บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 เผชิญหน้า

หนึ่งเดือนต่อมา

สนามบิน

ร่างเย้ายวนในชุดเดรสตัวยาวสีขาวสะอาดตาก้าวออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า ดวงตากลมโตล้อมด้วยแพขนตายาวกวาดมองซ้ายขวาในอาคารผู้โดยสารเพื่อหาใบหน้าคุ้นเคยของพี่ชาย ขณะล้วงมือถือขึ้นมาส่งข้อความถามอีกฝ่ายไปด้วย

เรือนผมสีน้ำตาลยาวถูกปล่อยสยายจรดเอว ใบหน้าได้รูปของหญิงสาวถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบาง ๆ ปากนิด จมูกหน่อย แต่ก็ทำให้ชายหลายคนเผลอมองเธอตาค้าง ผิวของเธอสีขาวราวน้ำนมบวกกับชุดที่สวมยิ่งทำให้เธอดูคล้ายกับนางฟ้าที่ลงมาเหยียบแดนมนุษย์เสียเหลือเกิน

“ยังไม่มาเหรอเนี่ย” เสียงหวาน ๆ บ่นพึมพำออกมาเบา ๆ พลางลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกไปยังโถงกว้าง หวังหากาแฟร้อน ๆ มาดื่มให้หายมึนหัวจากการเดินทางยาวนานหลายชั่วโมง

หญิงสาวหลบตามองต่ำราวกับเขินอายกับสายตาหลงใหลชื่นชมของบรรดาชายหนุ่มและหญิงสาวหลายคนซึ่งมองตามเธอไม่ละสายตา เร่งฝีเท้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้พ้นสายตาอยากรู้อยากเห็นนั้น

มือถือเครื่องเดิมถูกยัดเก็บใส่กระเป๋าถือเมื่อร่างเล็กหยุดยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ร้านกาแฟ

“รับอะไรดีครับ...นางฟ้า”

พนักงานหนุ่มถึงกับตาค้างเมื่อได้เห็นหน้าลูกค้าคนสวยชัด ๆ ถึงกับเผลอครางเบา ๆ ออกมาอย่างลืมตัว ก่อนจะรีบสะบัดศีรษะเรียกสติตนเอง

“ขอโทษครับ...ไม่ทราบว่าลูกค้าจะรับอะไรดีครับ”

“อเมริกาโน่ร้อนแก้วหนึ่งค่ะ”

“รับอย่างอื่นเพิ่มไหมครับ”

“ไม่ค่ะ เท่านี้แหละ”

“ทั้งหมดสามสิบดอลลาร์ครับ”

ชายหนุ่มต้องรีบหลบสายตา รู้สึกหน้าร้อนผ่าวไปหมดเพียงแค่สาวตรงหน้าปรายตามองตรง ถึงกระนั้นรอยยิ้มหวาน ๆ ก็เขย่าหัวใจเขาไปเสียแล้ว

“นี่ค่ะ”

เธอยิ้มหวานเอ่ยตอบด้วยภาษาจีนค่อนข้างแปร่งหูเล็กน้อยเนื่องจากใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมาโดยตลอด และยื่นเงินสดให้พนักงาน

มือสั่น ๆ ของพนักงานหนุ่มเอื้อมรับ ความเรียวสวยของนิ้วมือเธอไม่ต่างจากเทียนไข ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบรวมเป็นหญิงสาวคนนี้ช่างลงตัวไปเสียหมด ราวกับเธอเป็นผลงานชิ้นเอกของพระเจ้า

เรนนี่อมยิ้มกระอักกระอ่วนเล็กน้อยกับท่าทางไม่เป็นธรรมชาติของพนักงาน หลังจากจ่ายเงินค่าเครื่องดื่มไปแล้วเธอก็ขยับมารอยังอีกเคาน์เตอร์ ซึ่งทุกการเคลื่อนไหวช่างอ่อนช้อยงดงามคู่รักด้านหลังเธอเผลอมองตาลอย

เธอพยายามไม่สนในท่าทางโอเวอร์ของคนรอบกายพร้อมล้วงโทรศัพท์ออกมาอีกครั้งเมื่อมันสั่นเครือไม่หยุด

มุมปากเย้ายวนคลี่ออกช้า ๆ เท่านั้นก็เหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะกับความน่ารักเหมือนไม่มีจริงของเธอ ปลายนิ้วกดปุ่มรับสาย ยกโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นแนบหู

“Hi bro”

(อีกสิบนาทีจะถึงหน้าสนามบิน)

“โอเคค่ะ เดี๋ยวเรนนี่ออกไปรอ...”

(ไม่ต้อง!)

เสียงเข้มของปลายสายขัดขึ้นก่อน ทำเธอตกใจเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเอ่ยต่อให้จบประโยค

(ไม่ต้อง...รอข้างในสนามบินนั่นแหละ เดี๋ยวฉันเข้าไปรับเอง)

“ก็ได้ ไม่เห็นต้องทำเสียงดุเรนนี่เลยนี่ ไม่ดีใจเหรอคะที่จะได้เจอหน้าน้อง”

(เฮ้อออออ ~ ค่อยคุยกัน อย่าเดินออกไปไหนก็แล้วกัน)

“ทราบแล้วค่ะ”

คนตัวเล็กรับคำอย่างว่าง่ายและกดวางสายโทรศัพท์ไป ในตอนนั้นเองกาแฟร้อน ๆ ที่สั่งก็ถูกนำมาเสิร์ฟ เธอส่งยิ้มหวานเป็นการขอบคุณให้พนักงานอีกครั้ง ก่อนจะคว้าแก้วกระดาษและลากกระเป๋าออกมาจากร้าน

นัยน์ตาดำขลับเป็นประกายขณะหันมองแสงแดดอุ่นด้านนอก ความรู้สึกตื่นเต้นและปลอดภัยแทรกเข้ามาตามร่างกาย แม้จะเพิ่งเดินทางกลับบ้านเกิดมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน แต่มันก็เป็นทริปที่กระชั้นชิดมาก แถมเมื่อเสร็จพิธีหญิงสาวก็จำเป็นต้องกลับอเมริกาทันที จนไม่ได้มีเวลาออกไปเที่ยวเล่นที่ไหน

เธอถึงเฝ้ารอคอยการกลับมาครั้งนี้เป็นอย่างมาก

ริมฝีปากบางเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงระเรื่อยกขึ้นพร้อมแผนการมากมายในหัว

ปึก

“Opp Sorry”

เพราะความเหม่อลอยทำให้เรนนี่เผลอเดินชนเข้ากับชายคนหนึ่งเข้าเต็มแรง เรียวขาบนส้นสูงโงนเงนเสียการทรงตัว แต่ก็มีวงแขนแข็งแกร่งกระชับเอวเธอเอาไว้เสียก่อน

หัวใจดวงเล็กเต้นโครมครามด้วยความตกใจเมื่อตนเกือบจะลงไปก้นจ้ำเบ้ากับพื้น กำลังจะเงยหน้าขึ้นมาขอบคุณชายปริศนา

และทันทีที่ดวงตาของทั้งคู่สบประสานกัน ร่างของเธอก็แข็งทื่อ ไอเย็นเฉียบวิ่งพล่านไปทั่วร่างเมื่อใบหน้าหล่อเหลาไร้จุดตำหนิอยู่ห่างเพียงแค่ไม่กี่เซ็นต์ ดวงตาสีดำสนิทแข็งกร้าวจนน่ากลัว แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่อาจจะลดเลือนความหล่อของเขาได้

ใจเธอเหมือนหยุดเต้นไปชั่วขณะ กะพริบตาถี่ ๆ แต่ใบหน้าหล่อนั้นก็ยังไม่จางหาย

“ไงเรนนี่...ไม่ได้เจอกันนาน” เสียงแหบพร่าที่มาพร้อมไอเย็นเอ่ยทักทาย ดึงสติของหญิงสาวให้กลับสู่โลกความจริง ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้ฝันไป

“อึก...ละ...ลูคัส”

“ดีใจจังที่ยังจำกันได้”

ร่างสูงคลี่ยิ้มพึงพอใจซึ่งมันทำให้เสน่ห์ที่มีมากมายมหาศาลอยู่แล้วเพิ่มขึ้นไปอีก แต่คนตัวเล็กกลับขนลุกวาบ รีบปัดมือเขาออกให้พ้นร่างพร้อมขยับหนี

หมับ!

ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อมือที่ปัดออกคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนของเธอ พร้อมออกแรงบีบจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บ

“ปะ...ปล่อยนะ!”

“ทำไมปฏิเสธน้ำใจกันแบบนี้ล่ะ เราก็คนกันเองไม่ใช่เหรอ”

ยิ่งอีกฝ่ายส่งยิ้มอ่อนโยนให้เท่าไร เรนนี่ก็รับรู้ได้ถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา

ร่างเล็กออกแรงสะบัดกายให้หลุดออกจากการจับกุม แต่ก็ไม่อาจจะสู้เรี่ยวแรงที่มีมากของอีกฝ่ายได้

เม็ดน้ำตาร้อนเอ่อคลอรอบดวงตาพร้อมความกลัวที่เกาะกุมจิตใจ

“ขะ...ขอร้อง...ปล่อยฉัน พี่ดีแลนกำลังจะมาแล้ว” เธอพูดเสียงสั่นด้วยประโยคกึ่งอ้อนวอนกึ่งข่มขู่ ซึ่งแน่นอนว่านั่นไม่ได้ทำให้ลูคัสเปลี่ยนใจ

ร่างสูงโปร่งโน้มใบหน้าเข้าใกล้ ทำปลายจมูกโด่งเป็นสันสัมผัสถูกใบหูเธอเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยสิ่งที่ทำให้เรนนี่ตัวชาวาบออกมา

“งั้นก็แปลว่าฉันต้องรีบพาตัวเธอไปสินะ”

“!!!”

แทบจะไม่มีเวลาให้เรนนี่ตกใจด้วยซ้ำ เพราะทันทีที่สิ้นคำพูดของลูคัส ลูกน้องร่างสูงใหญ่อีกสี่คนก็เข้ามาประชิดเธอเอาไว้พร้อมแย่งกระเป๋าเดินทางไป

หญิงสาวถลาไปตามแรงกระชากจนเกือบหน้าทิ่ม พวกเขาบังคับให้เธอเดินออกไปหน้าสนามบิน แม้เรนนี่จะพยายามยื้อแค่ไหนก็ไม่เป็นผล

แก้วกาแฟร้อน ๆ ร่วงหล่นจากมือหกกระจายนองพื้นปูน และมันถูกเหยียบจนบี้แบนด้วยรองเท้าของหนึ่งในลูกน้องของลูคัสไม่ต่างจากหนทางรอดที่ริบหรี่ของเธอ

ริมฝีปากบางถูกปิดสนิทป้องกันไม่ให้ร้องขอความช่วยเหลือ

หัวใจในอกซ้ายเต้นโครมครามตื่นกลัวสุดขีดจนน้ำตาเอ่อคลอ แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็สามารถจับเธอยัดใส่รถที่จอดรออยู่หน้าสนามบินได้สำเร็จ

ปึก!

ร่างเล็กถูกเหวี่ยงเข้าไปในรถอย่างแรง ส่งผลให้ศีรษะกระแทกชนกระจกด้านหลัง แต่ผู้ชายใจร้ายก็ไม่ได้สนใจไยดี เหยียดยิ้มจ้องมองสีหน้าแตกตื่นของหญิงสาวอย่างสะใจ ก่อนจะก้าวขึ้นมานั่งข้างเธอ

รถสีดำพุ่งทะยานด้วยความเร็วสูงทันทีที่ประตูปิดลง

ฝ่ามือเล็กจิกกำแน่นตวัดมองสีหน้าเบิกบานของชายข้างกายด้วยความหวาดกลัว แม้แต่จะพอรู้มาบ้างแต่ก็อดถามออกไปไม่ได้

“ตะ...ต้องการอะไร จับฉันมาทำไมลูคัส”

“เธอดูสบายดีนะ”

“???” เรนนี่งงงุนกับคำพูดนั้น ได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ ไม่ลืมเว้นระยะห่างจากบุคคลอันตรายเอาไว้ตลอด

“ไม่เหมือนพี่ฉัน...ที่ตอนนี้เหลือแต่ร่างเย็นเฉียบ!”

เสียงตะคอกแข็งกร้าวขึ้นมาจนหญิงสาวเสียวสันหลัง มองดูใบหน้าหล่อร้ายที่ค่อย ๆ หันมองเธอ

ดวงตาคู่นั้นลุกโชนด้วยความแค้นที่สะสมมาตลอด แผ่รังสีกดดันจนร่างเล็กรู้สึกหายใจไม่สะดวก

ลูคัสยิ้มเย็นพลางโน้มใบหน้าเข้าใกล้ยิ่งขึ้น บังคับร่างน้อยของเรนนี่ให้แทบจมไปกับเบาะ จ่อรดลมหายใจร้อนข้างใบหู เธอหลับตาปี๋หวาดกลัวสุดขีด รู้สึกได้ถึงอัตราชีพจรที่พุ่งสูง

“ฉันจะปล่อยให้ตระกูลเธอมีความสุขต้อนรับการกลับมาของลูกสาวคนเล็กง่าย ๆ ได้ยังไง...ในเมื่อพวกมันน่ะเป็นฆาตกรที่ทำให้พี่สาวฉันตาย!”

“อึก...ไม่ใช่นะ ที่บ้านฉันไม่ได้ทำ!” แม้จะกลัวจนน้ำตาไหลนองหน้า แต่หญิงสาวก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับมัจจุราช

“หุบปาก! อยากรู้นักว่าลูกสาวสุดที่รักถูกจับมา พวกมันจะวางท่าเฉยชาเหมือนตอนพี่ฉันตายได้อยู่ไหม”

นัยน์ตาสีดำแข็งกร้าวแดงฉานไปด้วยเพลิงโทสะแห่งความแค้น ท่าทางน่ากลัวของลูคัสทำเธอตัวสั่นไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีกต่อไป

ทั้งที่เธออุตส่าห์เฝ้ารอวันกลับมาฮ่องกงแท้ ๆ แต่ตอนนี้เรนนี่ไม่อาจจะเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์บนท้องถนนด้านนอกได้แล้ว ฝ่ามือเล็กเย็นเฉียบแต่กลับชุ่มไปด้วยเหงื่อไม่ต่างจากหัวใจที่หนักอึ้งเมื่ออยู่ในเงื้อมมือของปีศาจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel