ตอนที่ 2
"เป็นอะไรไปดา ทำไมจู่ๆ ก็หน้าซีดขึ้นมาล่ะ ยังป่วยไม่หายอีกเหรอ"
"เปล่าค่ะ ดาสบายดี ดาแค่คิดว่าลุงเทิดอาจจะมีงานเร่งด่วนให้ต้องสะสางก็ได้ถึงไม่ว่างแวะมาหา แล้วนี่ก็จะหกโมงเย็นแล้วด้วย คงไม่เหมาะมั้งคะถ้าจะไปหาที่บ้านตอนนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าดาแวะเอาเข้าไปให้ค่ะ"
"อะไรกันลูกคนนี้ แต่ก่อนต่อให้แม่ไม่สั่งดาก็รบเร้าจะไปเองให้ได้ วันนี้เกิดกลัวอะไรขึ้นมาถึงพยายามเลี่ยงที่จะไม่ไป หรือว่ามีเรื่องอะไรที่ยังไม่ได้บอกให้แม่รู้…เกี่ยวกับคุณเทิด”
“ไม่มีค่ะ ดาจะเอาไปให้เดี๋ยวนี้ค่ะ คุณแม่รีบไปรีบกลับนะคะ ดาเป็นห่วง”
“น่าสงสัยจริงๆ” มาลินีจ้องหน้าลูกสาวเขม็ง
เมลดาที่กำลังถูกจับพิรุธได้รีบเดินเข้าไปคว้าถุงของฝากบนโต๊ะกระจกมาถือไว้ ก่อนจะสาวเท้าฉับไวออกจากประตูไปอย่างร้อนรน แต่พอพ้นกรอบประตูกลับหยุดชะงักแล้วหันมามองมารดาด้วยสายตาสืบค้นหาความจริง
“คุณแม่ชอบลุงเทิดรึเปล่าคะ”
“หือ” ดวงตาของมาลินีโตขึ้นเล็กน้อยไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามนี้จากลูกสาว “ทำไมถึงถามอย่างนี้ล่ะ”
“ดาแค่อยากรู้เฉยๆ ค่ะ คำตอบล่ะคะ”
ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจเธอต้องเต้นแรงไม่เป็นส่ำแบบนี้ ไม่ว่าคำตอบของคุณแม่จะเป็นแบบไหนก็ไม่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย แต่ว่าถ้าคุณแม่ชอบลุงเทิดเธอจะทำยังไงดี ในเมื่อลุงเทิดบอกว่าชอบเธอ แล้วเธอจะทนเห็นคุณแม่ถูกหลอกได้อย่างไร
แต่ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรไปไกลกว่านั้น เสียงหัวเราะของคุณแม่ก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน เธอมองใบหน้านวลลออที่เผยรอยยิ้มขบขันอย่างงุนงง คุณแม่ขำเธอเรื่องอะไรกัน
“ดาไม่ควรถามคุณแม่เหรอคะ”
“เปล่าจ้ะ แม่กับคุณเทิดเป็นเพื่อนบ้านกันมานานมาก ถ้าจะรักชอบกันจริง ป่านนี้ดาคงได้พ่อใหม่ไปแล้ว อีกอย่างแม่ก็รู้สึกว่าคุณเทิดมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
“คุณแม่ไม่เป็นไรนะคะ”
“สบายมาก แม่รักพ่อของลูกคนเดียว ไม่คิดจะรักใครอีกแล้ว”
“ขอบคุณนะคะ”
เมลดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่รู้ว่าโล่งใจที่คุณแม่ไม่ได้ชอบลุงเทิดหรือไม่ได้ถูกหลอกกันแน่ โดยไม่รู้เลยว่าใบหน้าตัวเองกำลังมีรอยยิ้มเล็กๆ ฉายอยู่บนนั้น
เมลดาที่กดกริ่งแล้วไม่มีใครเดินออกมาเปิดประตูให้ก็ถือวิสาสะเปิดเข้ามาเองโดยไม่ขออนุญาต เพราะไม่มีใครอยู่ให้ขอ เธอเดินย่องเงียบเข้าไปใกล้ตัวบ้านทีละก้าวราวกับหัวขโมยที่คิดจะมาปล้นบ้านคนอื่นจนอดหัวเราะตัวเองไม่ได้ แต่ทำไงได้ถ้าจู่ๆ ลุงเทิดโผล่มากะทันหันเธอคงทำอะไรไม่ถูก ที่จริงเธอยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเขาตอนนี้
นี่ตั้งใจไว้ว่าจะรีบเอาของไปวางแล้วก็ชิ่งออกมาเลย ก่อนที่เขาจะทันได้เจอกับเธอ
วงคิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นเมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศในบ้านที่เงียบเชียบเหมือนกับไม่มีคนอยู่ แต่ประตูหน้าก็ไม่ได้ล็อคแสดงว่าลุงเทิดต้องอยู่ในบ้านแน่ๆ แต่คงอยู่ข้างบน ถ้าอย่างนั้นก็เป็นโอกาสเหมาะที่เธอจะทำตามที่คิดไว้
เมลดากัดริมฝีปากล่างด้วยความเกร็งค่อยๆ ย่องเบาเอาถุงของฝากของมารดาไปวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าโซฟาแผ่วเบาเพื่อไม่ให้คนข้างบนได้ยิน ทุกอย่างดูราบรื่นเป็นไปอย่างสวยงามไม่มีอะไรติดขัด โดยหารู้ไม่ว่ามีชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่ยืนกอดอกพิงกรอบประตูมองดูท่าทางน่าขบขันของเธอ
ไม่ว่าหนูดาจะทำอะไรก็น่ารักไปหมดจนเขาเก็บกักความต้องการที่มีต่อเธอเอาไว้ไม่ไหวแล้ว
จอมมารที่คร่าพรหมจรรย์ของแม่กระต่ายป่ากำลังย่างสามขุมเข้าไปใกล้อย่างไม่ให้สุ้มเสียง สายตาร้อนแรงจ้องมองเหยื่อสาวอย่างกลัดมัน เรือนกายร้อนระอุเต้นระริกอยากเชยชมนวลเนื้อหอมหวานที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดนักศึกษาซึ่งปกปิดความงดงามของเธอไว้ เขาอยากลิ้มลองสัมผัสเธอทั่วทั้งร่างอีกสักครั้ง