บทที่ 1-2
“เรียบร้อยแล้วนะคะ ตกลงให้ลันทำตามตัวอย่างนี้ได้เลยนะคะ แล้วเรื่องผู้รับเหมา จะให้ลันติดต่อมาให้ด้วยไหมคะ รับรองว่าราคาไม่แพงมากค่ะ”
นิ้วเรียวจิ้มหน้าจอไอแพด ส่งให้กับลูกค้าดู พร้อมกับรอยยิ้มละมุนตา จับใจคนที่กำลังจ้องมองอยู่นัก จนเผลอมองใบหน้าหวานนั้นนิ่ง จนคนซึ่งนั่งเคียงข้างต้องชักสีหน้า แล้วสะกิดด้วยการเอาเล็บแหนบเอาแรงๆ จนเขาสะดุ้ง หันขวับมามองเธอตาเขียว
“ตกลงทำตามแบบไปได้เลยค่ะคุณลัน แหม...คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกจ้างคุณ ทางคุณสรัลแนะนำมาให้ ไม่ผิดหวังในฝีมือจริงๆ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
ลันล์ลลินยิ้มกว้างให้กับคนพูด วันนี้เธอมาตกลงเรื่องงานกับลูกค้าสามราย รายที่สามของวันเป็นคู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามัน ดูแล้วน่ารักนักในสายตาเธอ สถานที่นัดพบปะคุยกันเรื่องงาน คือร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านตัวเมือง ซึ่งเป็นร้านของลูกค้า จึงพูดคุยเรื่องงานกันได้เต็มที่
“ให้เราเลี้ยงข้าวเย็นนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ลันไม่อยากรบกวน ต้องรีบกลับไปกินที่บ้านน่ะค่ะ”
เธอแสร้งทำเป็นไม่เห็น ว่าคนชวนกำลังถูกคนข้างๆ ใช้เล็บแหนบเอาอีกรอบ พร้อมกับทำตาเขียวใส่สามี
“มีคนรออยู่ที่บ้านสินะคะ ที่รักรู้ไหมคะว่าคุณลันน่ะ มีสามีแล้ว ก็ต้องกลับไปกินข้าวกับครอบครัวสิ”
คำว่าสามี ที่หลุดออกมาจากปากของลูกค้าสาว ทำให้ลันล์ลลินชะงัก หน้าเรียวซีดเผือดไปชั่วครู่ ก่อนจะมีสีเลือดตามเดิม ใจเธอเต้นกระตุกแทบไม่เป็นจังหวะ ฝันร้ายหมาดๆ เมื่อคืนนี้ ตามมาหลอกหลอนเธออีกหนแล้ว
“อะไรนะ? คุณลันไม่ได้เป็นโสดแล้วหรือครับ ว้า...เสียดายจัง โอ๊ยๆ เจ็บนะคุณดา มาตีผมทำไม”
ฝ่ายชายร้องโอย เมื่อหนนี้ภรรยาสาวเหลืออดแล้ว เลยตีแขนเอาหลายเพี๊ยะ ลันล์ลลินมองสถานการณ์ตรงหน้า แล้วยิ้มแหย ทั้งตกใจ และทำอะไรไม่ถูกไปเลยทีเดียว ได้แต่นั่งนิ่ง จะห้ามก็ไม่กล้า
“คนร้ายกาจ กล้ามาเจ้าชู้ต่อหน้าดา นี่แนะๆๆ”
ว่าไปมือก็ตีไปไม่หยุด ผู้เป็นสามีหัวเราะไปปัดป้องไป ก่อนจะเอ่ยเสียงหลง เมื่อมือน้อยๆ ของภรรยาเริ่มตีทุบหนักขึ้นเรื่อยๆ
“พอก่อน พอก่อนคุณดา ผมเห็นว่าคุณลันสวยน่ารัก เก่งด้วย เลยอยากจะทาบๆ ให้กับน้องชายผมต่างหากล่ะ”
“จริงๆ นะ”
“จริงสิ ไม่ถามเลย มาตีเอา ตีเอา เจ็บนะที่รัก คนนะไม่ใช่กระท้อน”
กานดาลดมือลง แล้วยิ้มเขินส่งให้ลันล์ลลิน ที่กำลังมองพวกเธอด้วยสายตายิ้มๆ ก่อนจะซบหน้ากับบ่าสามีด้วยท่าทางน่ารัก
“แหม...ไม่รู้นี่นา เห็นที่รักมองคุณลันตาหวานเลย ก็นึกว่า...”
“หึๆ” มือหนาโคลงศรีษะของภรรยาอย่างเอ็นดู ก่อนจะหันมาขอโทษขอโพยลันล์ลลิน
“ต้องขอโทษด้วยนะครับคุณลัน ภรรยาผมขี้หึงเกินไปหน่อย แต่ว่าเสียดายจังเลยแหะที่คุณลันมีคนเคียงข้างอยู่แล้ว ผมไม่เห็นแหวนแต่งงาน ก็เลย...แหะๆ นึกว่ายังโสดน่ะครับ”
“ก็คุณลันใช้คำนำหน้าว่านาง ตอนเซ็นสัญญากับทางเรายังไงล่ะ ที่รักล่ะก็ ไม่หัดดูบ้างเลย”
กานดาเอ็ดเบาๆ ลันล์ลลินกระแอมเบาๆ แล้วเอ่ยกับสองสามีภรรยายิ้มๆ
“ธุระเรียบร้อยแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ กำหนดการเข้าทำงานของช่าง ลันจะแจ้งให้ทราบอีกทีค่ะ แล้วลันจะช่วยดูแลจนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยตามแบบ แล้วก็จนกว่าคุณกานดาและคุณนเรศจะพอใจค่ะ”
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ สำหรับแบบสวยๆ ดาแทบจะอดทนรอวันที่งานเสร็จไม่ไหวเลยล่ะค่ะ”
คำชื่นชมนั้นทำให้หัวใจของคนทำงานอิ่มเอม ลันล์ลลินทำงานเป็นมัณฑนากร ออกแบบตกแต่งภายใน แบบฟรีแลนซ์ รับงานอิสระทั่วไป เธอเพิ่งลาออกจากงานประจำมาได้ปีกว่า เพราะอยากจะมีอิสระเลือกรับงานของตัวเองได้ในแบบที่เธอชอบ และอีกอย่างเธอขัดแย้งกับผู้จัดการเกี่ยวกับเรื่องงาน จึงตัดสินใจที่จะโบยบินอย่างอิสระเสรีเหมือนนกที่ไร้กรง
ขาของเธอพาลันล์ลลินก้าวเดินมายังบริเวณร้านขายสัตว์เลี้ยง ซึ่งอยู่ถัดจากร้านอาหารของลูกค้าไปไม่ไกลนัก นัยน์ตากลมโตมองพวกสัตว์ที่อยู่ในกรง พวกมันกำลังรอเจ้านายคนใหม่ มารับพวกมันไปเลี้ยงดู หญิงสาวมองพวกมันด้วยสายตาอ่อนเชื่อม สายตาสะดุดกับกรงนกขนาดใหญ่ ที่มีนกเลิฟเบิร์ดหลายตัว หลากสีร้องเจี้ยวจ๊าวกันอยู่ข้างใน คนขายปรี่เข้ามาเลยทันที เมื่อเห็นเธอกำลังมองจับจ้องอย่างสนใจ
“สนใจไหมคะ ขายไม่แพง คู่ล่ะสองร้อยบาทค่ะ นกพันธุ์นี้น่ารักนะคะ เลี้ยงง่ายด้วย”
“น่ารักจริงๆ นั่นแหละค่ะ”
ลันล์ลลินมองนกสีสวยด้วยสายตาละห้อย เธอชอบนกมาก แต่ก็ไม่อยากซื้อพวกมันไปเลี้ยง นั่นก็เพราะเคยมีความหลังกับสัตว์ชนิดนี้
“พันธุ์อื่นก็มีนะคะ ถ้าชอบนก ข้างในมีอีกเยอะเลย”
แม่ค้าพยายามชี้ชวน เธอยังคงมองนกเลิฟเบิร์ดอย่างสนใจ เธอชอบทั้งหน้าตา และสีสันของพวกมัน รวมถึงการดำเนินชีวิตของพวกมันอีกด้วย
นกเลิฟเบิร์ด เป็นนกที่ชอบอยู่กันเป็นคู่ และขี้เล่น เสน่ห์ของมันคือความฉลาดและแสนรู้ อายุเฉลี่ยโดยประมาณเกือบยี่สิบปีถ้าดูแลเลี้ยงดูดีๆ เธอชอบนกพันธุ์นี้เป็นพิเศษ เพราะอดีตในวัยเยาว์ ลันล์ลลินก็มีเจ้านกตัวนี้อยู่คู่หนึ่ง เป็นของขวัญวันที่เธอสอบเข้าโรงเรียนมัธยมที่บิดาอยากจะให้เรียนได้สำเร็จ เธอรักพวกมันมาก ร้องไห้แทบขาดใจเมื่อแมวพเนจรมาขโมยนกตัวเมียไปกิน และต่อมาไม่นานนกตัวผู้ก็ตรอมใจตาย
ชะตากรรมของพวกมันช่างคล้ายกับครอบครัวเธอยิ่งนัก...ลันล์ลลินมองเจ้านกพวกนั้นอีกครั้ง ก่อนจะก้าวออกมาจากร้านสัตว์เลี้ยง เดินเล่นไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมายในตรอกย่านร้านค้าแห่งนี้ พลันนึกเรื่องราวในความทรงจำของตนไปด้วย เมื่อผู้นำครอบครัวจากไป ไม่นานนักบ้านก็แทบไม่ใช่บ้าน มารดาเธอมองหาผู้ชายคนใหม่เพื่อให้มาแทนที่บิดา นั่นก็เหมือนกับพามหันตภัยเข้ามาสู่ครอบครัวพรสุริยะ
สิทธิพล เดชชานนท์ ผู้ชายที่อ่อนวัยกว่า มีเสน่ห์ร้ายกาจมากมาย แพรวพราว จนทำให้ลลิตาตกหลุมรักเข้าอย่างจัง ยอมให้เขามาแทนที่ธเนศ และไว้ใจว่าเขาจะเป็นที่พึ่งพิงของเธอและบุตรสาวที่ขณะนั้นมีวัยเพียงยี่สิบปี แต่เมื่อแต่งงานกับลลิตาเพียงไม่ถึงครึ่งปี ลลิตาก็เสียชีวิตไปในอุบัติเหตุอันแสนจะมีเงื่อนงำ และเขาก็เข้าครอบครองกิจการทั้งหมดของธเนศซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และร้ายไปกว่านั้น เขาหวังจะครอบครองสาวน้อยวัยขบเผาะ งดงามน่ารัก ที่เปรียบเสมือนดอกไม้ใกล้มืออย่างลันล์ลลินด้วย!
หากแต่เหมือนกับมีมือเทวามาช่วยเธอไว้ จากภัยร้ายของพ่อเลี้ยงแสนเลว ชายชรานามว่าคงไคย ก้าวเข้ามาในชีวิตของสาวน้อยที่กำลังเคว้งคว้างจะหวาดกลัว เธอกำลังจะถูกขับไล่ไสส่งของจากบ้านของตัวเอง และถูกชายร้ายกาจนั่นริบเงินทุกบาทที่มี คงไคย เพรสตั้น เป็นเพื่อนกับคุณตาของเธอ และท่านได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดจากพรพลซึ่งเป็นอัมพาตครึ่งซีก พรพลฝากฝังลันล์ลลินไว้กับเพื่อนรักของตน นั่นมันก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกนัก เพราะคงไคยได้ช่วยเหลือสาวน้อยไว้ตามที่รับปากไว้กับพรพล ก่อนที่จะเสียชีวิตลงต่อจากบุตรสาวไม่นานนัก เขาซื้อบ้านคืนมาให้ลันล์ลลิน พร้อมกับเรียกร้องขอมรดกบางส่วนคืนมาให้สาวน้อยไว้ได้ แลกกับเงื่อนไขเพียงข้อเดียว คือการแต่งงานกับหลานชายของเขา คมอธิป เรย์ เพรสตั้น
งานแต่งงานถูกจัดขึ้นทันที ลันล์ลลินผู้เหลือเพียงทางรอดเดียวตอบตกลง เธอเห็นเจ้าบ่าวของตนในวันแต่งงานนั่นเอง และคืนนั้น เจ้าสาวจำยอมก็ถูกกระทำย่ำยีเพราะแรงโทสะของอีกฝ่าย ที่ถูกริดรอนอิสระภาพ ถูกกีดกันจากคนรัก เขาระบายทุกสิ่งลงกับเรือนร่างบอบบางของแม่สาวน้อยหน้าหวาน ที่คมอธิปประนามเจ้าหล่อนไปแล้วว่าหิวเงิน! ข้อมูลที่เขารับรู้มันทำให้เขาคิดแบบนั้น เพราะผู้เป็นปู่บีบบังคับให้เขาแต่งงานกับแม่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้ และวันต่อมาหลังจากจดทะเบียนสมรสกับเจ้าสาว โดยไม่ยอมมองหน้าเจ้าหล่อนแม้เพียงแวบเรียบร้อย เขาก็บินจากไปทันที ทิ้งลันล์ลลินให้อยู่กับความรู้สึกที่เฝ้าหลอกหลอน กับการกระทำอันแสนเลวร้ายของสามีชั่วคืน
มือเรียวยกขึ้นลูบใบหน้า ที่มีเหงื่อผุดซึมขึ้นมา การคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ มันทำให้ความทรงจำเลวร้ายผุดพราว ลันล์ลลินส่ายหน้าช้าๆ แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ราวกับจะเรียกสติ และพลังให้ตนเอง หญิงสาวมองนาฬิกาที่ข้อมือ แล้วก็นึกสงสัย ว่าวันนี้แปลกนักที่ไม่มีโทรศัพท์ดังมาเลย ทั้งที่ปรกติจะมีบ้าง อีกอย่างวันนี้เธอเองก็ออกมาทำงานทั้งวัน เลยแทบไม่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู หรือเล่นพวกโซเชียลต่างๆ เหมือนทุกวัน
“อ้าว ปิดมือถือหรือนี่เรา ตายล่ะ...มิน่าล่ะทำไมถึงไม่มีใครโทรมาเลย”
เธอบ่นพึมแล้วรีบเปิดโทรศัพท์ จริงดังคาดมีหลายสายโทรมาหาเธอและฝากข้อความไว้ ลันล์ลลินหยุดเดินตรงหน้าร้านขายเบอเกอรี่และเครื่องดื่ม ที่ตกแต่งไว้อย่างน่ารัก หญิงสาวเดินเข้าไปในร้าน สั่งกาแฟเย็นและเค้กมารับประทาน พร้อมกับนั่งโทรศัพท์ตามหมายเลขที่มีคนฝากข้อความทิ้งไว้ไปด้วย
“ขอบคุณมากนะคะ ลันขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ พอดีติดลูกค้า ยังไงจะนัดเข้าไปดูบ้านวันอาทิตย์หน้านะคะคุณวิ ขอบคุณมากๆ ค่ะ”
มือเรียวจดนัดหมายของตนไว้ในสมุดบันทึกเล่มเล็กไปด้วย การทำงานแบบฟรีแลนซ์มีอิสระก็จริง แต่ก็ต้องมีวินัยและจัดสรรเวลาให้ลงตัว ไม่อย่างนั้นจะขาดความน่าเชื่อถือไปได้ การที่เธอมีลูกค้ามาไม่ขาด ก็เพราะปากต่อปากกันว่าหญิงสาวทำงานดี กำหนดส่งงานแน่นอน จึงทำให้ลูกค้าพอใจ และขจรขจายชื่อเสียงให้เธอไปด้วยอีกทางหนึ่ง
“ตายล่ะยัยลัน เกือบไปแล้วนะเรา”
หญิงสาวถอนหายใจ พร้อมกับทบทวนงานอีกสามชิ้นที่ได้มาไปด้วย ว่าต้องไปที่ไหนอย่างไรบ้าง มือเรียวหยิบกาแฟขึ้นมาจิบ คิ้วขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นเบอร์แปลกโทรซ้ำๆ หาเธอเกือบสามสิบครั้ง แต่ไม่ได้ฝากข้อความอะไรไว้
“เอ...เบอร์ใครกันนะ โทรมาขนาดนี้ มีเรื่องด่วนหรือเปล่า แต่แปลกจัง ถ้าเป็นลูกค้าก็น่าจะฝากข้อความไว้ หมายเลขแบบนี้ เหมือนเบอร์ต่างประเทศเลยแหะ จะว่าโทรผิดก็ไม่น่าจะใช่”
ลันล์ลลินลังเลที่จะติดต่อกลับอีกฝ่ายนัก แล้วก็ตัดสินใจว่าจะไม่โทรกลับไป เพราะเป็นเบอร์ของต่างประเทศ เธอไม่ได้มีธุระรู้จักใครที่อยู่ต่างบ้านต่างเมืองนี่นา คิดได้แล้วก็วางโทรศํพท์ลง ก่อนจะสนใจกับเค้กตรงหน้าแทน
หญิงสาวนั่งอ่านหนังสือเล่มเล็กที่เพิ่งจะซื้อมาและติดไว้ในกระเป๋า พร้อมกับรับประทานของว่างยามบ่ายอย่างเพลินๆ พอท้องตึงแล้วก็เริ่มง่วงจนต้องปิดปากหาว เพราะฝันบ้าๆ นั่นแหละ ทำให้เธอนอนไม่พอ ลันล์ลลินลุกขึ้นแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์ เพื่อจะจ่ายเงินค่ากาแฟและเค้กของเธอ หนังสือที่หนีบไว้ตรงซอกแขนกลับร่วงหล่นลงจนเธอต้องก้มลงเก็บ แล้วก็รีบร้อนลุกขึ้นมา โดยไม่ทันมองว่ากำลังมีคนเดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆ เธอ ทำให้หญิงสาวปะทะเข้าอย่างจังกับร่างหนานั่น จนถึงกับเซ
“Dam!”
เสียงสบถเป็นภาษาอังกฤษดังขึ้น พร้อมกับมือแข็งแรงที่คว้าแขนเธอไว้ทัน ก่อนที่ลันล์ลลินจะร่วงไปกองกับพื้น แรงชนนั่นเหมือนกับเธอชนเข้ากับกำแพงยักษ์อย่างไรอย่างนั้น นัยน์ตากลมโตมองคนที่ช่วยเธอไว้ และเมื่อเห็นใบหน้าคร้ามคมนั่นถนัด ลันล์ลลินถึงกับเบิกตาค้าง ร่างแข็งเกร็งอย่างตกใจสุดขีด
“กรี๊ด!”
“ห่าอะไรกันวะ”
เจ้าของเสียงสบถอุทานอย่างตกใจ เมื่อจู่ๆ แม่สาวตัวเล็กจอมซุ่มซ่าม ที่ลุกพรวดพราดขึ้นมาชนเขาอย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ พอเห็นหน้าเขาเข้าเท่านั้น เจ้าหล่อนก็ร้องกรี๊ดดังลั่นร้าน แล้วก็สลบไปเสียดื้อๆ
นี่มันบ้าอะไรกันวะ!
คมอธิปถอนใจอย่างหงุดหงิด เมื่อประคองร่างนุ่มนั้นไว้ในอ้อมแขน เสียงร้องของเธอเรียกความสนใจของคนทั้งร้าน เจ้าของร้านที่เป็นเพื่อนของเขารีบวิ่งออกมาดูเหตุการณ์อย่างรวดเร็ว แล้วให้คมอธิปอุ้มพาเจ้าหล่อนไปที่หลังร้านเพื่อทำการปฐมพยาบาล
การมาตามหายัยเด็กนั่น มันทำให้เขาวุ่นวายมากเสียจริงๆ อุตสาห์ลืมไปได้ตั้งหลายปี เจอะเจอกันคราวนี้เขาจะหย่าเสียให้รู้แล้วรู้รอด เสียเงินเท่าไหร่ก็ช่างหัวมันแล้ว เขาอยากจะซื้ออิสรภาพให้แก่ตัวเองเสียที