ตอนที่3 ไม่ไหว?
กอหญ้า ใช้ชีวิตเรียนไปเล่นไปจนจบไปอีกเทอม ไม่ได้มีอะไรดีหวือหวา มีแต่ปัญหาจะเพิ่มขึ้น อย่างเช่นปัจจุบันตอนนี้
“ฉันไม่มีเงิน ไม่รู้จะหาตรงไหนมาให้พี่ละนะ พี่ชาติ” เสียงของแม่ของฉันและพ่อเลี้ยง ทะเลาะกันแทบทุกวัน นานหลายเดือน ทำให้ฉันเบื่อหน่ายและอดสงสารแม่ไม่ได้ อีกทั้งสถานะครอบครัวของฉันตอนนี้หนี้สินรุมเร้า จากที่พอมีพอใช้ ขายของได้กินได้ใช้บ้าง ส่วนฉันก็หาทำพาร์ทไทม์หลังเรียนเสร็จ แทบไม่ได้ใช้เงินของแม่เลย มีแต่เอาของตัวเองมาหมุนใช้จ่ายในครอบครัว หลังๆนี้ทั้งเศรษฐกิจไม่ดี ขายของไม่ได้แถมพ่อเลี้ยงยังไถและผลาญเงิน อีกทั้งกู้ยืมอีกมากมายทั่วอำเภอ จนฉันและแม่หาเงินจะไม่ได้อยู่แล้ว บางวันได้กินแค่ไข่กับมาม่า
“กูไม่สน ลูกมึงเก่ง มึงเก่ง มึงก็หามาสิ หาไม่ได้ก็เเยกกันไป ป่ะลูกหญิง ไปกับพ่อ” พ่อเลี้ยงมาอาการเมาอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหญิงก็ออกจะกลัวพ่อนางเหมือนกัน ฉันได้แต่คอยดูแม่เพราะกลัวว่าเขาจะขาดสติและทำร้ายแม่
“ไม่พ่อ หญิงไม่ไป” หญิงกับฉันได้นั่งมองภาพตรงหน้าอยู่ข้างๆกัน ถึงแม้จะไม่ชอบหน้ากันเท่าไหร่ แต่เมื่อมีปัญหา เราก็อยู่ด้วยกัน
“ฮึบ พี่อย่าไปไหนเลย ฉันรักพี่กับลูกมากๆนะ อย่าพาลูกหนีฉันไปไหนเลย” แม่นั้นร้องไห้ออกมาน้ำตาไหลเป็นทางปนสะอื้น ฉันพอก็จะเข้าใจแม่อยู่บ้าง เพราะสิบกว่าปีที่ผ่านมาก่อนหน้าทั้งคู่รักกันและมีความสุขมากกว่านี้ ยกเว้นฉันอยู่คนเดียว ที่ต้องคอยเก็บความทุกข์และความน้อยใจอยู่คนเดียว
“ไม่ไป ก็เอาเงินมาสิ 5พัน” พ่อเลี้ยงตะคอกเสียงดังด้วยสีหน้าที่แดงกล่ำ
“ฉันไม่มีแล้วพี่ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลืออยู่แค่5ร้อยเอง”
“เอาของลูกมึงมาสิ ไปทำงานทุกวี่ทุกวัน”แล้วแม่ก็มองมาที่ฉันด้วยสายตาที่อ้อนวอน
“กอหญ้าลูกช่วยแม่อีกทีได้ไหม”
“แม่หญ้าต้องเอาไว้จ่ายค่าเทอม อีกไม่กี่เดือนเอง แม่เอาไปให้เขากินเหล้าหมด หญ้าจะเอาเงินไหนจ่ายล่ะ” ฉันมีเพียงเงินเดือนไม่กี่พันที่ทำสะสมมาหวังจะมาจ่ายค่าเทอมค่าชุด แถมยังต้องมาใช้ในครอบครัวอีก ค่าน้ำค่าไฟค่ากินอีก
“กูบอกมึงกี่ครั้งแล้วว่าให้มันหาทำงานเลี้ยงไม่ต้องเรียนแล้ว ทำงานส่งเงินให้น้องเรียนไปสิ เป็นพี่ซะเปล่า” ฉันเพิ่งเคยเห็นคนที่เห็นแก่ตัวที่สุดก็ผู้ชายคนนี้แหละ
“แต่ฉันก็อยากให้ลูกได้เรียนจบสูงๆ นะพี่ ฉันมีลูกสาวสองคน ฉันก็อยากให้มีหน้ามีตาทั้งสองคน พี่ก็ช่วยกันหา ช่วยกันสร้างสิ”
“มึงไม่ต้องมาสอนกู เพลี้ยะ!”
“กรี๊ด” สิ้นเสียงมือหนาที่ฟาดลงบนใบหน้าแม่ ฉันได้ร้องกรีดออกมาด้วยความตกใจและเสียใจ ไม่คิดว่าครั้งนี้เขาจะถึงขั้นรุนแรงลงไม้ลงมือ จนร่างของแม่ถลาล้มลงที่พื้น ฉันและน้องได้แต่วิ่งไปประครองนั่งลงข้างๆแม่
“หึ ทีหลังอย่ามาปากเก่ง อีหญ้า มึงเอาเงินมา” ฉันตัดสินใจควักเงินในกระเป๋าที่เหลือไม่กี่บาทให้เขาไปเพราะฉันไม่อยากเห็นแม่โดนทำร้ายอีก
“เอาไป!! แล้วออกไปไกลๆ อย่ามาทำร้ายแม่อีกนะ”
“หึ ดี ให้ง่ายๆก็สิ้นเรื่อง ไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้หรอก” เขาหยิบเงินอย่างพอใจก่อนจะเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้ฉันสามคนนั่งกอดกันร้องไห้อยู่แบบนั้น
“ฮื่อ หญ้า แม่ขอโทษ” แม่ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายลูก เพราะคงจะอดกลั้นไม่ไหวแล้วจริงๆ คนเป็นลูกได้เห็นน้ำตาของแม่ที่ไหลหลั่งออกมานั้นมันจุกในใจจนพูดไม่ออก ได้เพียงแค่ปลอบใจกันไป
“ฮึก ไม่เป็นไรแม่ เดี๋ยวหญ้าหาใหม่ก็ได้เงินน่ะ ถ้าไม่มีเรียนก็ไม่ยากดร็อปไว้ก่อนก็ได้นี่เนาะ” ฉันปาดน้ำตาที่แก้มแบบลวกๆเพราะไม่อยากให้แม่นั้นเห็นว่าฉันอ่อนแอ
“ฮื่อ แม่ หญิงจะช่วยทำงานหาเงิน มาให้แม่นะ”
“ไม่เป็นไรหรอกลูกแค่หนูทั้งคู่รักกัน ตั้งใจเรียนให้จบแม่ก็ดีใจแล้ว”
“ใช่หญิง หญิงตั้งใจเรียนให้จบเดี๋ยวพี่จะช่วยส่งน้องเองนะ”
“ขอบคุณพี่หญ้ามากๆนะ หนูขอโทษที่เคยดื้อใส่พี่” หญิงได้ลุกขึ้นมากอดฉัน แล้วเราทั้งคู่ก็กอดกัน มันก็รู้สึกอบอุ่นดีไปอีกแบบ ถ้าไม่เจอปัญหาฉันก็ไม่รู้ว่าฉันกับน้องนั้นรักกันไหมเหมือนกัน
“อื้อ” แม่ได้เผลอยิ้มออกมาทั้งน้ำตาเมื่อเห็นลูกทั้งสองนั้นดีกัน เป็นภาพที่หาแทบไม่ได้เลยตั้งแต่โตกันมาก็กัดกันตลอด
“แม่ดีใจนะ ที่เห็นหนูสองคนดีกันได้ หญิงก็อย่าดื้อกับพี่ให้มากล่ะลูก หญ้าก็คอยดูแลน้องด้วยนะ เรามีกันแค่สองคนพี่น้อง พ่อแม่ล้มหายตายจากขึ้นมาหนูจะได้มีที่ปรึกษา”
“ทำไมแม่พูดแบบนั้นล่ะจ๊ะ หนูไม่ให้แม่ตายหรอกนะ”
“ใช่แม่ต้องอยู่กับหนูนานๆนะ”
“จ้า แม่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก แม่จะสู้เพื่อหนูจนหมดลมหายใจ” หลังจากที่เราปลอบกันไปมา จนดีขึ้น ฉันนั้นได้ทายาหาข้าวหาน้ำและอยู่เป็นเพื่อนแม่จนสบายใจ ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของฉันก็ดังขึ้นมา
“จ้ะพี่เป้” เป็นสายของพี่เป้โทรเข้ามา
“หญ้า พ่อเลี้ยงหนูเงินที่ไหนมากินเหล้าอีกแล้ว เมาเสียงดัง แถมยังชวนพวกไปบ่อนอีก อย่าบอกนะว่าไถเงินหนูกับป้ามาอีก” พี่เป้ไม่ใช่คนดีอะไรหรอก ชอบเข้าบ่อนเหมือนกันแต่เขาก็ห่วงใยฉันและคอยให้คำปรึกษาอยู่เสมอ
“อื้ม” ฉันตอบสั้นๆ เพราะฉันอยู่ในห้องของแม่
“ออกมาหาพี่ที่ร้านก็ได้นะ เดี๋ยวพี่เข้าไป” เขาจะทำงานตอนกลางคืนที่เดียวกับฉัน แต่เขาทำมั่งไม่ทำมั่ง เลยเห็นว่าฉันอยากหาเงินเลยชวนฉันไปด้วย เป็นพนักร้านอาหารทั่วไป แต่วันนี้คือเป็นวันหยุดแล้วตั้งใจจะพักไง แต่มีเรื่องกันก่อน พี่เป้ก็รู้ว่าวันนี้ฉันจะหยุดคงอยากคุยอะไรด้วย
“จ้ะพี่”
“แม่เดี๋ยวหนูไปทำงานก่อนนะ”
“อ้าว ไหนบอกวันนี้จะหยุดไงลูก เห็นบอกว่าจะหยุด หรือว่าหนูไม่สบายใจ”
“เปล่าจ้ะแม่ พอดีพี่เป้โทรมา ว่าลูกค้าเยอะและพนักงานหยุดหลายคน เฮียให้ตั้งสองแรงน่ะ หนูไปดีกว่า” ฉันเลือกที่จะโกหกแม่ไปแบบนั้น
“อ๋อ เหนื่อยก็พักบ้างนะลูก พรุ่งนี้เเม่จะออกไปขายของแต่เช้าเลย เราจะได้มีเงินกัน”
“จ้ะแม่ หญ้าไปก่อนนะ” ฉันลุกและออกมาจากห้องแม่
“อ้าวพี่หญ้า ไปไหนหรอ” หญิงเดินมาพอดี
“อ่อ พี่จะไปทำงานน่ะ ดูแม่ด้วยนะ”
“จ้ะพี่ ขับรถดีๆนะ”
“จ้า” ฉันยิ้มให้กับน้องและขับมอเตอร์ไซค์ที่ดาวน์ไว้ เพื่อได้ขับมาทำงานสะดวกๆ และเมื่อออกมาจากซอยได้แวะร้านค้าหน้าปากซอยเพื่อจะซื้อเครื่องดื่มเย็นๆ ดื่มให้ผ่อนคลายบ้าง
“ป้า เท่าไหร่จ๊ะ”
“15บาทจ้า ไปทำงานหรอหญ้า”
“ใช่จ้า”
“เห้อ ถ้าแม่เอ็งทิ้งไอ้ชาติได้น่าจะดีเนาะ ฉันล่ะเหนื่อยและสงสารพวกหนูจริงๆเลย” ทุกคนแถวนั้นย่อมรู้ว่าพ่อเลี้ยงฉันเป็นยังไง อยู่ๆก็มีรถเก๋งคันหรูจอดหน้าร้าน ชายปริศนาใส่แว่นดำพร้อมสูทหรูได้เปิดกระจกลงถามว่า
“บ้านนายชาติอยู่ไหนครับ” น้ำเสียงเรียบขรึม แต่เมื่อได้ยินชื่อแค่นั้นทำให้ใจฉันชาแว๊บขึ้นมา ต้องมีเรื่องอะไรอีกแน่ๆ