บทที่ 1-1
เสียงเพลงงานแต่งงานดังขึ้นแว่วหวาน ร่างบางเพรียวเล็กในชุดสีขาวสะอ้านหรูหราราวเจ้าหญิง กำลังเดินเคียงข้างกับชายหนุ่มร่างสูง เขาสูงมากจนเธอต้องแหงนเงยมอง นัยน์ตากลมใสราวตากวางที่ไหวระริกด้วยความตื่นเต้น จดจำได้เพียงเสี้ยวหน้าคมคร้ามของเจ้าบ่าวที่เธอเกาะแขนอยู่ เขาเซน้อยๆ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่กินเข้าไปเป็นจำนวนมาก ก่อนมาเข้าพิธี พิธีวิวาห์ที่น่าจะหวานชื่นนัก หากเขาและเจ้าสาวที่ควงคู่มานี่ ไม่ใช่คนแปลกหน้าของกันและกัน
“มานี่!”
เสียงขู่ตะคอกดังขึ้น เมื่อเขาและเธอได้อยู่กันสองต่อสอง ร่างบางถูกกระชากเข้าไปในอ้อมแขนอันอุ่นร้อน แสนหยาบคาย มือหนาหนักนั่นฉีกทึ้ง กระชากเสื้อผ้าชุดเจ้าสาวแสนสวยออกจากตัวเธอ นัยน์ตาคมกริบกราดเกรี้ยว มองจ้องเธอ พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ฟังระคายหู แต่ประโยคต่อมานั้นระคายใจเธอเสียยิ่งกว่า
“อยากเป็นเมียฉันนักใช่ไหม? นังเด็กร้ายกาจ มา! ฉันจะทำให้เธอกลายเป็นสะใภ้ของเพรสตั้น แล้วฉันจะไม่แตะต้องเธออีกเลย!”
“กรี๊ด!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากปากอิ่ม เหงื่อกาฬไหลริน นัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ หัวใจเต้นกระหน่ำแรงเร็วด้วยความหวาดกลัว ก่อนที่ร่างบางจะสั่นขึ้นทั้งเนื้อทั้งตัว หยาดน้ำตาร่วงเผาะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ภาพที่ปรากฏขึ้นในสายตา กลับกลายเป็นภาพห้องของเธอ ไม่มีใคร ไม่มีผู้ชายคนนั้น ไม่มีมือร้ายกาจที่พรากพร่าทำลายเธอ!
“ฝัน เราฝันไป ลัน มันจบลงแล้ว”
เสียงหวานเอ่ยสะอื้นปลอบตัวเอง ก่อนจะหลับตาพริ้มลง ปล่อยให้น้ำตาไหลรินลงมาเป็นสาย นานเท่าไหร่แล้วหนอ ที่เธอไม่ได้ฝันร้ายแบบนี้ หนึ่งปีเต็มๆ แล้วที่เธอ ‘เกือบ’ จะลืมมันลงไปได้ แต่ก็แค่เกือบเท่านั้น ตราประทับที่เจ้าบ่าวของเธอได้กระทำไว้ มันช่างฝังใจล้ำลึกเสียจริงๆ
ลันล์ลลินผุดลุกขึ้นนั่ง เมื่อร้องไห้ได้สักครู่ มือน้อยปาดน้ำตาออกจากแก้มนวล ก่อนจะสบัดศรีษะแรงๆ พร้อมกับถอนใจเฮือกใหญ่ เธอลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวเนื้อนุ่มมาไว้ในอ้อมแขน เดินก้าวเข้าไปในห้องน้ำ เงาสะท้อนที่เห็นจากกระจก ทำให้นึกตำหนิตัวเอง ที่ดันมาฝันร้ายเข้าในวันทำงานแบบนี้ ตาแดง จมูกแดง หมดสวยกันพอดีสิน่า
เธอย่นจมูกให้กับเงาสะท้อนในกระจก พลางหัวเราะน้อยๆ เหมือนจะประชดตัวเอง นี่คงจะฝันร้ายจนชินแล้วหรืออย่างไรหนอลันล์ลลินเอ๋ย...ความหลังฝังใจไม่น่าจดจำสินะ แต่เธอกลับจำมันล้ำลึกจนน่าโมโห ทั้งที่ป่านนี้ ‘เจ้าบ่าว’ ของเธอคงจะลืมเธอไปแล้วกระมัง
น้ำเย็นๆ พร่างพรมลงมาตามร่างกาย ทำให้สดชื่นขึ้นมาได้บ้าง ลันล์ลลินอาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยแล้ว ก็เร่งแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าทะมัดทะแมง คือเสื้อเชิ้ตพอดีตัวสีฟ้ากับกางเกงขายาวสีครีมเข้ารูป เน้นเรือนร่างงดงามของเจ้าตัว เรือนผมดำมันยาวถึงสะโพก ผูกมัดง่ายๆ เป็นหางม้าเปิดอวดใบหน้าเนียนหวาน
“ต้องโป๊ะคอนเซเลอร์ช่วยนิดหนึ่งสิเรา ฝันบ้าๆ นั่นแท้ๆ”
เสียงหวานบ่นพึมพำ นัยน์ตากลมโตมองเหลือบดูนาฬิกาข้อมือ แล้วทำตาโตเมื่อใกล้เวลานัดหมายเข้าไปแล้วทุกที หญิงสาวเร่งมือแต่งหน้า ก่อนจะมองความเรียบร้อยของตัวเองอีกหน มือเรียวคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพาย อีกมือหนึ่งหอบแฟ้มขึ้นมาในอ้อมแขน ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงมาจากชั้นสองของบ้าน
“คุณลันคะ อาหารเช้า...”
เสียงทักทายดังขึ้น เมื่อได้ยินเสียงวิ่งลงบันไดมาของเจ้าของบ้าน ลันล์ลลินตอบโดยที่ไม่มองหน้าคนทัก เพราะเจ้าตัวมัวแต่เร่งรีบ
“วันนี้ลันงดค่ะ ป้าสาย ต้องรีบไปทำงานแล้ว แต่เย็นนี้จะกลับมากินมื้อเย็นด้วยนะคะ ป้าสายทำต้มปลาทูสายบัวให้ลันด้วยนะคะ อยากกินมากๆ”
“ค่ะ...อ้าว...ไปเสียแล้ว”
สายทิพย์ยังไม่ทันตอบจนจบประโยค คนสั่งก็เดินหายออกไปจากตรงนั้นเสียแล้ว แล้วก็ได้ยินเสียงรถแล่นออกไปจากบ้านอย่างรวดเร็ว นางได้แต่มองตามแล้วก็ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะกลับเข้าครัวไปทำงานเล็กๆ น้อยๆ ที่ยังค้างไว้ของตนเองต่อ
เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น หลังจากที่สายทิพย์กำลังลงมือหั่นผัก เตรียมทำมื้อกลางวันง่ายๆ ของตนได้ไม่ถึงห้านาที นางละมือจากงานตรงหน้าแล้วเดินไปรับสาย เสียงทุ้มของคนปลายสายกล่าวทักทายเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้สายทิพย์ถึงกับขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะตอบตะกุกตะกัก
“ค่ะ...เอ่อ...คือว่า...”
“sorry... เอ่อ…ขอโทษครับ ที่นี่บ้านคุณลันล์ลลินใช่ไหมครับ ขอผมพูดสายกับเธอด้วยครับ”
“คุณลันออกไปทำงานน่ะค่ะ คงจะกลับมาช่วงค่ำ”
“ผมรบกวนขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเธอได้ไหมครับ มีธุระสำคัญมากที่ต้องติดต่อเธอ”
สายทิพย์ลังเลนิดหนึ่ง นางต้องสอบถามอีกฝ่ายให้แน่ใจก่อนว่าเป็นใคร ถึงจะกล้าให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของลันล์ลลิน
“ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรจะติดต่อกับคุณลันหรือคะ ฝากชื่อไว้ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าจะให้เธอติดต่อกลับไปเอง”
“ผมอยากจะคุยกับลันล์ลลินเองมากกว่าครับ” ปลายสายเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เมื่อกล่าวประโยคต่อมา
“ผมชื่อ คมอธิป เป็นสามีของเธอ”
“หา!”
สายทิพย์ถึงกับอุทานอย่างตกใจ เมื่อได้ยินดังนั้น ชายผู้กล่าวอ้างว่าเป็นสามีของเจ้าของบ้านสาว เอ่ยต่อไปเสียงห้วนอย่างคนใจร้อน
“ให้เบอร์โทรศัพท์ของภรรยาผมมาได้หรือยัง?”
“คือว่า...”
แม่บ้านสูงวัยอ้ำอึ้ง ก่อนจะเผลอพลั้งปากบอกเบอร์โทรศัพท์ของลันล์ลลินออกไป เมื่อทางนั้นเอ่ยเสียงเกือบจะเป็นตะคอกนาง
“ตายล่ะ เผลอบอกออกไปแบบนั้น ถ้าเกิดเป็นคนไม่ดีจะทำยังไงกันนะ คุณลันมีสามีที่ไหนกัน เราต้องรีบโทรศัพท์บอกไว้ก่อนล่ะ แย่จริงๆ นังสายเอ๊ย!”
นางยกมือทาบอก เมื่อวางสายไปแล้ว ก่อนจะพยายามโทรศัพท์หาลันล์ลลินแต่ก็ไม่ติด เพราะทางนั้นใช้สายอยู่ แต่แล้วก็มีสิ่งมาดึงความสนใจจากสายทิพย์ไปเสีย จนนางไม่ได้โทรศัพท์ไปเตือนนายจ้างตามที่ได้ตั้งใจไว้ นั่นก็คือเพื่อนบ้านข้างเคียง ที่มาเกาะรั้วชวนคุยเรื่องหวยเข้าเสียก่อน และมัวแต่ทำงานบ้านจนลืมเลือนไปเสีย
สายทิพย์ไม่รู้เลยว่าตนเอง ได้ก่อความยุ่งยากให้กับนายจ้างสาวเข้าเสียแล้ว ที่ไม่ได้บอกกล่าว ถึงการมาของสามีของเธอ อย่างคมอธิป เรย์ เพรสตั้น