ตอนที่ 4 เลว?
“เอิ่ม” ป้าขายของชำ เลิ่กลั่ก มองหน้าฉันด้วยความกังวลใจ เพราะคิดแล้วว่ายังไงก็คงต้องมาทวงหนี้พ่อเลี้ยงฉันแน่ๆ แต่ครั้งนี้น่ากลัวกว่าทุกครั้ง เพราะครั้งก่อนๆ เป็นแค่คนทั่วไป ที่รู้จักหน้าตาอยู่บ้าง แต่นี่ดูผิดตาทั้งคำพูดและการแต่งตัว
“รู้จักไหมครับ” ปลายเสียงได้เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“มีอะไรหรอคะ” ฉันถามกลับไปด้วยความกล้าๆกลัวๆ
“ผมถามว่าบ้านนายชาติอยู่ไหน ถ้าไม่บอกผมจะได้ไปหาเอง” เขาได้กำชับขึ้นอีกครั้ง เหมือนรำคาญที่ไม่ได้คำตอบ
“เขาไม่อยู่บ้าน คุณไม่ต้องไปตามหาหรอก”
“ผม....” มีสายเข้าก่อน ชายร่างกำยำได้หยุดคำพูดก่อนจะรับสายและขับรถกลับไป
“เห้ออ” ฉันนั่งบนโต๊ะหินอ่อนและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ป้าก็ไม่รวย ไม่รู้จะช่วยหนูยังไงเลยหญ้า โทษแม่หนูก็ไม่ได้ ยังเด็กยังเล็กต้องมารับเรื่องอะไรมากมายเลยสู้ๆนะลูก” ป้านั่งลงและลูบที่บ่าและหัวฉันเบาๆด้วยสายตาที่อบอุ่น
“ขอบคุณจ้าป้า หนูต้องดูแลแม่และน้องให้ได้ หนูต้องเข้มแข็งกว่านี้ หนูขอตัวก่อนนะจ๊ะ”
“จ้ะๆขับรถดีๆนะหนู” ฉันยิ้มให้ป้าพร้อมกับลุกมาค่อมมอเตอร์ไซค์ก่อนจะขับมุ่งหน้าออกมาที่ร้าน ไม่นานก็เดินทางมาถึง เจอพี่เป้กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่พอดี
“เอ้าหญ้า” เมื่อพี่เป้หันมาเจอฉันก็ทิ้งบุหรี่และเหยียบลงพื้น ก่อนจะเดินมาหาฉันที่จอดรถอยู่หน้าร้าน
“พี่เป้มีอะไรจะคุยกับหญ้ารึเปล่า”
“พี่อยากถามเราแหละว่ามีอะไรอยากถามพี่ไหม” ใบหน้าฉันคงดูกังวลมากจนออกหน้าออกตา
“อืม” ฉันพยักหน้าเบาๆ
“ป้าใจ วันนี้ผมลานะ” พี่เป้ตะโกนเข้าไปบอกป้าใจที่เดินวนไปมาอยู่ในร้าน ป้าใจคือเจ้าของร้านและเป็นป้าแท้ๆของพี่เป้แหละ
“ปกติเอ็งก็ไม่ทำอยู่แล้วโว๊ย ไอ้เป้มาบอกข้าทำไม”
“แหม ก็บอกพอเป็นพิธีไปงั้นแหละครับ”
“เออๆ เงินไม่ครบเดือนอย่ามาโวยวายละกัน”
“โห่ ป้าา...!!” พี่เป้บ่นพรึมพรำให้ป้าก่อนจะเดินมุ่งมาหาฉัน
“ไปคุยที่อื่น เดี๋ยวพี่พาไป”
“อือๆไป” แล้วพี่เป้ก็ขึ้นขับมอเตอร์ไซค์ให้ฉันซ้อนท้าย รถขับออกมาได้เรื่อยๆ พร้อมกับกลิ่นบุหรี่ที่ติดตัวพี่เป้นั้นทำให้ฉันเกิดคิดอยากทำอะไรขึ้นมา
“พี่จะพาหญ้าไปไหนเนี่ย” ทางที่ไปเริ่มไม่ค่อยดีละ เหมือนทางเข้าซอยอะไรสักอย่างเปลี่ยวๆมีแต่ป่าทุ่งไร่ทุ่งนา ท้องฟ้าก็เริ่มมืดสนิท
“เออน่า พี่ไม่พาไปทำอะไรหรอก”
“เห้อ เสียเวลาว่ะ”ฉันก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรหรอกนะ เพราะฉันไว้ใจและรู้จักพี่เป้มานาน เขาเป็นเหมือนพี่ชายที่ไม่ดีคนหนึ่งแหละ
“โอ๊ะ ไอ้หญ้า อย่ามาอ่อย พี่ไม่รักเอ็งแล้ว”
“โอ๊ย” ฉันกับพี่เป้คุยกันสัพเพเหระ เริ่มเข้าเขตหมู่บ้านชนบทชานเมือง จนรถมาจอดที่ริมบึงอะไรสักอย่างบรรยากาศดี มองไปมามันเป็นร้านหมูกระทะมีคนบางตาส่วนมากจะอยู่กันกระจายๆ
“อ่ะถึงละ”
“เห้ยพี่ แค่มากินหมูกระทะต้องมาไกลขนาดนี้หรอ”
“เออน่าตามมา” ฉันมองตามหลังเขาเดินไหวๆ ด้วยความงุนงง ว่าทำไมต้องพาฉันมาที่นี่
“รอด้วย” ฉันรีบสาวเท้าให้เร็วเพื่อให้ตามคนข้างหน้าทัน
“รับอะไรดีคะ”พนักงานเสริฟสาวสวยเดินมารับ
“ชุดใหญ่1ชุดทานนี่2ที่ครับคนสวย” สายตาพี่เป้ที่มองพนักงานสาวสวยนั้น แทบจะกลืนกิน ถ้าฉันเป็นเเฟนพี่เป้ตอนนี้ฉันได้ตบหัวขมำไปแล้ว ได้แต่คิดเเล้วเงียบมองเขาไป
“ได้ค่ะ เครื่องดื่มรับไหมคะ”
“รับค่ะ มีฟองเป็นวุ้นเย็นๆ สองขวด” ฉันตอบแทนพี่เป้ โดยที่ไม่ถาม
“รู้ใจจริงๆน้องพี่” พี่เป้ยีหัวราวกับฉันเป็นเด็กสิบขวบ
“หญ้ากินเอง ไม่ได้สั่งให้พี่”
“เอ้า”
“หยอกกันน่ารักจังเลยนะคะ งั้นเชิญลูกค้าเลือกที่นั่งตามสบายเดี๋ยวอาหารไปเสิร์ฟให้ค่ะ” พนักงานสาวพูดด้วยความสุภาพ ก่อนจะหันหลังไปเตรียมของ ส่วนฉันเลือกที่นั่งที่เงียบๆ เลือกบรรยากาศเป็นซุ้มไม้
“พี่มีอะไรทำไมถึงพาหญ้ามาที่นี่ล่ะ” ฉันเอ่ยถามฝ่ายตรงข้าม
“ก็”คำตอบอ้ำๆอึ้งๆ ที่ให้ฉันยิ่งสงสัย
“ก็อะไร”
“หิวอ่ะ หมูร้านนี้อร่อยไม่ได้มานานแล้ว พี่ก็อยากพาหญ้ามานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสเลย ตอนจีบทำไมมันไม่บอกง่ายยังงี้วะ”
“โหย พี่เป้นึกว่ามีอะไร หิวก็บอกดีๆดิ”
“ก็เห็นเครียดอยู่ชวนมากินหมูกระทะจะมาด้วยรึ”
“เอ๊า”
“มาแล้วค่า” พนักงานเริ่มเอาของมาเสริฟจนครบ
“ขอบคุณครับ”ยิ้มหวานไปที มองดีๆอีพี่เป้มันก็หล่อนะเนี่ย แต่ไม่เท่าพี่ไทเกอร์หรอก สำหรับหญ้าไม่เคยมองใครหล่อกว่าพี่เกอร์อยู่แล้ว
“อ่ะกินก่อน เดี๋ยวค่อยเถียง”พี่เป้เริ่มจัดการอาหารฉันนั้นหันมารินน้ำมีฟองก่อนจะยกดื่มอย่างกระหาย
“หญ้าเอ็งเป็นเด็กเป็นเล็กดื่มของพวกนี้มันไม่ดีนะ”พี่เป้นั้นออกเชิงดุๆฉัน
“แล้วตอนพี่อายุเท่าหญ้าพี่เชื่อฟังใครไหม พี่ดื่มไหมคะ”
“หึเออครับน้องรักของเชิญตามสบาย” ประชดนิดหน่อยเอง หลังจากนั้นเราก็ลงมือจัดการอาหารกันพร้อมกับพูดคุยเรื่องทั่วไป
“พี่เป้”ฉันมองดูเขากินด้วยความเอ็นดู เป็นเด็กมองดูผู้ใหญ่กินมูมมามดีเนาะ!
“หืม” เขาเงยหน้าขึ้นมามองฉันปากก็เคี้ยวตุ้ยๆ
“เหมือนเด็กเลยอ่ะ”
“เอ้า ก็พี่ยังเด็กอ่ะ”
“เท่าที่จำได้พี่28ละนะ หญ้า19”
“เออ เด็กอยู่”
“อยู่ไหนก่อน”
“ในท้องไง”
“งุ้ย ลำใย” ฉันเริ่มอิ่มแล้วแหละ เริ่มเอามือถือขึ้นมาเล่น ไลน์กลุ่มเเจ้งเข้ามาว่า
“วันที่18ที่จะถึงนี้ทางมหาวิทยาลัยจะจัดกิจกรรมนอกสถานที่เป็นเวลา3วันจึงขอความสมัครใจใครที่จะไปให้ลงชื่อด้านล่าง”(คร่าวๆ )อ่านจบนั้นอุ๋งอิ๋งโทรเข้ามาพอดี ฉันเลยกดรับ
“ฮัลโหลเบบี๋”
“หญ้าแกเห็นไลน์กลุ่มแล้วใช่ไหม แกไปเปล่า”
“เห็นแล้วจ้า ไม่รู้เหมือนกันจะไปได้ไหมฉันทำงานด้วย” เอาจริงๆ ใจอยากไปมากนะ อยากเจอพี่ไทเกอร์ นี่ก็ไม่ได้เจอนานแล้ว แต่ถ้าฉันไป แล้วงานฉันล่ะไหนจะต้องหาเงินอีก
“หึยแก ต้องไปให้ได้นะไม่ไปฉันโกรธจริงๆด้วย แค่นี้แหละ”
“อ้าว” แล้วอุ๋งอิ๋งก็วางสายไป ปกติฉันก็ไม่ค่อยเห็นอุ๋งอิ๋งโกรธหรอกนะ แต่นางคงอยากให้ไปด้วยจริงๆแหละ
“มีอะไรหรอหญ้า”
“ที่มหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมน่ะพี่เพื่อนก็จะให้ไปอย่างเดียวเลย”
“อ่อ นานๆทีมีกิจกรรมเพื่อนก็คงอยากให้ไปด้วยกันแหละมั้ง”
“หญ้าต้องทำงานนะพี่ค่าเทอมที่เก็บไว้พ่อเลี้ยงก็เอาไปอีกแล้ว อุ๊ย” ฉันเผลอพูดออกมาโดยไม่ตั้งใจ เพราะมันออกมาจากความจริง ที่ไม่อยากพูดสักเท่าไหร่
“อีกแล้ว ไหนๆ ก็มาขนาดนี้ละพี่ขอพูดหน่อย ละพี่ตั้งใจจะบอกหญ้าเรื่องนี้แหละ”
“มีอะไรหรอพี่”
“ตาชาติอ่ะเขาไม่ได้กินเหล้าเข้าบ่อนอย่างเดียวนะหญ้า เขามีผู้หญิงด้วย แถมยังไปหากู้เงินที่เสี่ยใหญ่ในบ่อนเอามาให้ผู้หญิงคนนี้ไปเล่นพนันด้วยกันซ้ำกว่านั้นผู้หญิงมีผัวแล้วด้วย”
“บัดซบมาก”
“ที่สำคัญตอนนี้เสี่ยใหญ่กำลังสั่งลูกน้องตามเก็บยอดด้วยหนี้เขาเกือบล้านไม่ยอมจ่าย”
“หญ้าว่าแล้วทำไมมีคนหน้าตาแปลกๆมาถามหา โอ้ยตาย”
“อืม แล้วเขาจะยอมไหมล่ะหนี้ขนาดนั้น คนที่หนีเขาไม่จ่ายพี่เห็นไม่รอดสักราย”
“ปล่อยให้เขาฆ่าให้ตายไปเลยพี่”ฉันพูดออกไปด้วยความโมโห แต่ก็ไม่ได้อยากให้เขาตายจริงๆหรอก ไม่คิดว่าเขาจะเลวได้ขนาดนี้
“ไม่ง่ายอย่างงั้นสิ ลูกเมียคนในครอบครัวเขาก็ไม่เว้น”
“ห๊ะ”