บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 : รั้น

2

รั้น

สามวันต่อมานับดาวได้เดินทางกลับบ้าน และทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นำทัพจึงเลือกที่จะเข้าไปคุยในห้องนอนของน้องสาวอย่างเงียบ ๆ แทน

“พี่แทนจะมาวุ่นวายกับชีวิตของเทียนทำไมคะ เที่ยวไปเที่ยวกับเพื่อนแค่นี้เอง ทำเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้” นับดาวทำเสียงหงุดหงิดใส่พี่ชายตัวเอง ไม่ได้มีท่าทีสำนึกผิดแต่อย่างใด ยิ่งทำให้นำทัพรู้สึกโมโหน้องสาวเป็นอย่างมาก

“เห็นพี่โง่เหรอเทียน ใคร ๆ ก็รู้ว่าเทียนไปกับไอ้เพชรมัน หลอกตากับแม่ได้แต่หลอกพี่ไม่ได้นะ”

“แล้วยังไงคะ นี่มันชีวิตของเทียนนะพี่แทน”

“เทียนแค่สิบแปดเองนะ ยังไม่บรรลุนิติภาวะที่จะทำเรื่องพวกนี้ได้”

“อย่าหัวโบราณไปหน่อยเลยค่ะ ถามตัวเองเหอะพี่แทน ว่าหลอกฟันสาวตอนอายุเท่าไหร่”

“นี่เทียน” ถูกน้องสาวย้อนเข้าแบบนี้ นำทัพก็ไปต่อไม่ถูกเหมือนกัน เขาผ่านการทำตัวเหลวไหลมาก่อนจริง ๆ

“อีกเรื่องค่ะพี่แทน”

“อะไร”

“ห้ามพี่แทนไปหาเรื่องพี่เพชร หรือว่าเพลินน้องสาวเขาอีกนะคะ ทำอะไรไม่ไว้หน้าเทียนเลย เทียนสมยอมไปกับเขาเอง พี่จะไปหาเรื่องเขาแล้วป่าวประกาศให้คนทั้งจังหวัดรู้ ว่าน้องสาวตัวเองแรดอย่างนั้นเหรอคะ”

“เทียน !” นำทัพตวาดใส่น้องสาวด้วยความโกรธ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้าตัวใกล้ ๆ

“พี่ไม่คิดว่าคำพูดพวกนี้ จะถูกกลั่นออกมาจากสมองของเทียนนะ” เค้นเสียงใส่อย่างคนผิดหวัง

“เทียนง่วงแล้วค่ะ เชิญพี่แทนออกจากห้องแทนไปได้แล้ว” แทนที่นับดาวจะกลัว หญิงสาวกลับเดินลอยหน้าลอยตาไปเปิดประตูห้อง อ้ากว้างรอให้พี่ชายออกจากห้องไป ก่อนหน้าถ้าเธอไม่เห็นข้อความไลน์ ที่พาเพลินส่งให้พี่ชาย เธอก็คงไม่รู้ว่าพี่ชายตัวเอง ไปหาเรื่องพวกเขาถึงที่บ้านเลยทีเดียว

นำทัพดินออกจากห้องน้องสาวมา ด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ ไม่ได้รอดพ้นสายตาจากนายพิทักษ์ผู้เป็นตา และมารดาอย่างพิไลแต่อย่างใด

“ทะเลาะกับเทียนอีกแล้วล่ะสิไอ้แทน” ผู้เป็นตาเอ่ยขึ้นหลังเห็นหลานชายเดินทำหน้าเซ็ง ๆ มาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวตรงข้ามกับตัวเอง

“เทียนดื้อน่ะตา ผมพูดอะไรก็ไม่ฟังเลย”

“ฮะ ๆ ไอ้นี่ กรรมมันตามสนองเร็วจริง ๆ ตอนแกอายุสิบเจ็ดสิบแปด ทำตากับแม่ของแกปวดหัวหนักกว่านี้อีก จำได้ไหม”

“มันผ่านมาตั้งสิบปีแล้วนะครับใครจะไปจำได้” นำทัพแกล้งความจำเสื่อมในทันที

“แค่นี้ทำเป็นลืม พิไลลองพูดมาสิมีอะไรบ้าง เผื่อไอ้แทนมันจะจำได้” นายพิทักษ์หันไปทางลูกสาวแทน

“สมัยนั้นเหรอพ่อ ก็มีไปจีบเมียชาวบ้าน จนผัวเขาเอาปืนมาไล่ยิง”

“แม่” นำทัพหันไปปรามมารดาเบา ๆ แต่ท่านกลับไม่ได้สนใจสายตาของลูกชาย ยังเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีตต่อ

“แล้วก็มีเรื่องไปชกต่อยกับชาวบ้าน ขึ้นโรงพักก็บ่อย จนเราสนิทกับสารวัตรฝุ่นเลยตอนนั้น” นางพิไลเล่าไปก็ขำไปด้วย

“แม่พอ” ลูกชายหันไปขอร้องพร้อมสายตาอ้อนวอน แต่มารดาก็ยังเล่าต่ออีก

“ตอนมอปลายก็เข้าห้องผู้ปกครองเป็นว่าเล่น นิดหน่อยก็ชวนคนอื่นทะเลาะไปทั่ว”

“พอแล้วครับแม่” คนเป็นลูกชายแทบจะทนฟังต่อไม่ได้ ห้ามมารดาเสียงดังขึ้นกว่าเดิม

“เห็นไหมว่าเทียนไม่ได้ขี้เล็บของแกเลยไอ้แทน อย่าห่วงน้องมันนักเลย” นายพิทักษ์หันไปพูดกับหลานชาย หมายจะทำให้เรื่องนี้ผ่อนคลายลงได้บ้าง

‘ตากับแม่ไม่รู้นี่ครับ ว่าเทียนไปทำอะไรมา’

นำทัพไม่กล้าพูดตรง ๆ หากทั้งคู่รู้ความจริง คงได้เครียดตามเขาไปด้วย ยิ่งนับดาวเป็นฝ่ายเต็มใจแบบนี้ด้วย เขาได้แต่ถอนหายใจออกมาแรง ๆ ไม่รู้จะห้ามน้องสาวได้อย่างไร ระหว่างนี้คงต้องดูทั้งคู่แบบห่าง ๆ ไปก่อน

เขาจำได้ว่าตอนมีคนบอกว่า น้องสาวของเขาซ้อนท้ายเพชรกล้าไปนั้น ความรู้สึกเหมือนอยากจะฆ่าหมอนั่นให้ตายคามือไปเลย ถึงขั้นบึ่งรถไปที่บ้านของอีกฝ่ายอย่างโมโห ไม่พอยังทำตัวอันธพาลใส่น้องสาวของเพชรกล้าอีกด้วย พอนับดาวโทรศัพท์มาหาเขา พูดเหมือนเขาเป็นคนไปทำลายความสุขของเธอ ทุกอย่างก็กลับตาลปัตรไปหมด นับดาวเหมือนกระแสน้ำเชี่ยวจริง ๆ ขืนเอาเรือไปขวางตอนนี้ คงได้พังไม่เหลือซาก ยิ่งตากับแม่ให้ท้ายแบบนี้ด้วยยิ่งไปกันใหญ่

“ขอตัวก่อนนะครับ”นำทัพเดินเข้าไปในห้องนอนของตนเองบนชั้นสอง เรือนไม้สองชั้นขนาดใหญ่แห่งนี้ กับอาณาจักรอันกว้างใหญ่ที่อยู่ในความดูแลของเขา มีผู้เป็นตาก่อร่างสร้างตัวไว้ให้

นายพิทักษ์ชายชราในวัยเจ็ดสิบสองปี ถือได้ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างมากในจังหวัดเล็ก ๆ แห่งนี้ ชายชราผู้นี้เป็นเจ้าของเหมืองแร่ชื่อดังประจำจังหวัด มีสวนยางพาราและสวนผลไม้ประจำท้องถิ่นอีกมากมาย และทุกอย่างก็ถูกส่งมอบให้หลานชายในวัยยี่สิบแปดปี เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง โดยมีนางพิไลคอยดูแลร่วมด้วย เมื่อก่อนนำทัพก็เหมือนนักเลงประจำท้องถิ่น กว่าจะกลับตัวเป็นผู้เป็นคนก็หลายปีอยู่เหมือนกัน นำทัพจึงรู้ว่าคนที่น้องสาวของตนไปหลงใหลได้ปลื้มนั้น มีบางอย่างไม่ชอบมาพากลอยู่

สองเดือนต่อมา ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่นำทัพห่วงจริง ๆ น้องสาวของเขาไม่สนใจไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ อย่างที่เคยคุยกันเอาไว้ในตอนแรก แต่เลือกมหาวิทยาลัยเอกชนในตัวจังหวัดแทน นายพิทักษ์กับนางพิไลเห็นดีเห็นงามด้วย เพราะจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงหญิงสาว แต่นำทัพรู้ดีว่าเหตุใดน้องสาวของเขา ถึงไม่ยอมจากบ้านเกิดไปเรียนต่อที่อื่น นั่นยิ่งทำให้พี่ชายอย่างเขา รู้สึกเป็นห่วงมากขึ้นกว่าเดิม

ชายหนุ่มลองไปใช้บริการผับที่เพชรกล้าทำงานอยู่ ซึ่งผับแห่งนี้เพิ่งเปิดบริการได้ไม่นานนัก นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาใช้บริการที่นี่ นำทัพนัดเพื่อนที่ค่อนข้างเชี่ยวชาญเรื่องท่องราตรีมาด้วย เลือกนั่งหลบมุมบนชั้นสอง เพื่อสังเกตการณ์อย่างเงียบ ๆ

“แกคิดจะทำอะไรไอ้แทน มาแอบส่องว่าที่น้องเขยรึ” อาชาเพื่อนสนิทของนำทัพเอ่ยขึ้น หลังจากเห็นเพื่อนตัวเองนั่งมองบรรยากาศรอบ ๆ อย่างสนใจ โดยเน้นคนดูแลที่นี่อย่างเพชรกล้าเป็นพิเศษ

“มันไม่มีวันได้เป็นไอ้อาร์ต” นำทัพหันมายกแก้วเหล้าขึ้นชนกับเพื่อน กริ๊ก แล้วกระดกลงคออึก ๆ

“เบา ๆ เดี๋ยวก็เมาก่อน เสียการเสียงานหมดพอดี เอาจริง ๆ มันก็ไม่ใช่คนดีอะไรหรอกไอ้เพชรนี่” อาชายกแก้วเหล้าขึ้นจิบเบา ๆ

“นั่นสิใคร ๆ ก็รู้ มีแต่น้องสาวข้านี่แหละที่โง่”

“เขาไม่เรียกว่าโง่แค่หลง ไอ้เพชรมันอายุยังน้อย แต่มันคุมผับนี่ได้ เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยนะ ดูโน่น ๆ” อาชาสะกิดนำทัพให้มองไปยังโต๊ะด้านล่าง ซึ่งเพชรกล้ากำลังเต๊าะสาวอย่างพลิ้ว ไม่ช้าสาวสวยแสนเซ็กซี่ ก็ถูกลากเข้าหลังร้านไป

“มันทำแบบนี้เป็นประจำ บางทีก็สาวใหญ่สาวน้อย แต่เน้นคนรวยไว้ก่อน ไม่งั้นมันจะมีปัญญาส่งน้องสาวไปเรียนต่อมหาลัยที่กรุงเทพฯ ได้เหรอ เสียดายข้าน่าจะรู้เรื่องนี้ก่อนจะได้เตือนแกก่อนได้”

“เดี๋ยวนะ เมื่อกี้แกว่าน้องสาวของมัน กำลังจะไปเรียนต่อกรุงเทพฯ อย่างนั้นเหรอ” เป็นเรื่องใหม่ที่นำทัพได้รู้

“ใช่น่ะสิ พอดีน้องชายข้าอยู่โรงเรียนเดียวกับน้องสาวมัน เห็นพูด ๆ กันว่ารุ่นนี้จะไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ สี่ห้าคนนี่แหละ ข้าเลยถามไปว่ามีใครบ้าง ว่าไปน้องสาวมันก็เก่งนะสอบติดมหาลัยชื่อดังซะด้วย แต่ก็นะเงินที่พี่ชายหามาให้เรียน ดันไม่สะอาดเสียด้วยสิ”

“หมายความว่าไง”

“อ้าวนี่แกไม่รู้เรื่องหรอกเหรอ”

“รู้อะไร แกอย่าพูดให้ข้างงได้ไหม รู้อะไรก็รีบบอกมา” นำทัพเร่งเมื่อเพื่อนเอาแต่ถามกลับเขาไม่ยอมเล่าในทันที

“ก็ยาไง เหมือนมันแอบขายให้เด็ก ๆ ที่มาเที่ยวผับ แค่สงสัยนะไม่รู้จริงไหม อยากรวยทางลัดล่ะมั้ง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel