไป เพราะเขาไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่าน้องสาวของเขามีแฟนแล้ว
“ก็วันๆแกอยู่แต่ที่คอนโดไม่กลับมาอยู่บ้านเลยแล้วแกจะรู้ได้ยังไงล่ะ ฉันเองก็ยังไม่เคยเห็นแฟนยัยพลอยหรอก แต่ได้ยินยัยพลอยบอกคุณแม่กับคุณพ่อว่ามีแฟนเป็นหมออยู่โรงพยาบาลเดียวกับพี่นี่แหละ แต่ยัยพลอยมันไม่ยอมบอกชื่อน่ะสิ พี่ก็เลยไม่รู้ว่ายัยพลอยน่ะคบกับใครอยู่ เห็นบอกว่าจะพามารู้จักครอบครัวเราเร็วๆนี้ พี่ก็รอลุ้นอยู่เหมือนกันว่าเป็นใคร แต่เรื่องนี้พี่ไม่ห่วงเท่าเรื่องที่ยัยพลอยไปมาหาสู่กับเขาแล้วไม่กลับบ้านหรอก” เพชรรัตพูดไปตามที่เขารู้ข้อมูลมา ซึ่งเขานั้นเป็นหมอศัลยแพทย์จึงรู้จักแพทย์ในโรงพยาบาลเกือบทั้งหมด และเขาพยายามสืบแล้วแต่ก็ไม่รู้ว่าน้องสาวคบกับใครอยู่
“อ่อ งั้นเดี๋ยวผมจะเตือนยัยพลอยเอง พี่ไม่ต้องห่วงหรอก ” ศิลาพูดบอกไปอย่างจริงจัง เพราะเขาต้องเตือนน้องสาวของเขาแน่ ถึงจะโตแล้วแต่ฐานะทางสังคมของพวกเขานั้นไม่ใช่เล่นๆ จะคบใครก็ต้องดูให้แน่ใจว่าคนๆนั้นรักจริงไม่ได้หวังจะมาปลอกลอกสมบัติจากครอบครัวของเขา
“หนุ่มๆคะ อาหารพร้อมทานแล้วค่ะ มาเร็ว” พันทิวาภรรยาของเพชรรัตร้องเรียกสามีและน้องชายของสามีให้มาทานอาหาร หลังจากที่เธอนั้นได้จัดเตรียมอาหารที่ปิ้งย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“คุณพ่อ อาศิลา ลูกนัทย่างเองกับมือเลยนะครับ มาดูสิครับ” ลูกนัทลูกชายวัยแปดขวบของเพชรรัตและพันทิวาเอ่ยเรียกพ่อและอาอย่างน่ารัก
“ลูกพีชก็ย่างเองเหมือนกันค่ะคุณพ่อคุณอา” ลูกพีชสาวน้อยฝาแฝดของเอ่ยพูดออกไปอย่างน่ารักไม่แพ้พี่ชายของเธอเลย
“โอเคๆ พ่อจะไปเดี๋ยวนี้แหละลูก ไปกันเถอะศิลา” เพชรรัตตอบลูกฝาแฝดของเขาไปแล้วก็ยิ้มอย่างอบอุ่น แล้วเขาก็หันมาบอกกับน้องชายก่อนจะเดินไปหาลูกๆและภรรยาของเขาที่โต๊ะอาหาร
ศิลาก็มองไปที่หลานๆแล้วยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู เพราะกว่าสองแสบจะเกิดมาได้พี่ชายและพี่สะใภ้ของเขานั้นต้องทำกิฟต์ไม่รู้กี่ครั้งกว่าจะไปสองแฝดมา พอทั้งสองเกิดมาจึงได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่และทุกคนอย่างเต็มที่ ทำให้โตมาเป็นเด็กน่ารักและขี้อ้อนสุดๆ จนอาอย่างเขานั้นโดนตกมาเที่ยวทะเลด้วยบ่อยๆเพราะความขี้อ้อนของทั้งสองนี่แหละ
จากนั้นศิลาก็เดินไปนั่งทานอาหารและชิมบาบีคิวที่หลานๆปิ้งอย่างชอบใจ แล้วเขาก็นั่งพูดคุยกับพี่ชายและพี่สะใภ้ไปอย่างเพลินๆ ก่อนจะมองไปที่ชายหาดที่ตอนนี้ยังคงมีคู่บ่าวสาวนั้นถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกันอยู่ ซึ่งคนอย่างเขานั้นคงไม่มีวันได้ทำอะไรแบบนี้
ณ ชายหาดเขาตะเกียบ หัวหิน …
เรย์ เรวดี หมอฟันสุดสวยกำลังโอบกอดกับวิทวัสแฟนหนุ่มซึ่งเป็นหมอศัลยแพทย์แผนกหัวใจที่คบกันมานานถึงสามปี นับตั้งแต่เธอเข้ามาฝึกงานจนได้มาเป็นหมอฟันที่โรงพยาบาล เธอก็ตกลงคบกับหมอรุ่นพี่คนนี้จนผ่านมาสามปีกว่า ทั้งสองก็ตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน และตอนนี้ก็กำลังถ่ายพรีเวดดิ้งสุดโรแมนติกอยู่ที่ริมทะเล
“เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวเอาจมูกแตะกันเลยครับ ใช่ครับ อย่างนั้นแหละครับ สวย….” ช่างภาพที่ถ่ายทำทั้งสองเอ่ยพูดออกไปพร้อมกับถ่ายภาพของคู่บ่าวสาวแบบรัวๆ
วิทวัสก็ยื่นหน้าเขาไปหาเรวดีแล้วเขาก็มองสบตากับเธออย่างหวานซึ้ง พร้อมกับเอามือโอบเอวของเธออย่างอย่างหวงแหน ส่วนเรวดีนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างเขินอาย แล้วก็เอามือจับที่แขนของเขาแล้วก็ทำตามที่ช่างภาพบอก
“โอเคครับ เราถ่ายเซทชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวถ่ายเสร็จแล้ว เดี๋ยวเราถ่ายชุดขี่ม้าต่อเลย เชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปเปลี่ยนชุดได้เลยนะครับ ทีมงานเซทฉากต่อไปได้เลย ” ช่างภาพเอ่ยพูดบอกไปก็สั่งทีมงานให้จัดการเปลี่ยนฉากต่อไป เพราะต้องใช้ม้าเป็นตัวประกอบ
“ร้อนไหมคะพี่วิท ดูสิเหงื่อชุ่มเลย ไปตากแอร์เย็นๆที่ห้องดีกว่าค่ะ” เรวดีเอ่ยพูดออกไปแล้วเอามือเช็ดเหงื่อให้แฟนหนุ่มของเธออย่างห่วงใยเขา
“นิดหน่อยน่ะ เพื่อภาพของเราสองคนจะออกมาสวยๆพี่ทนได้ทั้งนั้นแหละ” วิทวัสพูดตอบไปอย่างหวานๆใส่เธอ แล้วเขาก็เดินจับมือเธอกลับไปที่โรงแรมเพื่อเข้าไปเปลี่ยนชุดใหม่ลงมาถ่ายฉากต่อไป
“เรย์ขอโทษนะคะที่เรย์ทำให้พี่วิทต้องมาทำอะไรที่ยุ่งยากแบบนี้ ทั้งที่เราสองคนจะถ่ายที่กรุงเทพก็ได้ แต่เรย์ก็ยังจะดึงดังพาพี่มาถ่ายที่นี่จนได้ ” เรวดีพูดออกไปอย่างขอโทษเขาที่เธอนั้นเอาแต่ใจจะมาถ่ายพรีเวดดิ้งที่ทะเลให้ได้ ทำให้วิทวัสนั้นยอมตามใจและยอมลางานมากับเธอ
“ขอโทษอะไรหึ นี่มันงานแต่งของเราสองคนนะเราก็ต้องทำมันออกมาให้ดีที่สุดสิ ขอแค่เรย์มีความสุขพี่ทำให้ได้หมดทุกอย่างแหละครับ” วิทวัสพูดบอกไปก็ยิ้มอย่างอบอุ่นให้กับแฟนสาว เพราะอะไรที่เธอทำแล้วมีความสุขเขาก็ทำให้เธอได้หมดแหละ
“น่ารักที่สุดเลยค่ะพี่วิท แบบนี้ไม่ให้เรย์รักพี่วิทได้ยังไงล่ะคะเนี่ย” เรวดีเอามือกอดแขนของเขาแล้วพูดไปอย่างออดอ้อน เพราะตลอดสามปีกว่าๆที่ผ่านมานี้วิทวัสนั้นเป็นแฟนที่ดีของเธอมาโดยตลอด ถึงหลังๆเขาจะงานยุ่งบ้างแต่เขาก้ยังใส่ใจเธอเสมอ
“พี่ก็รักน้องเรย์เหมือนกันครับ พี่ดีใจนะที่เราสองคนกำลังจะได้แต่งงานกัน พี่ทนรอให้ถึงวันแต่งงานไม่ไหวแล้วเนี่ย อยากจะเข้าหอกับน้องเรย์ไวๆ เอ๊ะ หรือว่าคืนนี้เราสองคนจะลองเข้าหอด้วยกันก่อนดีนะ” วิทวัสพูดออกไปพร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์ เพราะตั้งแต่คบกับเธอเขาทำได้แค่กอดจูบลูบคลำเท่านั้น ยังไม่เคยมีอะไรกับเธอย่างที่คนเป็นแฟนกันเขาทำกันเลย
“รอมาจนจะถึงวันแต่งงานแล้ว พี่วิทก็ทนอีกหน่อยสิคะ อีกไม่นานพี่วิทก็ได้ทำอะไรๆสมใจแล้วล่ะคะ” เรวดีบอกเขาไปอย่างห้ามๆ
เพราะเธอจะรอทำเรื่องแบบนี้กับเขาในคืนวันแต่งงานเท่านั้น เธอรักษาพรหมจรรย์ตลอดยี่สิบหกปีก็เพื่อมอบให้กับสามีของเธอในวันแต่งงาน ตามคำที่ยายเธอพูดกรอกหูอยู่ตลอดว่าให้รักนวลสงวนตัวอย่าไปยอมมีอะไรกับผู้ชายง่ายๆหากยังไม่ได้แต่งงานกัน และเธอก็ทำมันจนมาถึงวันนี้ได้อย่างหวุดหวิด
“เฮ้อ แต่เราจะแต่งงานกันแล้วนะ ยังไงก็ต้องมีวันนั้นอยู่ดี เรย์ไม่สงสารพี่จริงๆเหรอ” วิทวัสพูดบอกไปแล้วทำหน้าอ้อนออกไป เพราะเขาจะทำอะไรเธอทีไรเธอก็อ้างว่าต้องรอแต่งงานอย่างเดียว นี่ก็จะแต่งกันอยู่แล้วเธอก็ยังไม่ยอมเขาเลย
“ไม่ได้ค่ะ รอวันแต่งงานนะคะ ถึงห้องเรย์แล้วงั้นเรย์ไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ พี่วิทก็รีบไปเปลี่ยนนะคะ” พอถึงหน้าห้องพักของเธอ เธอก็เอ่ยพูดบอกเขาไปแล้วเธอก็ใช้คีย์การ์ดปลดล็อคประตูแล้วเข้าไปด้านใน ก่อนจะหันตัวมาโบกมือให้เขา
“โอเคๆ งั้นพี่ไปเปลี่ยนชุดก่อนก็ได้” วิทวัสก็ทำหน้าเซ็งๆออกมาแล้วพูดตอบเธอไป ก่อนจะเดินเลยไปอีกห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องพักของเขาที่อยู่ติดกับเธอ