ตอนที่ 7 : รั้น 4
“เรื่องอื่นตาทำเป็นไม่เห็นได้นะแทน แต่เรื่องนี้ยังไงตาก็ไม่ยอม” ผู้เป็นตาหยิบรูปถ่ายใบหนึ่งขึ้นมา เป็นใบที่มีการซื้อขายสิ่งผิดกฎหมาย
“ตาไม่ยอมอะไรคะ” นับดาวเดินมาด้านหลังอย่างเงียบ ๆ ทั้งสามหันไปมองอย่างตกใจ จนไม่ทันได้เก็บรูปที่กระจายไว้บนโต๊ะ
“หยุดเลยพี่แทน เห็นอยู่โทนโท่จะปิดทำไม” หญิงสาวรีบห้ามพี่ชายตัวเอง ที่กำลังจะกวาดรูปบนโต๊ะเข้าหาตัวเอง
“เทียนพี่ว่า”
“เอามานี่ค่ะ เทียนอยากรู้ว่านี่มันรูปถ่ายอะไรกัน” หญิงสาวเดินเข้าไปหยิบรูปทั้งหมดขึ้นมาคลี่ดูทีละใบ อาการเหมือนคนหัวใจสลาย เพราะมีรูปของเพชรกล้า เดินออกมาจากโรงแรมกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า อีกทั้งยังมีรูปการซื้อขายสิ่งผิดกฎหมายอีกด้วย
“พี่แทนให้คนตามถ่ายพี่เพชรมาเหรอคะ” นับดาวมีอาการคล้ายคนกำลังช็อกกับเรื่องที่เพิ่งได้รู้
“เทียนจำได้ไหมที่พี่เคยบอกว่า ไอ้เพชรมันไม่ใช่คนดี คราวนี้พี่มีหลักฐานด้วยนะ” นำทัพพูดไปก็สังเกตสีหน้าของน้องสาวไปด้วย เขากลัวเหลือเกินว่าความจริงเรื่องนี้ จะทำน้องสาวของเขาหัวใจแหลกสลาย
“เทียน !” ทุกคนลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ เมื่อนับดาววิ่งออกจากบ้าน แล้วขับรถที่นายพิทักษ์เพิ่งซื้อให้ เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อสองเดือนก่อน ออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องตามไปหรอกแทน ปล่อยน้องไปเถอะเราทำอะไรไม่ได้แล้ว บางทีเราคงต้องให้เทียนเรียนรู้เรื่องนี้ด้วยตัวเองบ้าง” นางพิไลดึงข้อมือลูกชายไว้ เหมือนคนพยายามทำใจกับเรื่องนี้
“ผมเป็นห่วงน้องครับแม่”
“แม่รู้แต่ว่าทุกครั้งที่เราเป็นห่วง ผลที่ได้มันตรงกันข้ามเสมอนะแทน” แววตาของนางพิไลเศร้าลงถนัดตา ยามนึกถึงเรื่องราวของลูกสาวในอดีตที่ผ่านมา
“ก็ได้ครับแม่”
ด้านนับดาวที่ขับรถตรงไปหาคนรัก ที่บ้านของเจ้าตัวนั้น ต้องหัวใจสลายเมื่อเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง สวมเสื้อยืดของเพชรกล้า เดินไปมาภายในบ้านของเขา นับดาวปรี่เข้าไปตบหน้าผู้หญิงคนนั้นในทันที
“เพียะ ! อีหน้าด้าน”
“อะไรของเธอนี่ ปล่อยนะ ! พี่เพชร ๆ ๆ ช่วยแนนด้วย” จันดาแผดเสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บ
“อ๋อชื่อแนนนี่เอง อีแนน ! อีไร้ยางอาย ผัวคนอื่นก็ไม่เว้น” นับดาวจิกหัวด่าทออย่างบ้าคลั่ง
“ผัวเธอที่ไหนกัน พี่เพชรเขาบอกว่าเขาโสด โอ๊ย !” คนถูกกระชากผมถึงกับโอดครวญออกมาดัง ๆ
“โสดบ้านพ่อมึงสิ ! กูนี่แหละเมียไอ้พี่เพชร”
“พอได้แล้วน้องเทียน !” เพชรกล้าวิ่งลงมาจากบันได ในสภาพกางเกงนอนแค่ตัวเดียว เห็นจันดาถูกทำร้ายร่างกายก็ตกใจเป็นอย่างมาก
“ทำไมพี่เพชรทำแบบนี้กับเทียนละคะ” แววตาของคนพูดบอกถึงความเจ็บปวดอย่างรวดร้าว ก่อนจะกระชากเส้นผมของจันดาลงจนสุดแรง
“โอ๊ย ๆ เจ็บพี่เพชรช่วยแนนด้วย”
“ปล่อยแนนได้แล้วน้องเทียน” เพชรกล้าตรงเข้าไปดึงตัวของจันดา ออกจากมือของนับดาวอย่างรวดเร็ว ซึ่งหญิงสาวก็รีบไปแอบอยู่ด้านหลังอย่างหวาดกลัว
นับดาวมองคนรักของตนเอง ที่ตอนนี้กำลังปกป้องผู้หญิงคนอื่น ด้วยความทุกข์ทรมานใจ หญิงสาวเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวร้องไห้ อารมณ์แปรปรวนไปมา
“ทำไมคะ พี่เพชรไม่รักเทียนแล้วเหรอคะ” หญิงสาวเอียงหน้าถามเขา ริมฝีปากฝืนยิ้มแต่ดวงตาแข็งทื่อ เหมือนคนไร้วิญญาณ
“ตอบสิคะ ไม่รักเทียนแล้วเหรอ !”
“รักไม่ลงโว้ย ! คนบ้าอะไรผีเข้าผีออกอยู่ตลอดเวลา ไหน ๆ เรื่องมันก็มาถึงจุดนี้แล้ว เอาเป็นว่าเราเลิกกันเถอะน้องเทียน”
“กรี๊ดดดด กรี๊ด ๆ ๆ” นับดาวกรีดเสียงร้องเหมือนคนถูกทำร้ายร่างกายอย่างสาหัส หญิงสาวทึ้งเส้นผมตัวเองไปมา พร้อมทุบตีตัวเองอีกด้วย
“พี่เพชรเหมือนคนบ้าเลย” จันดากระซิบบอกเพชรกล้าเบา ๆ
“ฮื้อ ๆ ๆ ฮ่า ๆ ๆ ” ยิ่งผวากลัวหนักกว่าเดิม เพราะนับดาวร้องไห้ไปหัวเราะไปด้วย
“คนบ้าดี ๆ นี่แหละ ใครจะไปอยู่ด้วยได้” เพชรกล้าก็ระแวงว่านับดาวจะมาทำร้ายเขากับจันดา
“อีแนนมึงดูนี่ มึงดู นี่ด้วย ๆ อีหน้าโง่ ! ฮ่า ๆ ๆ ๆ” นับดาวหยิบรูปถ่ายในกระเป๋าออกมาปาใส่หน้าทั้งคู่ พร้อมกับหัวเราะเยาะจันดาเสียงดังลั่นบ้าน
“พอได้แล้วน้องเทียน ถ้าอยากจะบ้ากลับไปบ้าที่บ้านของตัวเองโน่น ไม่ใช่ที่นี่” เพชรกล้ารีบลากตัวคนสติแตก ให้ออกจากหน้าบ้านไป โดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องที่ดังไปทั่ว เขาสุดจะทนกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปมาของนับดาวได้อีกต่อไป แรก ๆ ก็น่ารักอ่อนหวานอยู่หรอก พอเริ่มออกอาการหึงหวง จากนางฟ้าก็กลายร่างเป็นนางมารในทันที บทจะดีก็ดีจนน่าตกใจ บทจะร้ายก็ด่าทอดูถูกกันจนแทบทนฟังไม่ได้
“พี่เพชรคะ รูปพวกนี้มันอะไร” จันดาเรียกชื่อคนที่เพิ่งเดินเข้าบ้านมา พร้อมกับเบนสายตาลงบนพื้น เพชรกล้ามองตามสายตาของคนรัก ก่อนจะถอนหายใจออกมาหนัก ๆ
“แนนหนักแน่นหน่อยสิ น้องเทียนเขาหึงจนขาดสติไปแล้ว แนนยังจะมาหาเรื่องพี่อีกคนเหรอ”
“แนนไม่ได้หาเรื่องพี่เพชรค่ะ แต่แนนกำลังถามว่ารูปพวกนี้มันคืออะไร !” หญิงสาวชี้นิ้วลงพื้น มองหน้าเขาอย่างผิดหวัง
“แนน” เพชรกล้าทำเสียงเหมือนรำคาญใจ ดูเหมือนเรื่องส่วนตัวของเขา ถูกนับดาวสอดส่องไม่ให้คลาดสายตา ช่างเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจจริง ๆ
“ว่ายังไงคะพี่เพชร แนนอยากรู้ค่ะ ว่าพี่เพชรคบซ้อนคบซ่อนผู้หญิงพวกนี้กับแนนหรือเปล่า” จันดาเสียงเครือเพราะคิดว่าเขาจริงใจกับเธอแค่คนเดียว แต่หลักฐานบนพื้นก็ชัดเจนจนเมินผ่านไม่ได้
“พี่ ไม่”
“อย่าโกหกแนนสิคะพี่เพชร”
“ก็ได้ ๆ แต่แนนใจเย็น ๆ ก่อนนะ พี่จะเล่าให้ฟังก็ได้” เพชรกล้าหาทางออกไม่ได้ เลยต้องยอมพูดความจริงออกมา
“แนนรอฟังอยู่ค่ะ” หญิงสาวเร่งเมื่อเขายังไม่เปิดปากพูดต่อในทันที
“แนนรู้ใช่ไหมว่าพี่ทำงานในผับ ต้องเจอผู้หญิงมากหน้าหลายตา เจ้าของผับเขาเสนอให้เงินเดือนพี่เพิ่ม ถ้าพี่เรียกแขกพิเศษ ๆ เข้าร้านได้” เล่าแล้วก็ชะงักเพื่อดูสีหน้าอีกคนก่อน
“คืออะไรคะ คำว่าพิเศษของพี่เพชร”
“ก็เน้นสวย ๆ รวย ๆ เพื่อนเยอะ จะได้บอกปากต่อปากกันไป พี่เลยต้องทำเป็นคนเจ้าชู้กับลูกค้าสาว ๆ น่ะ ให้เขาติดใจกลับมาใช้บริการอีก” ชายหนุ่มเล่าแบบผ่าน ๆ ไม่ลงรายละเอียดลึก
“แนนคือหนึ่งในนั้นใช่ไหมคะพี่เพชร” จันดาเข้าใจในทันที ว่าเขากับลูกค้าสาว ๆ เหล่านั้น ไม่ได้เรียกแขกปกติทั่วไปแน่ เพราะเธอก็คือหนึ่งในนั้นเหมือนกัน
“ไม่ใช่ แนนคือว่า เอ่อ แนนไม่เหมือนคนอื่น” ไม่รู้จะหาคำพูดไหนมาอธิบายให้จันดา เข้าใจความจริงที่ซับซ้อนนี้ได้ แต่เพชรกล้าก็ยอมรับว่าจันดาพิเศษกว่าคนอื่นจริง ๆ พิเศษมากจนทำให้เขายอมทิ้งนับดาวมาได้
“อย่างนั้นเหรอคะ” หญิงสาวทำท่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“กับผู้หญิงคนอื่นมันจบไปแล้วแนน ตอนนี้พี่มีแนนคนเดียวจริง ๆ นะ แนนก็อยู่บ้านพี่มาหลายเดือน เห็นพี่ไปค้างที่อื่นเหรอ รูปที่น้องเทียนให้คนมาแอบถ่ายพี่ มันเป็นรูปเก่า ๆ นานแล้วด้วย” คำแก้ตัวของเพชรกล้าเชื่อถือไม่ได้ แต่จันดานั้นหลังรักเขาจนถลำลึกลงไปแล้ว หญิงสาวพยายามหลอกตัวเองว่าเขารัก
“แนนเชื่อพี่นะ” เพชรกล้าอ้าแขนออกทั้งสองข้าง
“เฮ้อ ก็ได้ค่ะ แต่พี่เพชรแนนกลัว” จันดาเดินเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มในทันที ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ได้
“เห็นแล้วใช่ไหมว่าทำไมพี่ ถึงทนผู้หญิงคนนั้นไม่ได้” ชายหนุ่มลูบต้นแขนคนในอ้อมกอดเบา ๆ
“ค่ะแนนเห็นแล้ว” จันดาเห็นแล้วว่าอาการโกรธของนับดาวนั้น อยู่ห่างไกลจากคำว่าคนปกติทั่วไป
ส่วนคนที่ถูกลากออกมาทิ้งหน้าบ้าน ได้แต่นั่งนิ่งอยู่กับที่ แววตาเลื่อนลอยไปพร้อมกับจิตใจที่แหลกลาญ กระทั่งเม็ดฝนหล่นลงมาใส่หน้า นับดาวถึงได้ขยับตัวลุกขึ้นเดินโซเซไปที่รถ แล้วขับกลับบ้านไปอย่างช้า ๆ
“เทียนลูก” นางพิไลรีบหาผ้าขนหนู มาเช็ดเนื้อตัวที่เปียกปอนฝนให้ลูกสาว คนที่ตอนนี้เอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร มีเพียงหยาดน้ำใส ๆ ที่เคลือบเบ้าตาอยู่
“เทียนลูกแม่ ทำไมเป็นแบบนี้ ใครทำลูกแม่บอกแม่มาสิลูก” คนเป็นแม่ทั้งกอดทั้งปลอบ ส่วนพี่ชายกับตานั้นได้แต่มองดูเหตุการณ์ตรงหน้า แล้วหลับตาลงแน่น ๆ อย่างคนปวดใจ
นี่คือความจริงที่ทุกคนกลัวมาโดยตลอด จนแล้วจนรอดมันก็เกิดขึ้นจนได้ ทุกคนต่างรู้ดีว่านับดาวยอมรับกับความผิดหวังไม่ได้ นำทัพลุกจากที่นั่งเข้าไปกอดน้องสาวเอาไว้หลวม ๆ เขาลูบศีรษะหญิงสาวเบา ๆ
“ไม่เป็นนะเทียน ยังมีพี่มีแม่แล้วก็ตาด้วย ทุกคนรักเทียนนะ รู้ไหมคนเก่งของพี่” เขาโยกตัวน้องสาวไปมาเบา ๆ เสียงสะอื้นไห้ดังขึ้น พร้อมกับหยาดน้ำตาของนับดาวที่ไหลออกมานองแก้ม
“เทียน ฮึกฮะ..ฮรึก ขอโทษค่ะ ฮื้อ ๆ ๆ” นับดาวปล่อยเสียงร้องไห้ออกมาตรงอกอุ่นของพี่ชาย คนที่เธอไม่เคยเห็นค่าความรัก ความปรารถนาดีจากเขาเลย ทุกอย่างมันมืดบอดไปหมด เพราะคำว่ารักว่าหลงคำเดียว
“เทียนไปอาบน้ำก่อนเถอะลูก ตากลัวจะไม่สบายไปเสียก่อน พิไลพาลูกสาวไปอาบน้ำไปเถอะ” นายพิทักษ์ทนดูสภาพของหลานสาวแบบนี้ไม่ได้ ผมเผ้ายุ่งเหยิงเสื้อผ้าสกปรก เหมือนคนไปกลิ้งเล่นบนถนนมาก็ไม่ปาน
“ค่ะพ่อ ไปเถอะเทียนมอมแมมหมดแล้ว เดี๋ยวไม่สวยนะ” นางพิไลดึงมือลูกสาวให้ลุกขึ้น ไม่กล้าให้เจ้าตัวอยู่คนเดียวในห้องน้ำยามนี้
ผู้เป็นแม่ช่วยอาบน้ำให้ลูกสาว เหมือนนับดาวยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย พาขึ้นเตียงนอนพร้อมกับห่มผ้าให้อีกด้วย
“นอนเถอะลูก อย่าเพิ่งคิดอะไรไปเลยนะ” นางพิไลลูบศีรษะลูกสาวเบา ๆ ก่อนก้มลงหอมหน้าผากหญิงสาวหนึ่งที ตรงไปปิดไฟแล้วเดินออกจากห้องนอนของลูกสาวไป
ประตูห้องปิดลงคนบนเตียงก็ลืมตาโพลงในทันที ยิ่งครอบครัวบอกรัก นับดาวยิ่งรู้สึกเกลียดตัวเองหนักขึ้น และอยากหายไปจากความเจ็บปวดเสียตอนนี้ หญิงสาวไม่สามารถสลัดบางเรื่อง ที่ติดค้างอยู่ในใจออกไปได้