บทที่ 5 เลี้ยงอำลา
เคย์เดินเตร็ดเตร่ไปจนถึงสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่ปกติจะมีคนมาวิ่งออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่างๆ ไว้เว้นแม้แต่พวกที่แอบมามีเซ็กส์กันในยามค่ำคืนแถวๆ พุ่มไม้ แต่ตอนนี้ก็แทบจะไม่มีคนเลยเพราะยังไม่ถึงเวลาที่ว่านั้น บริเวรรอบๆ จึงไม่มีคนมากนัก จะมีก็แต่พวกคู่รักวัยรุ่นที่มาจู๋จี๋กันกับกลุ่มเด็กๆ พ่อบ้านแม่บ้านที่พาลูกเล็กๆ มาเดินเล่นเท่านั้น
เด็กหนุ่มทอดถอนลมหายใจยืดยาวก่อนจะผ่อนปรนอย่างปลงๆ ท่านั้งที่ดูท่าทางสบายๆ แขนทั้งสองข้างยืดกางไปบนพนักพิงกับหลังที่ยืดเอนไปตามรูปทรงของที่นั่ง ใบหน้าที่เงยขึ้นไปเหม่อมองท้องฟ้าอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก เคย์ถอนหายใจอยู่นานถ้านับได้ก็คงเป็นรอบที่ร้อยแล้วสำหรับวันนี้ตั้งแต่ออกจากบ้านมา ใบหน้าสดใส่หม่นลงเพื่อเป็นเครื่องมือที่บ่งบอกถึงความทุกข์ภายในใจ ปกติเคย์จะเป็นเด็กชายอารมณ์ดีที่มีนิสัยร่าเริงยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้กลับไม่เป็นแบบนั้น นัยตาสีดำสนิทค่อยๆ หลับลงด้วยความคิดว้าวุ้นมากมาย มีน้ำตาไหลซึมออกมาจากม่านตาที่ปิดอยู่เล็กน้อย ก่อนที่เคย์จะยกมือขึ้นมาขยี่หัวตัวเองและสบถมันออกมาเพื่อครายอารมณ์ขุ่นๆ ให้ตัวเองเขาเองมีสติมากขึ้น
“โธ่เว้ย!! เมือคืนมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเราวะเนี่ย” เสียงถบดออกมาจากปากเล็กๆ ด้วยความสับสน
“ไม่ได้แล้วขืนเป็นแบบนี้ตอไปเราต้องบ้าตายแน่ๆ” เคย์พูดขึ้นกับตัวเองอีกครั้ง
“เลิกคิด เลิกคิดได้แล้วเคย์ถ้านายไม่ตั้งสติมันจะยิ่งแย่และอาจจะทำให้คุณย่าเป็นห่วง” เสียงพูดกับตัวเองดังขึ้นอีกครั้ง
“มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นแค่ความฝัน ใช่มันเป็นแค่ความฝัน เราจะไม่คิดถึงมันอีกแล้วปล่อยให้มันผ่านไปสักวันเร่จะลืมเรื่องเมื่อคืนนี้ไปเอง” เพี๊ยะ!!....เพี๊ยะ!!!.....เสียงตบแก้มเบาๆ ของตัวเองดังขึ้นมือข้างหนึ่งเลื่อนไปใข้แขนเช็ดน้ำตาในดวงตาน้อยๆ ตามด้วยเสียงปลอบและให้กำลังใจตัวเองดังขึ้นอีกครั้ง
“สิ่งที่เราต้องคิดตอนนี้คือเรื่องย้ายบ้านและมหาลัยที่เรากำลังจะไปเรียนต่อรวมถึงเงินที่จะต้องใช้จ่ายด้วย” เคย์พยักหน้ากับตัวเองและกำมือทั้งสองข้างขึ้นทำท่าทางเหมือนคนฮึดสู้
ปกติแล้วเขาก็มักจะเป็นเด็กที่ไม่คิดเล็กคิดน้อยอยู่แล้วเรื่องเมื่อคืนนี้ก็เช่นกัน ถึงมันจะทำให้เขารู้สึกเสียใจแต่เมื่อคิดว่าจะทำให้คนที่ตัวเองรักแบบคุณย่าจะเป็นห่วงเขาจึงไม่ลังเลที่จะสลัดความเสียใจนั้นทิ้งไป เมื่อคิดได้ดังนั้นเคย์ก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกจากสวยสาธารณะไปและมุ่งหน้าไปยังร้านขายอาหารที่เขาทำงานอยู่หลังจากที่เขานั่งอยู่นานหลายชั่วโมงในสวนสาธารณะแห่งนี้ ไม่นานนักก็ถึงยังจุดมุ่งหมายปลายทางที่เขากำหนดไว้
“ผมมาแล้วครับคุณลุงทาเคโนะ” เคย์พูดขึ้นเมื่อเปิดประตูร้านเข้ามา ก่อนจะก้มหัวโค้งคำนับเป็นเชิงทักทายผู้ใหญ่แบบคนญี่ปุ่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มด้วยท่าทางที่แจ่มใส
“มาแล้วเหรอเคย์ วันนี้มาเร็วกว่าปกติไปนะวันนี้ลุงยังเตรียมของไม่เสร็จเลย มาช่วยลุงหน่อยนะ” ลุงทาเคโนะเจ้าของร้านตอบกลับและพยักหน้าเป็นเชิงรับก่อนส่งยิ้มหน้าบานพรางปาดเหงือตรงหน้าผากเล็กน้อยเพราะงานที่ต้องเตรียมก่อนเปิดร้านจริงนั้นยุ่งมากทีเดียว
ซึ่งปกติเวลาที่เคย์มานั้นจะมาช่วยตอนหลังเลิกเรียนและวันหยุดเท่านั้น ยกเว้นช่วงหลังมานี้ที่เคย์มาเร็วเพราะ ร.ร. ของเคย์นั้นปิดแล้วและวันนี้เคย์ก็จะมาทำงานที่ร้านเป็นวันสุดท้ายด้วย วันนี้เจ้าของร้านอย่างเขาจึงยุ่งเป็นพิเศษเพราะต้องเตรียมของสำหรับเลี้ยงส่งเคย์ด้วย
“ครับ” เคย์ตอบรับ
“อ้าวเคย์มาแล้วเหรอทำไมมาเร็วจัง” ไอโกะผู้เป็นลูกสาวของเจ้าของร้านที่เดินเข้ามาจากด้านหลังร้านก็ทักขึ้นอีกคน
“ครับพี่ไอโกะ สวัสดีครับ” เด็กหนุ่มขานรับพร้อมกับกล่าวทักทายอย่างนอบน้อมในทีแล้วยิ้ม ‘พี่ไอโกะกับคุณลุงนี่เหมือนกันเลย ถ้าพ่อแม่เรายังอยู่เราจะเหมือนพ่อหรือแม่กันนะ’ เคย์ได้แต่คิดแต้แล้วก็ต้องสลัดมันทิ้งไปเมื่อได้ยินเสียงบ่นของไอโกะดังขึ้น
“ให้ตายสิทำไมวันนี้ถึงยุ่งจังเลยนะ….ว๊าย!!...ตายแล้ว!! ..จะไม่ทันแล้วๆ ใกล้ได้เวลาเปิดร้านแล้ว” ไอโกะแสร้งทำท่าทางยกไม้ยกมืออย่างตลกๆ แล้วร้องโว้ยเสียงหลงขึ้นเมื่อตาเหลือบไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังร้าน เสียงหัวเราะเบาๆ ดังลอดออกมาจากในครัวเล็กน้อยให้กับท่าทางนั้น
“งั้นผมไปเปลี่ยนชุดทำงานก่อนนะครับแล้วจะรีบออกมาช่วย” เคย์หัวเราะคิกกับท่าทางของไอโกะ ก่อนบอกกับลุงทาเคโนะและไอโกะ
“อย่ามาทำเสียงคิกคักนะ รีบไปเปลี่ยนชุดแล้วมาช่วยพี่เดี๋ยวนี้คุณพ่อก็ด้วยหยุดขำเลยนะคะ” ไอโกะทำหย้ายู่ยี่ปากของเธอจู๋ลงพลางเสียงแกล้งดุเคย์และพ่อของเธอ
เคย์หัวเราะออกมาพร้อมกับลุงทาเคโนะทำให้บรรยากาศภายในร้านดูครึกครื้นและสดใสขึ้น ก่อนเคย์จะรีบเดินเข้าไปหลังร้าน ภายในห้องเปลี่ยนชุดเคย์ค่อยๆ เปิดล็อคเกอร์ของตัวเองออกแล้วเอากระเป๋าใส่เข้าไป พรางมือข้างหนึ่งค่อยๆปลดเาอแจ็กเก็ตออกและใช้สองมือถอดเสื้อตัวในของตัวเองก่อนจะรีบใส่เสื้อพนักงานเพราะกลัวว่าใครจะเข้ามาเห็นรอยช้ำๆ บนตัว ดีที่เสื้อใส่ทำงานนั้นมิดชิดทำให้เคย์ไม่กังวนเกี่ยวกับรอยบนตัวเองมากนัก เมื่อเปลี่ยนชุดเรียบน้อยเคย์เก็บทุกอย่างไว้ในล็อคเกอร์แล้วปิดลงก่อนจะรีบออกไปช่วยงานลุงทาเคโนะที่หน้าร้าน
“เคย์มาช่วยลุงดูสตูที่เขี้ยวไว้หน่อยนะ แล้วก็ค่อยมาปอกมันฝรั่งให้ลุง เดี๋ยวลุงจะไปเอาของกับเครื่องปรุงหลังร้าน” ลุงทาเคโนะพูดขึ้น
“ครับคุณลุง” เคย์ขานรับพร้อมทั้งพาตัวเองเดินเข้าไปในครัว
ไอโกะที่กำลังเช็ดโตะและจัดของบนโตะให้เป็นระเบียบอยู่นั้นพลางหันมาฉีกยิ้มให้กับเคย์กว้างๆ พลางคิดในใจ ‘เป็นเด็กที่น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ แถมขยันอีก’ ก่อนจะหันหน้าตัวเองกลับมาและขมักเขม้นทำงานของตนต่อไป
………………………………………
เวลาผ่านไปสักพักเมื่อของทุกอย่างเตรียมเรียบร้อยแล้ว ลุงทาเคโนะจึงเดินไปเปิดประตูร้าน หน้าตายิ้มแย้มของลุงทาเคโนะนั้นเป็นเครื่องเรียกลูกค่าอย่างดี แถมฝีมือทำอาหารของลุงแกก็อร่อยมากด้วย จึงทำให้มีทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าขาจรแวะเวียนมากินจนแน่นร้านทุกวัน รวมถึงวันนี้ก็เช่นกัน
ใกล้ได้เวลาปิดร้านแล้วลูกค้าก็บางตาขึ้น ไอโกะและเคย์ช่วยกันเก็บล้างของและเช็ดถูร้านจนเสร็จ เคย์กะว่าจะได้รีบกลับบ้านไปช่วยย่าของเขาเก็บของเตรียมย้ายออกในวันพรุ่งนี้ แต่ก็ต้องหยุดคิดไปเมื่อลุงทาเคโนะเรียกตัวไว้ ของทุกอย่างที่ทำขึ้ยง่ายๆ และของที่เหลือจากที่ขายถูกนำมาเรียงไว้บนโตะเต็มไปหมด
“วันนี้เคย์มาทำงานวันสุดท้ายฉันเลยอยากจะเลี้ยงส่ง ทุกคนเต็มที่นะเดี๋ยวฉันเลี้ยง” เสียงพูดขึ้นพลางในมือก็ยกขวดสาเกขึ้นมาวางตรงเคาร์เตอร์ด้านหน้าซึ่งเป็นโตะสำหรับลูกค้าที่มากินอาหารและดูคนปรุงไปด้วยตามแบบสไตน์เทปันขอวร้านญี่ปุ่นเก่าแก่
เสียงเฮดังขึ้นภายในร้านอย่างสนุกสนาน ตอนนี้เหลือเพียงลูกค้าประจำ 3-4 คนเท่านั้นที่ยังคงนั่งดื่มและกินอยู่ภายในร้าน
“อย่างนี้เราก็ไม่ได้เห็นเด็กนี่แล้วสิ” หนึ่งในลูกค้าประจำพูดขึ้น
“ใช่ๆ เวลาเจ้าเด็กคนนี้มันขยันทำงานแล้วมองเพลินดี” อีกคนพูดเสริมขึ้นมา
“เถ้าแก่ไม่น่าปล่อยเด็กที่ขยันทำงานแบบนี้ไปเลยน่าเสียดาย” เสียงสำทับของลุงที่เป็นลูกค้าประจำดังขึ้นอีกครั้ง
“ทำไงได้ละเจ้าเคย์มันสอบติดที่ไกลๆ จะให้ทำงานเป็นเด็กร้านอาหารอยู่ที่เก่าๆ แบบนี้ไม่ได้หรอก เด็กมันมีอนาคต” ลุงทาเคโนะพูดขึ้นพลางเอามือยกไปลูบหัวเคย์ที่เข้ามารินสาเกให้อย่างเอ็นดูและรักใคร่เหมือนลูกหลาน
“ถ้าว่างจากเรียนผมจะกลับมาเยื่อมลุงๆ นะครับ” เด็กหนุ่มหน้าใสยิ้มวานท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู
“ใช่สิ!!...ถ้าไม่กลับมาเยี่ยมกันบ้างละน่าดู” ไอโกะพูดขึ้นพลางยกมือขึ้นเขกหัวเคย์เข้าให้เบาๆ ก่อนที่ทุกคนจะหัวเราะออกมา
“เด็กวัยรุ่นที่ขยันทำงานเดี๋ยวนี้หายากเสียด้วย” เสียงของลุงคนในกลุ่มอีกคนดังขึ้นอีกครั้ง
“นั้นสิ/ใช่” เสียงขานรับเป็นเชิงเดียวกันจากพวกลุงๆลูกค้าประจำงหมดดังขึ้น
“ก็นะ…”ลุงทาเคโนะยิ้มพลางยแก้วสาเกขึ้นมาดื่ม
ดึกมากพวกลุงๆ ลูกค้าประจำทั้งหลายก็ทะยอยกลับกันหมดแล้ว เคย์จึงเตรียมไปเก็บโตะที่มีจานชามจากงานเลี้ยงเล็กๆ เพื่อเขา
“เตรียมตัวกลับได้แล้วละเคย์เดี๋ยวลุงเก็บเอง” ลุงทาเคโนะพูดขึ้น
“นั้นสินี่ก็ดึกมากแล้ว” ไอโกะพูดเสริมขึ้นก่อนจะพลักหลังเคย์เข้าไปหลังร้าน
“แต่ว่า…….” คำพูดของเด็กหนุ่มขาดตอนไป เพราะถูกผลักเข้าไปในห้องแต่งตัวเสียแล้ว
หลังจากเปลี่ยนชุดและสวมใส้แจ็คเก็ตเสร็จแล้วเคย์จึงสะพายกระเป๋าเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด ลุงทาเคโนะก็กวักมือเรียก
“นี่เป็นค่าจ้างและเงินเล็กๆ น้อยๆ ที่เราค่อยมาช่วยลุงเปิดร้านนะ” ลุงทาเคโนะพูดพร้อมทั้งยื่นซองสีขาวให้กับเคย์
“แต่ว่านี่มันเกินมาเยอะเลยนะครับ” เคย์ตองกลับอย่างเด็กใสซื่อ
“เอาไปเถอะจ๊ะ” ไอโกะพูดเสริม
“แต่…………” เคย์ที่ทำท่าจะพูดขึ้นไอโกะจึงพูดขัดขึ้น
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นจ๊ะ นี่นะเพราะความขยันของนายเองล้วนๆ นะ” ไอโกะทำท่าทางเท้าสะเอวพลางกุ้มตัวเล็กน้อยนิ้วชี้ข้างหนึ่งชี้ไปที่ซองขาวๆ ในมือของเคย์เป็นเชิงหยอกล้อแต่ก็จริงจังเช่นกัน
“นั้นสิลุงก็ไม่รู้จะให้อะไรแทนความมีน้ำใจและความขยันของเธอ นี่เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ลุงให้กับเธได้” ลุงทาเคโนะพูดเสริมขึ้น
“แค่เธอกลับมาหาพวกเราบ้างแค่นี้พวกเราก็มีความสุขและดีใจมากแล้วหละ” ไอโกะพูดเสริมขึ้นอีกพร้อมทั้งจุ๊ฟไปที่หน้าผากของเคย์แล้วหัวเราะคิก ลุงทาเคโนะก็เดินมาลูกหัวเคย์แล้วยิ้มขึ้นบนใบหน้าเช่นกัน
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำใจจากไปกับอีกหนึ่งที่ที่เคย์คิดว่ามันเป็นครอบครัวเช่นกัน เขาทำงานที่ร้านนี้ตั้งแต่ตอนเริ่มขึ้นมาเรียน ม. ต้น จนตอนนี้เข้าเรียนจบชั้น ม. ปลายแล้ว หลายปีที่ผ่านมาเขาได้รับความช่วยเหลือจากลุงทาเคย์โนะและพี่ไอโกะมากมาย ความรู้สึกขอบคุณและรักพวกเขาจึงมีอยู่ล้นอก เช่นเดียวกับพวกเขาที่คิดว่าเคย์คือลูกและน้องคนเล็กของบ้านไปเสียแล้ว
ไอโกะกอดเคย์อีกครั้งเพื่อเป็นการลาและส่งน้องชายคนนี้อีกครั้ง ลุงทาเคโนะเองก็ตบบ่าเคย์เบาๆเป็นการส่งลา ก่อนที่เคย์จะโค้งตัวลงเพื่อขอบคุณและลาพวกเขา
“อย่าลืมแวะมาเยียมลุงบ้างละ”ลุงทาเคโนะพูด
“ใช้ ถ้าไม่มาหากันบ้างละก็ฉันจะงอลนาย” ไอโกะพูดพร้อมยู่ปาก
“ครับ แล้วผมจะแวะมาหาบ่อยๆ นะครับ” เคย์ตอบตกลงและโค้งคำนับอีกครั้ง ก่อนหันหลังเดินไปที่ประตูร้าน
เคย์เดินมาหยุดอยู่ที่ประตูร้านแล้วหันหน้ากลับมายิ้มแล้วยกมือขึ้นโบกไปมา ‘บ๊ายบ่าย’ ให้กับทั้งคู่ คนทั้งสองก็ยกมือขึ้นมาโบกไปมาเพื่อลากับเคย์เช่นกัน
“ขอบุณครับลุงทาเคโนะ พี่ไอโกะ” เคย์ดูรอยยิ้นบนน้าสองพ่อลูกและพูดขึ้นก่อนที่จะปิดประตูร้านและเดินจากไป
เมื่อเดินออกมาจากร้านที่ตัวเองทำงานอยู่ เด็กหนุ่มก็รีบตรงกลับไปยังบ้านของตนเองทันทีโดยไม่แวะที่ไหนอีกเลย อย่าไรก็ตามทางเดินตรอกซอยมืดๆ สลัวๆ ยามนี้ทำให้เคย์หวาดหวั่นกว่าเมื่อก่อนเพิ่มขึ้นไปอีก เขาจึงรีบเดินอย่างเร็วจนเกือบจะเป็นวิ่งแล้วเพราะหนึ่งนั้นคือความกลัวที่เกิดขึ้นบวกกับเรื่องที่ผ่านมาเมื่อคืนวานนี้ เคย์มาถึงหน้าบ้านและรีบเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
“ผมกลับมาแล้วครับ” เคย์พูดขึ้นในความเงียบเพราะคิดว่าย่าของเขาเข้านอนแล้ว
“กลับมาแล้วเหรอจ๊ะหลาน” ย่าของเขาเดินออกมาและกล่าวรับเคย์
“คุณย่ายังไม่นอนเหรอครับ ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องรอ” เคย์พูดขึ้นอย่างดุๆ แต่ก็เจือความเป็นห่วง เขาไม่อยากให้ย่าของเขาต้องมานั่งรอเขากลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ เพราะมันไม่ดีกับสุขภาพของคนแก่ๆ แบบย่าของเขา
“ย่าไม่ได้รอหลานสักหน่อย ย่าแค่เก็บของอยู่นี่ก็เสร็จแล้ว ย่ากำลังจะนอน แต่ได้ยินเสียงหลานกับมาพอดี” คนเป็นย่าพูดออกมาอย่างเนิบนาบที่คร้ายกับจะเป็นคำแก้ตัวเสียมากกว่า
“โถ่ ผมบอกว่าเดี๋ยวผมจะช่วนเก็บไงครับ คุณย่ารีบเข้านอนเถอะครับ” น้ำเสียงของเคย์พูดออกมาเจือความเป็นห่วง
“หลานก็รีบขึ้นไปอาบน้ำนอนเถอะจ๊ะนี่ก็ดึกมาแล้ว” ย่าพูดขึ้นขณะที่เคย์เดินประคองย่าของตนไปส่งที่ห้อง แล้วผลักหลานของตัวเองน้อยๆ เป็นเชิงไล่ให้รีบเช่นกันเพราะอากาศข้างนอกนั้นเมื่อดึกแล้วมันหนาวมากจริงๆ สำหรับเด็กน้อยแบบเคย์ในความคิดของย่าเขา
เคย์จึงทำได้แต่เดินขึ้นไปบนห้องตัวเองแล้วจัดการถอดเสื้อผ้า เดินไปอาบน้ำและเข้านอน ไม่นานเด็กหนุ่มก็ค่อยๆ หลับลึกลงไปในยามราตรีของยามค่ำคืน