บทที่ 6 วันจบการศึกษาและย้ายบ้าน
จิ๊บ!…..จิ๊บ!…..จิ๊บ!......เสียงนกน้อยร้องเรียกวันใหม่ หญิงชราเดินขึ้นมาหยุดอยู่หน้าประตูบานหนึ่งก่อนจะเคาะมันเบาๆ เพื่อจะเรียกให้คนข้างในตื่น แต่เหมือนคนข้างในจะนอนขี้เซาไปสำหรับเช้านี้ หญิงชราจึงเปิดประตูเข้ามาแล้วเดินไปปลุกหนุ่มน้อยที่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มไม่ยอมตื่นสักที
“ตื่นได้แล้วหลาน” หญิงชราส่งเสียงเรียกหลานชายของเธอ
“ขอนอนอีกนิดนะครับ ยังเช้าตรู่อยู่เลย” เสียงขี้เซาๆ ดังออกมาจากใต้ผ้าห่ม
“ไม่เช้าแล้วนะหลาน นี่จะสายมากแล้ว วันนี้หลานต้องไป ร.ร. เพื่อรับใบจบนะ” ย่าของเขาพูดเตือน
“จริงด้วย” เคย์ร้องอุทานขึ้นพร้อมกับกระโดดตัวโหยงลุกออกจากเตียงทันทีแล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
หญิงชราหัวเราะร่าเมื่อเห็นท่าทางของหลานชายตัวเอง ที่ปกตินั้นมักจะตื่นพร้อมเธอเป็นประจำ ยิ่งช่วงหลังมานี้เธอป่วยหลานของเธอก็มักจะตื่นมาก่อนเธอเสมอ แต่วันสำคัญเช่นวันนี้หลานของเธอกลับนอนขี้เซาซะได้นี่สิ ค่อยสมกับเป็นเด็กวัยรุ่นหน่อย เธอยิ้มในหน้า
“เดี๋ยวหลานล่วงหน้าไปที่ ร.ร ก่อนนะ ย่าจะจัดการพวกของที่จะต้องย้ายไปเมื่อวานย่าจัดไว้เรียบร้อยหมดแล้ว” เธอบอกกับเคย์
“ก็ได้ครับ คุณย่ารีบตามไปนะครับ” เคย์พูดพร้อมกับโผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะพาตัวเองเดินออกมาเมื่อเขาเช็ดตัวเรียบร้อยแล้ว
เคย์มองไปที่ย่าของตนที่ยังอยู่ในห้องของเขา ที่ตอนนี้กำลังเอาเสื้อผ้าของเขาออกมาพับแล้วบรรจงเก็บลงไปในกล่องลังกระดาษช้าๆ ส่วนข้างๆ ตัวเป็นชุดนักเรียน ม.ปลาย ที่เคย์จะต้องใส่ในวันนี้เป็นวันสุดท้าย
“คุณย่าไปแต่งตัวเถอะครับเดี๋ยวผมเก็บเอง” เด็กหนุ่มบอกกับย่าของตน
“เดี๋ยวย่าก็เก็บเสร็จแล้ว หลานรีบแต่งตัวเข้า” ย่าเร่งผู้เป็นหลาน
เคย์จึงหยิบชุด ม.ปลาย ขึ้นมาและใส่มันแต่โดยดี ปล่อยให้ย่าของเขานั่งจัดและเก็บของลงลังกระดาษไป ของทั้งบ้านที่ยังเก็บไม่หมดก็มีแค่พวกเสื้อผ้าข้าวข้องเครื่องใช้ของเคย์บางส่วนเท่านั้นที่เหลือเคย์เก็บพวกมันยัดลงลังหมดแล้ว นอกนั้นของที่อยู่ภายในบ้านย่าของเขาก็จัดเก็บหมดแล้ว ที่เหลือก็แค่ย้ายออก
ปลิ้น!……ปลิ้น!…….ปลิ้น!…….เสียงแตรรถดังขึ้นที่หน้าบ้นของเขา
“คงจะเป็นรถที่จะมาช่วยเราขนของย้ายบ้าน” ย่าของเคย์พูดขึ้น
“เดี๋ยวผมลงไปดูเองครับ” เคย์ยิ้มแล้วเดินไป
หน้าบ้านเคย์เปิดประตูออกมาก็พบว่าพวกบริษัทขนย้ายที่ย่าเขาติดต่อไปนั้นมาถึงแล้ว
“สวัสดีครับพวกเรามาจากบริษัทขนขายที่ติดต่อไปครับ” หนึ่งในพนักงาน 2 คนที่มาด้วยกันพูดขึ้น ก่อนที่คนทั้งสองจะโค้งตัวลง
“สวัสดีครับ” เด็กหนุ่มโค้งตัวกับเพื่อเป็นการรับการทักทายจากพวกเขา
จากนั้นเคย์จึงปล่อยให้พวกเขาเข้ามาขนของในบ้านไปขึ้นรถ เมื่อ้ห็นย่าของเขาเดินลงมาถึงชั้นล่างแล้วและทักทายพนักงานที่มาช่วยขนของอยู่
“ผมไปก่อนนะครับย่า” เคย์พูดบอกกับย่า
“แล้วย่าจะรีบตามไปนะหลาน” ผู้เป็นย่าตอบ
“ครับ แล้วผมจะลงมารอที่หน้าประตูโรงเรียนนะครับ” เคย์ยิ้มและยกมือกึ้นโบกไปมาให้กับย่าก่อนจะรีบวิ่งออกไป
ย่าของเคย์เดินตามออกมาโบกไม้โบกมือไปมาเพื่อเป็นการส่งหลานที่กำลังรีบร้อนวิ่งออกจากบ้านไป เพราะตอนนี้สายมากแล้ว
……………………………………………………
“แฮ่ก!!.......แฮ่ก!!!!.....แฮ่ก!!!!.....”
เคย์วิ่งมาถึงหน้าประตูโรงเรียนก็ก้มลงหายใจเข้าออกด้วยความเหนื่อยหอบ
‘สะ….สายแล้ว’ เคย์คิด
‘ให้ตายสิกะว่าจะมาทัน ดันมาสายซะนี่’ คำพูดในความคิดของเขาดังขึ้นในใจ เหงือไหลเต็มหน้าและซึมไปตามเนื้อผ้าของชุดนักเรียนแต่ก็ไม่ได้ชุ่มเท่าไหร่นัก
ตอนนี้ทั้งหน้าประตูโรงเรียน ในโรงเรียนและใต้อาคารนั้นไม่มีใครอยู่เลยแต่ก็ยังได้ยินเสียงพูดคุยของเด็กนักเรียนที่มาในวันนี้ดังเสียงเซ็งแซ่มาจากในอาคารเรียนด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นอาคารเรียนของพวกปี3 เขาไม่ได้วิ่งเร็วแบบนี้มาตั้งแต่สอบเสร็จวันสุดท้ายก่อนที่โรงเรียนจะปิด เพื่อให้นักเรียนที่สอบแล้วได้ปิดเทอมเที่ยวและพักผ่อน แต่ยกเว้นพวกเด็ก ม.ปลายปี 3 แบบเขาที่ทางโรงเรียนให้หยุดพักแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้นเพื่อแก้วิชาที่สอบไม่ผ่านและพวกกิจกรรมชมรมต่างๆ ให้เสร็จสิ้น แต่เคย์นั้นเป็นข้อยกเว้น เข้าเรียนเก่งและก็ไม่ได้เข้าทำกิจกรรมชมรมแบบพวกนักเรียน ม. ปลายปกติแบบเพื่อนๆ ของเขา เพราะเคย์ให้เวลาทั้งหมดที่ว่างจากการเรียนนั้นหมดไปกับการทำงานพิเศษและการหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่าย เขาจึงไม่ค่อยมีเพื่อนในรุ่นเดียวกันมากนักแต่ก็ยังเป็นคนดังในหมู่เด็ก ม. ปลายด้วยกัน เพราะเขานั้นหน้าตาดีแถมหน้าตาหน้ารักอีกต่างหาก จนพวกสาวๆ กรี๊ดกร๊าด แถมยังเป็นที่นิยมในหมูพวกผู้ชายด้วยกันอีก รวมไปถึงรุ่นน้องด้วยเช่นกัน
เคย์เดินขึ้นบรรไดมาจนถึงชั้น 3 ซึ่งเป็นอาคารเรียนของห้อง A พิเศษและห้อง A เขาเดินก้าวไปทางระเบียงอย่างช้าๆ ตามจังหวะการก้าวของตัวเองพลางหันไปมองท้องฟ้าที่สดใสเมฆที่ลอยไปมาและต้นซากุระที่ตอนนี้ออกดอกบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมเรียกเหล่าแมลงให้บินเข้าหา บางต้นดอกก็ยังตูมๆ อยู่ผสมปนเปไปกับดอกที่บานแล้วอวดความสวยงามบนต้นของมัน สายลมอ่อนๆ พัดกิ่งซากุระไหวเอนไปมากลิ่นหอมเบาๆ ของมันมาเตะจมูกทำให้รู้สึกสดชื่นและอบอวลไปด้วยบรรยากาศของวันจบการศึกษา เขาเดินเพลินจนชนเข้ากับรุ่นน้องที่มายืนขวางทางเขาไว้เพื่อให้เคย์หยุดเดิน
“อ๊ะ……ขอโทษนะพวกเธอเป็นอะไรรึเปล่า ไม่เจ็บตรงไหนใช่มั้ย” เสียงอ่อนโยนพร้อมร้อยยิ้มน้อยๆ ของเคย์ถามออกไปเมื่อเขาชนเข้ากับรุ่นน้องชายหญิงสองคนที่เขาชนเข้า
“ไม่เป็นอะไรค่ะรุ่นพี่” เด็กหญิงรุ่นน้องพูดขึ้น
“ขอโทษด้วยครับรุ่นพี่ ฮิเดยูกิ พวกเราเรียกรุ่นพี่ไม่ทันเลยชนเข้า” เด็กชายรุ่นน้องพูดบอกเคย์ก่อนจะก้มลง
“ไม่เป็นไร พี่เองที่เดินเหม่อไปหน่อย” เคย์พยายามอธิบายที่พวกเขาสองคนก็ยังก้มตัวโค้งลงเพื่อที่จะขอโทษเขา
“พวกเราเอาดอกไม้มาติดให้ค่ะ” เสียงใสร่าเริงพูดขึ้นก่อนที่รุ่นน้องที่เป็นผู้ชายจะเอาดอกไม้ไปติดให้ที่หน้าอกของเคย์
“เรียบร้อยแล้วครับ” เด็กชายรุ่นน้องพูดขึ้นและยิ้มอย่างพอใจบนหน้า
“นี่ค่ะขนมมันจู” เด็กหญิงนุ่นน้องยื่นกล่องขนมมันจูให้เขา
“พวกเราไปก่อนนะค่ะ/ครับ” พวกเขายิ้มร่าพูดพร้อมกันแล้วเดินไป
“อืม. ขอบใจนะ” เคย์กล่าวขอบคุณรุ้นน้องที่มาติดดอกไม้ให้เขา
เคย์เดินตามระเบียงจนมาถึงหน้าห้อง A ซึ่งเป็นห้องของเขา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป เสียงพูดคุยที่ดังอย่างสนุกสนานก่อนนี้เงียบลง สายตาตกตะลึงทุกคู่หันมามองกันที่เคย์เป็นตาเดียวกัน เพื่อนๆ ในห้องทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อว่าเคย์จะมาด้วย เพราะตอนที่พวกเขามากันครบในตอนเช้านั้นขาดก็แต่เคย์คนเดียว
“ฮิเดยูกิ!!!!......!!!!!!!!” เสียงตะโกนอย่างตกใจและไม่คาดคิดของเพื่อยๆ ในห้องเรียนดังขึ้ยนอย่างพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“หวะ…..หวัดดี” เคย์ทำหน้ายิ้มแหยๆ ก่อนจะยกมือขึ้นระดับอกแล้วโบกไปมาช้าๆ ให้กับเพื่อนๆ ในห้อง
เสียงเฮ ของเพื่อนๆ ดังขึ้นระงบทั่วทั้งห้อง ก่อนที่ทุกคนจะกล่าวทักทายเคย์ตามๆ กัน
“หวัดดี/หวัดดีเพื่อน/สวัสดีจ๊ะ/ดีจ้า/โย่/โอ๊ส” เสียงทักกลับของเพื่อนๆ ในห้อง
“ไงเพื่อน” เพื่อนผู้ชายในห้องที่นั่งเกาะกลุ่มกันอยู่ที่โตะเรียนติดกับประตูหน้าห้อง 3-4 คน ทักเคย์
“เคย์มาสายจังเลย พวกเราคิดว่านายจะไม่มาแล้ว” กลุ่มเพื่อนผู้หญิงที่นั่งเกาะกลุ่มเขียนไดอารี่กันอยู่ก็ทักขึ้น
“เฮเพื่อนทำไมนายมาสายจัง” กลุ่มเพื่อนชายหญิงที่รวมกลุ่มกันริมหน้าต่างด้านหน้าสุดทักมา
“โย่..สายนะนาย” เพื่อนชาย 2 คน เดินมาตบบ่าของเคย์คนละทีก่อนเดินออกจากห้องไป
“ทะ…โทดที มะ….มาสายไปหน่อย แหะ..แหะ..แหะ” เคย์กล่าวขอโทษกับเพื่อนๆ ในห้องพลางยกมือขึ้นเกาหัวเบาๆ แล้วแกลังหัวเราะแก้เขิล ก่อนจะเดินไปที่เพื่อนสนิท 3 คน ที่คุยกันอยู่หลังห้องตรงโต๊ะเรียนตัวสุดท้ายริมหน้าต่าง ซึ่งเป็นตัวหลังที่เรียงต่ออยู่กับโต๊ะเรียนของเคย์เอง
“ไง” ทาเครุที่ยืนพิงโต๊ะเรียนตัวสุดท้ายของอีกแถวทางขวาที่ติดกับโต๊ะเรียนตัวสุดท้ายริทหน้าต่างห้องเรียน หนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทของเคย์ที่ดูเป็นคนอารมณ์ดีพูดขึ้นพร้อมยกฝ่ามือขึ้นสูงไปเหนือหัวยื่นส่งสัญญาณไปทางเคย์ให้แปะมือกัน
“หวัดดีเคย์” ชุนตะหนุ่มแว่นตัวเล็กๆ ท่าทางแก่เรียนแต่ก็ดูนิสัยดีแถมยิ้มเก่งและความสูงที่น้อยกว่าเคย์นิดหน่อย นั่งอยู่บนเก้าอี้ของโตะตัวสุดท้ายทักและยิ้มเหมือนจะโล่งใจ ก่อนจะยกหมัดขึ้นไปให้เคย์ชน
“นายมาสายนะ” โชวที่ยืนเอาหลังพิงหน้าต่างเท้าข้างหนึ่งยกขึ้นเหยียบอยู่บนเก้าอี้ท่าทางเงียบขรึมดูไม่คอยจะใส่ใจอะไรนัก เอ่ยถามพลางยกมือให้เคย์แปะด้วยเช่นกัน
“โอ๊ส” เคย์ตอบพร้อมกับยกแปะมือตบกลับไปที่มือของทาเครุพร้อมกับทำแก้มป่องๆ ก่อนจะหันไปแปะมือกับโชวและชนหมัดกับชุนตะเบาๆ แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ที่โชวยกขาขึ้นเหยียบไว้ของโตะเรียนตัวหน้าชุนตะ ซึ้งโชวได้เอาขาลงแล้วเมื่อตอนชุนเดินมาถึงกลุ่มของพวกเขา
“พอดีช่วยย่าเก็บของที่เหลือในห้องอยู่น่ะ” เคย์บอก
“พวกเราคิดว่านายจะไม่มาร่วมจบกับพวกเราซะแล้ว” เสียงของชุนตะพูดขึ้น
“นั้นสิ ถามไอ้โชวมันก็บอกไม่รู้” ทาเครุพูดขึ้นอีก
“ก็กูไม่รู้จริงๆ นี่หว่า” โชวตอกกลับทาเครุอย่ารำคาญ
“เออ..เออ…ก็มาแล้วนี่ไง” เคย์ตอบเป็นเชิงรับรู้
“ตอนนายยังไม่มาไอ้ทาเครุ แม่งวอแวชิบหาย” โชวบ่นอย่างเบื่อๆ
“อืมๆ ใช้” ชุนตะส่งเสียงรับพร้อมพยังหน้าเห็นด้วยกับโชว
“อะไร มีปัญหาเหรอ” ทาเครุทำหน้าบูดๆ
“ก็กูอยากเจอเพื่อนกลุ่มเราครบๆ คนนี่หว่า” ทาเครุพูดขึ้นอีกครั้ง
“ต้องมาสิ! เดี๋ยวพวกเราก็ต้องแยกย้ายกันแล้ว แล้วอีกอย่างก็อีกไม่รู้เมื่อไหร่ที่เราจะได้มารวมตัวกันอีกเมื่อพ้นวันนี้ไป” เคย์ขึ้น
“ก็นายดันสอบติดมหาลัยคนละที่กับพวกเรา 3 คนนี่นาแถมไกลกันอีกต่างหาก” ชุนตะเอ่ย
“แถมมหาลัย S ที่พวกเราสอบติดก็อยู่ต่างจังหวัด” โชวพูดเสริมขึ้น
“อ๊า…เคย์ทำไมนายต้องไปสอบติดมหาลัย N ด้วย” ทาเครุพูดขึ้นพร้อกับทำท่าทางตลกๆ ทำให้เคย์ โชวและชุนตะอดที่จะขำไม่ได้กับท่าทางของเพื่อน
“ถึงอยู่ไกลกันนายก็อย่าขาดการติดต่อกับพวกเรานะไม่งั้นฉันจะโกรธนาย” ทาเครุพูดขึ้นอีกครั้งด้วยความปลงตก
“นั้นสิ นายต้องติดต่อมาบ่อยๆ นะ” ชุนตะพูดเสริม ส่วนโชวก็พยังหน้าในเชิงให้เคย์เช่กัน
“ได้สิ ฉันจะติดต่อไปหาพวกนายบ่อยๆ นะ” เคย์ตอบรับบอกกับพวกเพื่อนสนิทของเขา
“เคย์จ๊ะ เขียนไดอารี่ให้เราหน่อยสิ เพื่อนคนอื่นเขียนกันหมดแล้วเหลือแต่นายคนเดียวน่ะ” เสียงหนึ่งของผู้หญิงในกลุ่มกลางห้องดังเรียกขึ้น เคย์จึงหันไปตามเสียง
“ว้าว!! คนดังของห้องเรียกนายแน่ะเคย์” ทาเครุแซว
“ได้สิมิกะ” เคย์ตอบพลางเอาเท้าไปเตะขาของทาเครุ
“เดี๋ยวฉันมากลับมานะ” เคย์บอกกับเพื่อนก่อนลุกเดินไปที่เธอก่อนที่จะบรรจงเขียนไดอารี่ให้กับมิกะเพื่อนหญิงในห้องของเขา
ไม่นานเคย์ก็เดินกลับมาที่เพื่อนกลุ่มตนเองและพากันถ่ายรูปเก็บไว้ ก่อนที่เสียงออดเรียกเข้าโรงยิมจะดังขึ้นเพื่อทำพิธีจบการศึกษาและมอบประกาศนียบัตรให้กับนักเรียนที่จบการศึกษาของโรงเรียน ทุกคนจึงค่อยๆ ทะยอยเดินออกไปจากห้องเรียนไปที่โรงยิม
“ไปกันเถอะ” โชวบอกกับเพื่อน เคย์ ชุนตะ ทาเครุต่างพยักหน้ารับและเดินตามกันออกจากห้องไป
เมื่อเดินลงมาถึงชั้นล่างก่อนผ่านไปยังโรงยิมต้องผ่านทางด้านหน้าตึกซึ่งมองเห็นหน้าประตูโรงเรียน เคย์จึงมองชะเง้อไปเพื่อดูว่าย่าของเขามาแล้วหรือเปล่าแต่ก็ไม่เห็น
‘คงยังขนของที่บ้านไม่เสร็จ’ เคย์คิด
แล้วก็เดินตรงไปที่โรงยิมทันที เมื่อเดินเข้าไปถึงที่นั่งในโรงยิมเขาหันไปเห็นย่าของตัวเองนั่งรอดูอยู่ที่นั่งของผู้ปกครองแล้ว นั้นทำให้เคย์ดีใจมาก ย่าหันมายิ้มและยกมือขึ้นระดับอกโบกให้กับเคย์ เคย์จึงยิ้มก่อนจะนั่งลง
พิธีจบการศึกษาดำเนินไปเรื่อยๆ ทังตัวแทนรุ่นน้องออกมากลาวลาพวกรุ่นพี่ และตัวแทนของพวกนักเรียนที่จบการศึกษาออกมากล่าวขอบคุณอาจารย์และรุ่นน้อง ก่อนจะมีการเรียกชื่อนักเรียนแต่ละคนออกไปเพื่อรับใบจบการศึกษาของตนกับมือ ผ.อ. โรงเรียนก่อนที่จะทะยอยกันเดินออกจากโรงยอมไป
จนมาถึงชื่อของเคย์ที่เรียกดังขึ้นจากไมร์โครโฟน เคย์จึงค่อยๆ ลุกขึ้นและเดินออกไปรับใบจบของตนก่อนจะเดินออกไปจากโรงยิมและเดินไปใต้ต้นซากุระเพื่อรวมตัวกันถ่ายรูปกับเพื่อนๆ และรุ่นน้องที่มาอยู่ส่งอำลาพวกเขา
บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความดีใจ บางคนก็เศร้ากอดกันร้องไห้ที่ต้องแยกจากกับเพื่อนๆ บางคนก็ทำหน้าเศร้าใจ บางคนก็ทำหน้าโล่งใจที่จบได้ด้วยดีผสมปนเปกันไปตามความรู้สึกของแต่ละคน
สำหรับเคย์ก็ใจโหวงเหวงไปเช่นกันที่ต้องแยกกับเพื่อนๆ ที่เรียนมาด้วยกันตั้ง 3 ปี บางคนก็เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ ม.ต้น โดยเฉพาะกับพวก โชว ทาเครุ และชุนตะ ที่เคย์กับพวกเขาทั้ง 4 คนเรียนและสนิทกันมาตั้งแต่ ม. ต้น แล้ว
“เอาล่ะไม่มีงานเลี้ยงไหนไม่เลิกลา” ชุนตะพูดขึ้น
“พวกเราต้องลากันแล้ว” เคย์พูดบอก
“ดูแลตัวเองกันด้วยนะพวกนาย” โชวพูดสำทับขึ้น
“ถึงทางโน้นแล้ว อย่าลืมติดต่อกลับมาหาพวกเรานะเคย์” ตามด้วยเสียงของทาเครุ
ทั้งสี่คนหันหน้าเข้าหากันพร้อมกับกอดซึ่งกันและกันเพื่อเป็นการร่ำลา
“ลาก่อน” เคย์วิ่งไปหาย่าของเขาที่ยืนรออยู่พลางโบกมือให้กับเพื่อนๆ
“ลาก่อนเพื่อน/ลาก่อนเคย์ ดูแลตัวเองด้วยนะ” โชว ทาเครุและชุนตะกล่าวลาเคย์ขึ้นพร้อมๆ กันและพากันโบกมือให้เช่นกัน
“รอนานมั้ยครับคุณย่า” เคย์ถามขึ้นเมื่อวิ่งมาหาย่าของเขาแล้ว
“ย่าพึ่งจะเดินออกมา” เธอตอบกับหลานชาย
“ไปกันเถอะจ๊ะ เดี๋ยวจะขึ้นรถไฟช้า” คนเป็นย่ายิ้มกับหลานก่อนจะพูดขึ้น
“ครับ” เคย์ตอบกลับก่อนที่ทั้งสองจะเดินไปขึ้นรถแท็กซี่ที่มาจอดรออยู่แล้วเพื่อจะไปส่งพวกเขาที่สถานีรถไฟ
ถึงสถานีรถไฟเคย์ค่อยๆ พยุงย่าของเขาลงจากรถและพากันเดินเข้าไปด้านใน ก่อนจะไปซื้อตั๋วรถไฟแล้วไปนั่งรอให้รถไฟให้เที่ยบท่าเสร็จ แล้วจึงประคองย่าขึ้นไปบนรถไฟและพาไปนั่งตามเลขที่นั่งบนในใบตั๋ว รถไฟค่อยๆ เครื่อนตัวออกจากชานชลาอย่างช้าๆ ไม่น่านก็วิ่งเร็วขึ้น รถไฟค่อยๆ แล่นผ่านกลิ่นอายของวิถีชีวิตของผู้คนแถวชานเมืองเข้าไปในตัวเมืองใหญ่ที่มีผู้คนมากมายและคับคั่งไปด้วยรถราต่างๆ
รถไฟที่วิ่งจากชานเมืองสู่ตัวเมืองใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงครึ่งก็มาถึงสถานีจุดหมายปลายทางแล้ว เคย์และย่าของเขาค่อยๆเดินลงออกมาจากรถไฟ ก่อนจะพากันไปหาอะไรกินกันก่อนจะกลับไปยังบ้านหลังใหม่สำหรับเคย์แต่ก็เป็นบ้านหลังเก่าสำหรับย่าของเขา เพราะเมื่อนานมาแล้วย่าของเขาเคยไปอยู่ที่นั้นเพื่อช่วยดูแลบ้านและเคย์ตอนที่พ่อและแม่ของเคย์ยังมีชีวิตอยู่