บทที่ 1 เจอกันครั้งที่3…เธอก็บอกว่าเธอเป็นเมียผม !! 4
ความคิดของเขาได้สะดุดลงเมื่อผลักบานประตูห้องเข้าไปสิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือ…ร่างกายผอมๆจนเห็นซี่โครงเป็นซี่ๆของบิดาซึ่งนอนเหยียดยาวอยู่บนที่นอนหนานุ่ม เตียงนอนขนาดคิงไซส์ข่มให้ชายชราดูตัวเล็กลงกว่าความเป็นจริงอีกมากจนคล้ายเตียงใหญ่จะห่อหุ้มกลืนคนที่นอนอยู่ไปทั้งตัว
สีหน้าของคุณวิศาลในตอนนี้ บอกได้คำเดียวว่า…แจ่มใสกว่าทุกๆวันที่ผ่านมา
ตาคมตวัดฉับไปข้างๆเตียงฝั่งขวา พบจิรายืนหน้าเผือดสีอยู่ไม่ห่าง
พอหันไปมองทางฝั่งซ้าย กลับพบผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งนั่งอยู่ชิดติดขอบเตียง และตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นก็กำลังหันมาส่งรอยยิ้มน่ารักให้เขาอย่างเป็นมิตร และทันทีที่ได้สบดวงตาเจ้าเล่ห์ของเธอคนนั้น ร่างสูงก็ถึงกับผงะถอยหลังไปหลายก้าว ตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง…จะไม่ให้เขาตกใจได้อย่างไร ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ก็คือคนเดียวกันกับคนที่ชนเขาเมื่อช่วงสายๆนั่นเอง !
“คุณ ! ” เสียงทุ้มเปล่งออกมาจากลำคออย่างยากลำบาก ในขณะที่หญิงสาวรีบลุกจากเก้าอี้มาเกาะแขนเขาด้วยท่าทีสนิทสนมทันทีโดยไม่อายต่อสายตาของใครในห้อง
“คุณสามีขา กลับบ้านแล้วเหรอคะ เหนื่อยหรือเปล่าเอ่ย ? ท่าทางจะเหนื่อยมากสินะคะ…หน้าตาถึงได้ซีดเซียวซะขนาดนั้น”
“สามี?” เสียงแผ่วๆดังออกจากริมฝีปากหยักลึกได้รูป ตาคมเพ่งมองผู้หญิงข้างๆกายอย่างงุนงง
“แหมมม…” เมธาวีลากเสียงยาว พลางเอื้อมมือมาจับคางของเขาบีบเล่นอย่างสุดแสนจะเอ็นดู “หน้าตาตอนงงนี่น่ารักที่ซู้ดดดเลย ทำไมทำหน้าแบบนี้ล่ะคะคุณสามีขา จำเมธาวีคนนี้ไม่ได้เหรอ”
“เมธาวี ?” คิ้วเข้มขมวดมุ่น พยายามเค้นความจำออกมาสุดความสามารถ แต่ก็น่าแปลกเพราะ…ในสมองของเขาไม่เคยมีชื่อเมธาวีบันทึกอยู่เลยแม้แต่น้อย
“อ๊ะๆ ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าจำไม่ได้” เธอส่ายนิ้วจิ๊กๆไปมาตรงหน้าเขา “ทำไมนะ…ทั้งๆที่คราวก่อนยังเรียกเมียจ๊ะเมียจ๋า ผมรักคุณคนเดียวอยู่เลย แต่มาตอนนี้กลับจำกันไม่ได้ ผู้ชายก็แบบนี้แหละ หึ” เสียงใสๆฟังดูกระฟัดกระเฟียด พร้อมดวงตากลมโตที่สะบัดค้อนใส่เขาอย่างมีจริต
“เมียจ๊ะ เมียจ๋าอะไร ผมไม่เคยมีเมียอย่างคุณ” ชายหนุ่มตะคอกลั่น สองตาวาวโรจน์อย่างหงุดหงิด นี่มันอะไรกัน…
“โอ๊ะ…” มือเรียวยกขึ้นทาบเหนืออกข้างซ้าย พลางทำหน้าตกใจสุดขีด สองขาเผลอเซแซ่ดๆไปทางด้านหลังหลายก้าว แต่เขากลับมองว่าเธอเสแสร้งมากกว่าจะรู้สึกตกใจจริงๆ “นี่คุณ…นี่คุณจำเมียตัวเองไม่ได้ ! ”
“ผมจำไม่ได้ว่าเคยมีเมียตอนไหน จำได้แค่ว่าผมเคยมีคู่หมั้น และคู่หมั้นผมก็สวยมาก ไม่หน้าตาธรรมดาๆเหมือนคุณหรอก”ชายหนุ่มพูดโผงผาง ปลายจมูกโด่งเชิดขึ้น รู้สึกภูมิใจที่คำพูดของตน ทำให้หน้าเรียวของผู้หญิงขี้ตู่เริ่มงอง้ำขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
“โอ…คำพูดจาช่างร้ายกาจ ทีตอนอยู่บนเตียงล่ะบอกว่าฉันสวยที่สุดจนยากจะหาหญิงใดมาเทียบเทียม พอได้ฉันแล้วก็มาว่าฉันขี้เหร่ แบบนี้น่ะหรือที่สุภาพบุรุษเขาทำกัน”
ชยากรกัดฟันกรอด เขามั่นใจเกือบล้านเปอร์เซ็นต์ว่าผู้หญิงคนนี้จงใจยั่วโทสะเขา เพราะถึงปากเธอจะพูดด้วยเสียงเศร้าๆ แต่ดวงตากลับแพรวพราวระยิบระยับราวกับสนุกสนานมากที่ได้ปั่นหัวเขา
“ผมไม่ได้ว่าคุณขี้เหร่ แค่บอกว่าหน้าตาธรรมดา ฟังไม่ได้ศัพท์ยังจับไปกระเดียด แล้วก็เชิญคุณออกไปจากบ้านผมได้แล้ว บ้านผมไม่ต้อนรับคนหน้าแปลกแบบคุณ”
“คุณว่าฉันหน้าแปลก….” เมธาวีมือสั่นระริก… บอกว่าเธอหน้าตาธรรมดายังพอทนได้ แต่มาว่าเธอหน้าแปลกนี่รับไม่ได้สุดๆ ส่องกระจกดูอยู่ทุกวันก็ว่าตัวเองหน้าตาน่ารักแล้วนะ ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน
“อ้อ พูดผิด จะบอกว่าแปลกหน้าน่ะ” พูดพลางยกมุมปากขึ้นข้างหนึ่งอย่างหยันๆ และนั่นก็ทำให้หญิงสาวถึงกับฉุนกึก รีบหมุนกายไปทรุดนั่งลงที่เดิมพลางทำตาปริบๆน้ำตาเอ่อคลอเบ้าเป็นเชิงเรียกคะแนนความสงสารจากคุณวิศาล
“ดูสิคะคุณพ่อสามี…พี่ชาจำเมไม่ได้”
“ไอ้ชา ทำไมแกเลวขนาดนี้วะ มีเมียกี่คนกันล่ะ ถึงขนาดจำไม่ได้เลยเนี่ย” คุณวิศาลที่นอนดูการปะทะคารมของทั้งคู่มาพักใหญ่ได้เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบแห้ง “ทำไมไม่เอาอย่างพ่อแกบ้าง พ่อก็ออกจะเป็นคนดี รักเดียวใจเดียว กล้าทำกล้ารับ แต่นี่มันอะไรกัน…ลูกชายกลับไปเจาะไข่แดงผู้หญิงแล้วซิ่งหนี” สายตาที่เริ่มฝ้าฟางจับจ้องไปทางบุตรชายที่ยืนนิ่งอึ้งอยู่ตรงหน้าประตูด้วยความไม่พอใจ แล้วออกคำสั่ง
“ขอโทษหนูเมเขาเสียสิ” คุณวิศาลบังคับกลายๆ เล่นเอาชายหนุ่มต้องกระพริบตาถี่ๆก่อนจะปฏิเสธเสียงแข็ง
“ทำไมผมต้องขอโทษผู้หญิงคนนี้ ผมไม่เคยรู้จักคนที่ชื่อเมธาวีมาก่อน”
“ชา…พ่อบอกว่าให้แกขอโทษเมียแกเดี๋ยวนี้ไง”