บทที่ 3-2
“อืม...ตกลงตามนั้นแหละอีวาน ไว้ยังไงฉันจะบินไปที่มอสโคว์ แล้วก็จะโทรหานายก่อนเลยถ้าถึง”
“เร่งมาหน่อยไม่ได้หรือยังไงกันวะ เรย์” ปลายสายทำเสียงเน้นเข้ม เหมือนเคยชินกับการออกคำสั่ง
“มีธุระเหมือนกันว่ะ นี่ก็มาทำงานให้กับปู่ที่เมืองไทย แล้วก็ติดเรื่องลูกความด้วย”
“นายไปทำอะไรที่เมืองไทย”
คำว่า ‘เมืองไทย’ ทำให้คนปลายสายนิ่งไปนิด ราวกับสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง คมอธิปยิ้มน้อยๆ ก่อนจะกรอกเสียงลงไปเหมือนจะเอ่ยล้อเลียน
“คงไม่ได้มาตามหาดอกไม้ของนายหรอกน่า”
“หึๆ เค้าไม่ใช่ดอกไม้ของฉันอีกแล้วล่ะ ช่างมันเถอะน่า ก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกแล้ว”
“อย่างว่าแหละ นายมีดอกไม้ใหม่ๆ ให้เลือกเสมอนี่ อีวาน”
อีวาน หรือ อีวาน เปรโตวิช ไซเรียนอฟ หัวเราะเสียงดังอย่างถูกใจ
“เราก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ คุณทนายเพรสตั้น นายเองก็เหมือนกับฉันนั่นแหละน่า แต่ว่านายเสียตรงที่ดันโดนจับเข้ากรงสมรสเสียแล้ว หึๆ หลานกตัญญก็แบบนี้แหละนะ”
“ทำยังไงได้เล่า”
คมอธิปถอนใจ ภาพแม่สาวหน้าหวาน นัยน์ตากลมโตราวกับตากวาง วาบขึ้นมาผุดพรายในห้วงนึกทันที
“ที่มาเมืองไทยก็เพราะปู่เกิดอยากจะเจอหล่อนขึ้นมานั่นแหละ ฉันกะว่าหนนี้ จะคุยเรื่องหย่าขาดเสียกับเด็กนี่ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ไม่อยากค้างคาอะไรอีกแล้ว ทำตามคำขอของปู่ไปแล้วด้วย ปู่คงจะมาว่าอะไรฉันไม่ได้อีก”
“ไม่คิดเสียดายเลยเหรอวะเรย์ เมียคืนเดียวของนายน่ะ น่าจะใช้ให้คุ้มก่อนสิ” คำเอ่ยเย้านั่น ทำให้คนฟังยิ้มร้ายนิดๆ
“ก็อาจจะลองใช้ดูก่อน หึๆ แล้วค่อยคุยเรื่องหย่า”
“ร้ายเหมือนเดิมเลยว่ะ ไอ้เสือ จริงสิ...พูดถึงเรื่องแต่งงาน นึกถึงไอ้ริโอขึ้นมาเลย มันโทรศัพท์คุยกับนายบ้างหรือเปล่าพักนี้”
“มีอะไรหรือ? นี่ฉันพลาดอะไรไปหรือเปล่า”
“หมอนั่นกำลังจะแต่งงานยังไงล่ะ หึๆ พวกเราสละโสดกันไปแล้วสอง เหลือแต่ฉันคนเดียวสินะ ที่ยังมีอิสระอยู่”
“หืม? ริโอน่ะหรือจะแต่งงาน กับใคร ยังไงกันวะ” คมอธิปถามอย่างตกใจ ขณะที่อีวานอมยิ้ม
“นายลองถามมันดูก็แล้วกัน เดี๋ยวก็คงจะมีอะไรสนุกๆ เล่าให้ฟังนั่นแหละ แต่อย่าเพิ่งโทรไปกวนหมอนั่นเลย เห็นว่ากำลังกลุ้มๆ อยู่ นี่บังเอิญว่าคุยกันเรื่องงาน มันถึงหลุดเล่าให้ฟัง เห็นว่าอาจจะต้องแต่งงานตามพินัยกรรมอะไรแบบนี้นั่นแหละ ฟังแล้วตลกเป็นบ้า แต่ไม่กล้าหัวเราะ เพราะจะโดนเพื่อนเตะเอา”
“แต่งเพราะเหตุบังคับอีกคนแล้วสินะ ไอ้เสืออย่างพวกเรา ต้องมาตายรังเพราะเรื่องแบบนี้สองคนเข้าแล้ว ฉันต้องแต่งงานเพราะปู่ ส่วนริโอต้องแต่งงานตามพินัยกรรม ตลกร้ายที่ขำไม่ออก นายเองก็เหอะ ระวังไว้ล่ะ”
“เสียใจด้วย เพราะคนอย่างฉัน ไม่มีใครบังคับได้ อีกอย่างหนึ่งถ้าฉันไม่รัก ก็คงจะไม่ยอมเสียสละหัวใจให้” คำพูดนั้นเล่นเอาคมอธิปแทบจะหลุดหัวเราะพรืดออกมา
“เสือร้ายอย่างอีวาน มีหัวใจด้วยหรือยังไงกันวะ สงสัยพวกฉันจะต้องรออุ้มหลานกันนานมาก เกือบๆ ร้อยปี”
“หึๆ มีสิ มีเหมือนพวกนายนั่นแหละ เป็นอันว่าตกลงตามนี้ก็แล้วกันนะเรย์ ถ้านายมามอสโคว์ครั้งนี้ ฉันอาจจะมีโชค ได้เห็นเมียผู้ลึกลับที่ปู่อุ้มสมมาให้นายเสียที”
“ไว้เจอกัน อ้อ...เตรียมเบียร์ไว้รอด้วยนะ ฉันว่าจะสั่งเบียร์ไทยไปให้นายได้ลองดู มันเข้มข้นเป็นบ้าเลยว่ะเพื่อน”
“ดีเลย มาดวลกันให้เมากันไปข้างหนึ่ง”
“คนอย่างริโอน่ะหรือ จะแต่งงาน ซวยล่ะพ่อเสือ หึๆ”
เมื่อวางสายจากเพื่อนสนิทไปแล้ว คมอธิปก็หัวเราะน้อยๆ เมื่อนึกถึงเพื่อนรักอีกคนของเขา อย่าง ริโอ กลาเซีย ปัทมเดช
พวกเขาทั้งสามคน สนิทสนมกันมาเกินกว่าสิบปี ทั้งริโอ อีวาน และคมอธิป เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในเยอรมันเดียวกัน ความที่เป็นลูกครึ่งไทย พัดพาให้สองหนุ่มอย่างริโอ และคมอธิปมาเจอกัน สนิทสนมกันก่อน ก่อนที่จะลากอีวานเข้ามาร่วมก๊วนเพื่อนรักด้วยอีกคน
ริโอและอีวานเรียนเอกเดียวกัน ส่วนคมอธิปเรียนทางกฏหมาย แม้จะเรียนกันต่างคณะ แต่ก็สนิทสนมกันมาก สามหนุ่มมักจะลากกันไปดื่มเบียร์ทุกวันศุกร์ที่บาร์ในย่านมหาวิทยาลัย พากันไปทำกิจกรรมแบบหนุ่มๆ นักผจญภัย และที่ทั้งสามร้ายเหมือนกันอีกเรื่อง นั่นก็คือเรื่องหน้าตาและเสน่ห์อันแสนร้ายกาจ เสือร้ายทั้งสามมีสาวๆ มาข้องแวะไม่ขาด แต่ก็ไม่เคยจริงจังกับใคร ความรักเหมือนแค่ละอองฝนที่ต้องผ่านผิวเพียงเล็กน้อย แล้วก็ละลายหายไปเมื่อเจอแดด เมื่อเรียนจบแล้วก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงานของตน อยู่คนละประเทศตามฐานบ้านเกิด อีวานอยู่ที่รัสเซีย ริโออยู่สเปน ส่วนตัวเขาอยู่ที่อังกฤษ แต่ระยะทางก็ไม่อาจจะบั่นทอนความสัมพันธ์ได้ เพื่อนรักทั้งสามนัดเจอกันปีละครั้งที่เยอรมัน และนัดกันนอกรอบบ้าง อีกอย่างหนึ่งพวกเขามีการช่วยเหลือกันเรื่องงาน จึงติดต่อกันไม่ขาด
ความรัก...จริงสินะ เสือร้ายอย่างเรย์ หนึ่งในสามเสือไร้หัวใจ ก็เคยสัมผัสมันมาบ้าง แค่เพียงผิวเผินไม่ลึกล้ำ เขายังเจ็บแค้นกราดเกรี้ยวเมื่อถูกบังคับหัวใจ เคลลี่ คาร์สัน หญิงสาวสวยเฉี่ยว นัยน์ตาสีเขียวเข้ม ผมสีแดงล้อมกรอบหน้าสวยแสนมีเสน่ห์นั่น ทำให้เขาก้าวตกหลุมความรัก แล้วไหนจะความฉลาดเฉลียวของเจ้าหล่อนอีกเล่า ที่ทำให้คมอธิปประทับใจ เขาเกือบจะมอบหัวใจให้เธอไปแล้วทั้งดวง คิดสานฝันวาดอนาคตเคียงสาวแสนฉลาดคนนี้ ถ้าไม่เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน
เด็กสาวอายุยี่สิบปี ที่ถูกกำหนดให้มาเป็นเจ้าสาวของเขา คมอธิปรู้เรื่องนี้เพียงแค่ไม่กี่วัน ไม่ทันบอกกล่าวกับเพื่อนสนิททั้งสองเลยเสียด้วยซ้ำ และเขาเองก็ยังไม่ได้ทำใจเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าว รับไม่ได้ที่ผู้เป็นปู่ขอร้องกึ่งบังคับเขาเอาแบบนี้ เหตุผลที่ยอมทำเพราะบิดามารดาที่ขอร้อง เนื่องจากกลัวบ้านที่อยู่ ฐานะทางสังคม ถูกคงไคยเรียกคืน ซึ่งชายชรากล้าทำแน่ๆ ถ้าเกิดว่าขัดใจเข้า
เขาเมาจนแทบไร้สติ ตอนที่เข้ามาร่วมงานแต่งงาน จำเจ้าสาวของตนแทบไม่ได้ จำได้แต่ว่าโมโหและโกรธมากขนาดไหน และความโกรธนี้เขาก็ได้...
คิดมาถึงตรงนี้แล้วคมอธิปก็ยกมือขึ้นลูบหน้า พลางถอนใจเฮือก คืนนั้นแม้จะมึนเมาและขาดสติ แต่ก็ไม่ได้ไร้ความทรงจำเสียทีเดียว เขาได้กระทำอะไรลงไปบ้าง คมอธิปรู้ตัวดี แม้จะบอกกับตัวเองมาตลอดว่ามันก็สาสมแล้วที่ทำลงไป ก็เจ้าหล่อนเป็นตัวมารขัดขวางความรักและอิสรภาพของเขา แต่อีกใจก็คอยบอกย้ำด่าว่าตัวเองว่า เขาทำเกินไปหรือเปล่า กับผู้หญิงตัวเล็กๆ ไร้ทางสู้แบบนั้น
นัยน์ตากลมโตเหมือนตากวาง ที่มองเขามาเหมือนกับกวางระแวงภัย ยิ่งทำให้คมอธิปรู้สึกหน่วงในอกอย่างประหลาด เธอทำให้เขารู้สีกเหมือนว่าตัวเองเป็นผู้ร้ายน่าเกลียดน่ากลัว เขาไม่ได้ตั้งใจที่ทำเรื่องแบบนั้นลงไป แต่ก็ทำลงไปแล้ว มันแก้ตัวทันเสียที่ไหนกันเล่า
บางทีเขาอาจจะพูดดีๆ ทำดีๆ กับเธอบ้าง เพื่อเป็นการขอโทษในแบบของเขา คมอธิปตกลงใจ ที่จะทำเพื่อเจ้าสาวคืนเดียวของตนเองบ้าง แน่นอนว่าสิ่งที่เขาต้องการจากการกระทำดีทั้งหมดนี้ นั่นก็คืออิสรภาพของตน
ใช่...เขาจะขอให้เธอหย่าขาดจากเขาเสียที และหวังว่าลันล์ลลินจะไม่เรียกร้องอะไรจากเขาอีกนะ ค่าเลี้ยงดูแม้แต่เพนนีเดียว คมอธิปก็ไม่มีทางที่จะให้ เพราะสิ่งที่เจ้าตัวได้ไปมันก็มากมายเกินพอแล้ว ธุรกิจของเขากำลังไปได้สวย ถ้าเกิดว่าเขายังค้างคายืดเยื้อเกี่ยวกับเรื่องทะเบียนสมรสกับหล่อนต่อไป ใครจะมาการันตรีได้ว่าวันหนึ่งแม่เจ้าประคุณจะไม่มาร้องแรกแหกกระเชอ เพื่อขอค่าเลี้ยงดูมากมายหลังการหย่า เงินของเขาหามาได้ลำบาก เขาไม่มีทางปล่อยให้ใครไปง่ายๆ ฟรีๆ แน่นอน
ทนายความหนุ่มคิดในใจ ก่อนจะล้มตัวลงนอนในคืนนั้น ตกลงใจแล้วแน่วแน่แบบนี้ เขาก็นอนได้อย่างหลับสนิท ไม่คิดวิตกกังวลอะไรอีกต่อไป