บทที่ 3-1
“อื้อ...ช่วยจัดการแทนทีเถอะ อย่าเพิ่งถามอะไรมากได้ไหม ตอบมาก่อนว่าช่วยหาคนทันหรือเปล่า ฉันทำแบบให้แน่ๆ แล้วจะส่งมาทางเมลนะ ส่วนแกช่วยติดต่อคุยลูกค้าให้หน่อย นะยัยเกล”
“แหม...มาด่วนอะไรขนาดนี้ละคะ คุณนายลัน แล้วทำไมต้องรีบไปขนาดนั้นด้วย มีอะไรหรือเปล่า?”
ปลายสายที่ย้อนกลับมา ทำให้ลันล์ลลินถึงกับถอนใจ เรื่องราวของเธอมีคนทราบกันเพียงไม่กี่คน และหนึ่งในนั้นก็คือเกวลินเพื่อนสนิทของเธอคนนี้นั่นเอง
“สามี...ของฉัน...คือ...”
“ไอ้ย่า! ซี้แล้ว” คำอุทานที่หลุดออกมาจากปากของเพื่อนสาว เล่นเอาคนกำลังเครียดถึงกับปล่อยหัวเราะกิ๊กออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“อะไรกันน่ะ ยัยเกล ภาษาดั้งเดิมออกมาเลยนะแก ยังไม่ซี้ย่ะ เค้าก็แค่...มารับฉันไปทำธุระที่ลอนดอน”
“ตายแล้ว สามีแกหายไปเหมือนกับตายจาก จนฉันคิดว่าแกเป็นโสดไปแล้วตั้งห้าปีนี่นะกลับมารับแก เอ...หน้าตายังไงนะ ฉันจำแทบไม่ได้แล้วแหะ ยัยลัน คลับคล้ายคลับคลาว่าหล่อมาก...”
ฟังคำลากเสียงนั่นแล้ว ก็นึกอยากให้เกวลินมานั่งอยู่ใกล้ๆ นัก เธอจะได้หยิกเอาสักหลายๆ ทีให้หายหมั่นไส้
“จำอะไรไม่ได้ แต่ก็ยังจำได้ว่าหล่อเนอะ”
“แหม...ก็หล่อจริงๆ นี่นา สูงมาก หน้าตาลูกครึ่งแบบเพอร์เฟค โอ๊ย! ขนาดจำไม่ค่อยได้นะ อิอิ มันก็ยังฝังเข้าไปในเซลล์สมองเลยล่ะ ว่าสามีเพื่อนเรา หล่อโคตร”
“ดีเหมือนกันนะที่เค้ามาเจอเราเสียที เราจะได้คุยเรื่องหย่า”
ลันล์ลลินเม้มริมฝีปาก นึกถึง ‘สามี’ ของตน ที่ตอนนี้กำลังพักผ่อนอยู่ในห้องพักแขก ก่อนกลับมาถึงเธอได้ให้ป้าสายทิพย์เร่งรีบปัดกวาดเช็ดถู ทำความสะอาดไว้รอรับรองเขา แม่บ้านวัยกลางคนซักถามเธอมากมายเกี่ยวกับสามีของเธอ ที่จู่ๆ เพิ่งจะโผล่มาปรากฏตัว อ้างสิทธิ์
“หย่าเลยเหรอลัน ว้า...น่าจะเก็บไว้ก่อนนะ สามีหล่อๆ แบบนั้น หายากนะเธอ”
เจ้าตัวทำเสียงสูง ก่อนจะหัวเราะสนุก แต่แล้วก็หยุดหัวเราะ เมื่อลันล์ลลินเงียบ
“คิดดูดีๆ นะลัน ว่าจะหย่าจริงไหมน่ะ มันมีผลอะไรกับบ้านช่องของแกด้วยหรือเปล่า? ก็ที่แกแต่งเพราะ...”
“คงไม่มีผลอะไรหรอกเกล บ้านนี้เป็นชื่อของฉันแล้ว พวกหุ้นบริษัทนั่นฉันก็ขายให้กับน้าสิทธิ์ไปหมดแล้ว ไม่ได้อยากไปข้องเกี่ยวอะไรด้วยอีก แกก็รู้ว่าฉันโตมาด้วยขาของตัวเอง ตั้งนานแล้ว”
“แกจะให้ฉันไปเป็นเพื่อนด้วยหรือเปล่า?”
เกวลินถามอย่างนึกเป็นห่วงเพื่อนรัก เรื่องราวของลันล์ลลินเธอมีส่วนร่วมมาด้วยตลอด และคอยช่วยเหลือเพื่อนเท่าที่ตัวเองทำได้
“แกกำลังท้องกำลังไส้ พี่เพชรจะปล่อยให้แกบินไปกับฉันได้ยังไงกัน แกช่วยประคองเรื่องงานให้ฉันดีกว่า ช่วยหาช่างมารับเหมางาน แล้วก็ติดต่อลูกค้า อ้อ...แล้วก็รับลูกค้าที่ฉันคงจะไม่ได้ทำงานให้ในระหว่างที่ไปลอนดอน แค่นี้ก็พอแล้วละจ้ะ”
“ถ้าแกจะตัดสินใจหย่าเสีย ก็ดีนะลัน เค้าปล่อยแกไว้แบบนี้ตั้งห้าปี คงจะไม่อีนังขังขอบอะไรหรอก กับการที่แกขอหย่าน่ะ ว่าแต่ตัวแกเองเถอะ จะแคร์ไหมกับการที่ต้องเป็นแม่ม่าย”
“จะมีอะไรที่นางลันล์ลลินต้องแคร์อีกละยะ” ลันล์ลลินอมยิ้ม “ฉันใช้คำว่านางมาตั้งแต่อายุยี่สิบด้วยซ้ำนะเกล เป็นแม่ม่ายป้ายแดง ดีกว่ามีสามีที่ไม่มีตัวตนอีกเป็นไหนๆ นะ”
“ดูพูดเข้า” เกวลินหัวเราะกิ๊ก
“ตกลงว่าฉันรับปาก จะช่วยงานแกนะลัน เสียดายที่ตอนนี้อยู่ที่หัวหิน ไม่อย่างนั้นฉันจะขอไปที่บ้านแก ก่อนที่แกจะไปลอนดอนหนนี้สักหน่อย
“จะมาทำไม มาส่งหรือยังไงจ๊ะ”
“จะไปดูหน้าสามีแก ให้ฉ่ำใจเสียหน่อย ว่าหล่อเหมือนที่เคยจำได้หรือเปล่าน่ะสิ”
“ยัยบ้าเกล” ลันล์ลลินเองก็อดหัวเราะขำไม่ได้ กับคำพูดล้อเลียนของเพื่อนสนิท
“ไม่คุยด้วยล่ะ ไม่รบกวนแล้ว ว่าที่คุณแม่ต้องนอนเร็วๆ นะ ไปลอนดอนก็ดีเหมือนกัน จะได้ไปเที่ยวเมืองนอกแบบฟรีๆ ด้วย เพราะมีคนออกเงินให้ อยากได้อะไรหรือเปล่าฉันจะซื้อมาฝาก”
“แกเอาชีวิตรอดกลับมาหาฉัน มาหาหลานได้ก็พอแล้วย่ะ ไม่ต้องมีอะไรมาฝากหรอก”
“พูดยังกับว่าฉันจะไปรบอย่างนั้นแหละ” ลันล์ลลินย่นจมูก
“มันก็คล้ายๆ อยู่นะลัน รบกับสามี เพื่ออิสรภาพยังไงล่ะเพื่อน ไหนๆ เขามาเจอะเจอแกอีกครั้งแล้ว แกก็ขออิสรภาพของแกคืนเสียนะลัน ฉันว่ายังไงเขาก็คงจะไม่รั้งอะไรแกไว้หรอก ทำให้ถูกต้องทางกฏหมายเสียเถอะ ไหนๆ ก็ไม่เคยรักกันเลยไม่เคยมาอยู่ด้วยกันแบบคู่ผัวตัวเมีย”
“คิดไว้อยู่เหมือนกัน ว่าฉันจะคุยเรื่องหย่า กฏหมายของทางบ้านคุณคมอธิปเค้าไม่เหมือนทางบ้านเราด้วยน่ะสิ” ลันล์ลลินถอนใจ
“เอาเถอะ...ขอบใจมากนะแกที่เป็นห่วง ฉันคงจะรีบไปรีบกลับ ที่ต้องไปเพราะคุณปู่เรียกตัวหรอกจ้ะ ท่านมีบุญคุณกับฉันมาก จะอย่างไรก็ต้องไป”
“แหม...บุญคุณที่ว่า ก็ตอบแทนกันไปหมดแล้วนี่นา ไม่พูดดีกว่าเดี๋ยวแกก็รู้สึกแย่อีก”
“อืม...เรื่องเก่าก็ช่างมันเถอะ ฉันก็ไม่อยากไปคิดถึงเหมือนกัน แต่เรื่องหย่าน่ะ ยังไงก็คิดว่าจะหย่าแน่ๆ ละ”
“ดีแล้ว ถ้าแกหย่ากลับมาละก็ ฉันจะเลี้ยงฉลองโสดนางสาวลันล์ลลิน พรสุริยะให้นะจ๊ะ จะได้โบกธงเชิญหนุ่มๆ มาจีบแกเสียที”
“บ้าน่า ไปนอนไป๊ ยัยเกล แค่นี้ล่ะ จัดการเรื่องงานให้ด้วย”
“รับทราบค่ะ คุณนายลัน แต่อย่าใจอ่อนไม่หย่า เพราะสามีหน้าตาดีล่ะ อิอิ”
เอ่ยล้อเลียนแล้ว ทางนั้นก็วางสายเอาดื้อๆ ทิ้งให้ลันล์ลลินอ้าปากค้าง เพราะตอบโต้กลับไม่ทัน
“หน้าตาดีขนาดไหน หล่อเทพน่าหลงขนาดไหน ก็ไม่ไหวหรอกย่ะ ยัยเกล เฮ้อ...”
คิดแล้วก็ถอนใจเฮือกใหญ่ ร่างบางสะท้านขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เมื่อนึกถึงนัยน์ตาสีสวยแปลกนั่น ฝันร้ายตามมาหลอกหลอนเธออีกแล้ว จนเธอต้องสะบัดหน้าแรงๆ หญิงสาวนอนลงบนเตียงนุ่ม พลางดึงเอาหมอนมากอดไว้ราวกับจะใช้มันเป็นเครื่องมือ ขับไล่ความหวาดกลัวออกไปจากหัวใจ
“อย่าไปคิดถึงอีกเลยยัยลัน นั่นก็แค่...มันก็แค่...”
ริมฝีปากนุ่มขบเข้าหากันจนเจ็บ เมื่อนึกถึงตอนเช้าของคืนอันแสนอัปยศนั่น เจ้าบ่าวทิ้งเธอหนีหายไป พร้อมๆ กับเตียงนอนที่ยับย่น
“แค่ฝันร้ายที่ผ่านไปแล้ว มันจะไม่กลับมาอีกแล้ว เราจะเจอกับเขาครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย หนสุดท้ายแล้วในชีวิตนี้ เขาเองก็คงจะไม่อยากมาข้องแวะอะไรกับเมียที่ไม่ได้ตั้งใจอย่างเราอีก”
แม้จะบอกตัวเองแบบนั้น แต่กงล้อแห่งชีวิต กำลังเคลื่อนไหว พาให้คนทั้งคู่เข้ามาเกี่ยวข้องกันอีกจนได้