บท
ตั้งค่า

เคลียร์รัก - 05

#ตกเย็นวันต่อมา

ฉันยืนมองแสงไฟระยิบระยับจากร้านเหล้าตรงหน้าภายใต้ท้องฟ้าสุกสกาวในคืนเดือนหงาย เมื่อเช้าจู่ๆ ฉันก็ถูกลดโทษจากแม่ ท่านยอมปล่อยฉันให้เป็นอิสระแถมยังประคบหน้าฉันที่บวมแดงด้วยสมุนไพรให้อีกต่างหาก

ช่วงเวลาที่แม่เยียวยารอยบนใบหน้าก็เหมือนเยียวยาหัวใจที่แห้งเหี่ยวของฉันไปด้วย แต่จะดีกว่านี้ถ้าท่านพูดอะไรสักอย่างนอกจากประคบสมุนไพรแล้วเดินออกมา

ฟู่~ สะบัดหัวไล่เรื่องราวต่างๆ ที่ยิ่งคิดยิ่งหดหู่ออกไป พ่นลมออกจากปากก่อนจะสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด มือขวากระชับเป้ใบกลางให้มั่น ก่อนจะก้าวเท้าตรงไปยังร้านเมามายที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า

"อ้าว น้องแสนรักทำไมวันนี้มาเร็วคะ" เสียงเจ๊เขมทักฉันทันทีที่เดินเข้ามาในร้าน ตอนนี้เพิ่งจะทุ่มกว่าๆ คนเลยยังไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่

"เอ๊ะ! แล้วนั่นหิ้วกระเป๋าใบใหญ่มาด้วยจะไปเที่ยวค้างคืนที่ไหนเหรอ" ไม่ถามเปล่า เจ๊เขมยังเข้ามาช่วยถือกระเป๋าใบนั้นให้ฉันอีกต่างหาก

"ขอบคุณค่ะ" ฉันเลือกขอบคุณแทนตอบคำถามก่อนหน้า

ส่วนกระเป๋าที่ฉันถือมาด้วยคือพวกเสื้อผ้าชุดนักศึกษาและชุดใส่เล่นไม่กี่ชุด สมุดหนังสือเรียนของสัปดาห์นี้ทั้งสัปดาห์

ก็อย่างที่ทุกคนคิดนั่นแหละ... ฉันประชดชีวิตด้วยการหนีออกจากบ้าน ถึงแม้เมื่อเช้าจิตใจฉันจะถูกเยียวยามาบ้างแล้วแต่ฉันจะไม่ขอเสี่ยงอยู่ร่วมชายคากับตาแก่ตัณหากลับอย่างพ่อเลี้ยงโอภาสองคนแน่นอน

และที่บอกแบบนั้นเพราะจู่ๆ แม่ต้องไปดูไซต์งานที่สุพรรณฯ เห็นบอกการขุดเจาะเหมืองมีปัญหาต้องให้แม่ฉันไปดูและแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน

ถามว่าทำไมพ่อเลี้ยงฉันที่เป็นสามีใหม่แม่ไม่ตามไปด้วย ก็เพราะจิตใจคนมันสกปรกคิดอย่างว่ากับฉันตอนแม่ไม่อยู่ยังไงล่ะ

แถมการเล่นละครตบตาว่า อยากอยู่เป็นหูเป็นตาให้แม่ฉันก็ช่างแนบเนียนจนแม่เออออตามไปด้วย ผลสุดท้ายฉันเลยต้องเลือกหนีออกจากบ้านมาตายเอาดาบหน้าจนกว่าแม่จะกลับมา

อ้อ! ไม่ต้องถามหาขนมนะ รายนั้นตั้งแต่เข้ามอวันอาทิตย์ก็ถูกจัดทริปเข้าค่ายที่เชียงใหม่ทั้งเซคที่นางลงเรียนสามวัน กว่าจะกลับก็วันพุธตอนเย็น ฉันเลยหมดที่พึ่งไปโดยปริยาย

ตุ้บ.. เสียงวางแก้วดังขึ้นตรงหน้า พอมองดูจึงเห็นว่าเป็นน้ำเปล่าเย็นๆ จากเจ๊เขม

"ดื่มน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจก่อนนะ" เจ๊เขมยิ้มหวานให้ ฉันเลยหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบพอให้เป็นมารยาท เอาเข้าจริงๆ ตอนนี้มืดแปดด้านไปหมด

ตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยออกไปค้างอ้างแรมที่อื่นคนเดียวสักครั้ง ถึงแม้ตอนนี้จะสิบเก้าแล้วแต่ฉันก็ยังหาหนทางไม่ได้อยู่ดี

พักโรงแรมสิ...

เข้าใจว่าทุกคนต้องบอกฉันแบบนั้น แต่ฉันกลัวการอยู่ที่ที่ไม่คุ้นเคยคนเดียว แถมยิ่งเป็นตอนกลางคืนฉันยิ่งกลัว อืม กลัวสิ่งที่วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้อย่างเช่น วิญญาณ นั่นแหละ

"ดูเครียดๆ นะคะวันนี้" เจ๊เขมถามขึ้น

"นิดหน่อยค่ะ" ฉันตอบเสียงแผ่ว

"แล้วกระเป๋าใบนั้นน้องแสนรักจะไปทัวร์ที่ไหนคะ หนักมาก!" คำว่าหนักมากนี่ยาวเฟื้อยเลยนะเจ๊ "คือรัก..." ฉันเริ่มอึกอัก

"ถ้ามีอะไรให้ช่วยบอกเจ๊ได้นะ อย่างน้อยก็คนเคยเห็นหน้ากันเกือบทุกวัน" ฉันยิ้มจางๆ กับความมีน้ำใจนี้ของเจ๊เขม

คนภายนอกยังมีน้ำใจกับฉันยิ่งกว่าสายเลือดเดียวกันเสียอีก

ไม่ ไม่ ไม่... เธอจะคิดอกตัญญูกับผู้ให้กำเนิดไม่ได้นะแสนรัก

"คือรักกำลังหาที่อยู่สักสองสามวันน่ะค่ะ" ในที่สุดฉันก็พูดออกไป

"หาที่อยู่? แล้วเพื่อนน้องล่ะ" เจ๊เขมถามถึงขนม

"หนมไปเที่ยวเชียงใหม่กับเพื่อนร่วมเซคค่ะ" ฉันตอบอย่างยิ้มๆ

"อ้อ ถึงว่าเห็นมาคนเดียว" เจ๊เขมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะถามต่อ

"อยากได้โรงแรมแบบไหนล่ะ เดี๋ยวเจ๊ช่วยดูให้"

ฉันจุกที่ลำคอเล็กน้อยกับคำถามเบสิคของเจ๊เขม คนที่กำลังหาที่พักชั่วคราวก็ต้องพึ่งโรงแรมอย่างที่เจ๊แกเข้าใจน่ะถูกแล้ว แต่คนคนนั้นต้องไม่ใช่แสนรักคนนี้ที่ขี้กลัวผีจนเกือบจะถึงขั้นโฟเบีย

"คือ..รักไม่ถนัดนอนโรงแรมน่ะค่ะ" ฉันตอบเสียงอ้อมแอ้ม

เจ๊เขมเหมือนจะเหวอไปเล็กน้อยก่อนจะถามอีกคำถาม "คุณน้องกลัวผีเหรอคะ" เป็นคำถามที่ก้มลงกระซิบใกล้ๆ เพราะกลัวฉันจะอายคนที่เดินผ่านไปผ่านมาล่ะมั้ง

"ค่ะ รักไม่ชอบที่แปลกตา" ฉันตอบรับอย่างอายๆ

"อ้อ งั้นก็คงยากแล้วล่ะค่ะ" เจ๊เขมเริ่มคิดหนักกับความทุกข์ของฉัน

"คุยไรกัน" จู่ๆ เสียงทุ้มเข้มของเฮียคอยน์ก็ดังขึ้นจากกลางบันไดชั้นสอง "เฮียคอยน์มาได้เวลาพอดี มานี่ๆ นั่งเลยค่าสุดหล่อของเจ๊"

เจ๊เขมที่เห็นเฮียคอยน์เดินลงมาข้างล่างพอดีรีบวิ่งไปจูงมือมาทางฉัน ก่อนจะตบๆ ปัดๆ เก้าอี้แล้วดันเฮียคอยน์ให้นั่งลง

"อะไรของมึงไอ้เข้ม" เฮียคอยน์มองดุเจ๊เขมก่อนจะโดนเจ๊เขมที่ถูกเรียกชื่อจริงเบ้ปากใส่

"เรียกไอ้เข้มแล้วต้องจ่ายทริปด้วยนะ!" เจ๊เขมทำเสียงประชดกลายๆ ก่อนจะเดินมานั่งเก้าอี้อีกตัวข้างฉัน จนกลายเป็นว่าตอนนี้ฉันนั่งอยู่ตรงกลางแทน "อย่ามามั่ว วันนี้ไม่ได้ตกลงกันไว้" เฮียคอยน์เถียงกลับก่อนจะหันมามองหน้าฉัน

"เมื่อกี้เหมือนได้ยินคุยกันเรื่องโรงแรม มีอะไรเหรอ?" เฮียคอยน์เท้าศอกลงบนพื้นปูนหินอ่อนของบาร์ที่พวกเรานั่งอยู่ "อ้อ คือรัก..."

"น้องเขาหาที่พักน่ะเฮีย แต่ห้ามเป็นโรงแรมเด็ดขาด" เจ๊เขมตอบคำถามแทนฉัน

"อ้าว! ทำไมล่ะ?" จะบอกยังไงให้คนอื่นมองว่าฉันไม่แอ๊บแบ๊ว

"น้องเขากลัวผี" เจ๊เขมรายเดิมที่ออกหน้าตอบคำถามให้

"สรุปกูถามน้องเขาหรือมึงไอ้เข้ม!" เฮียคอยน์ดุแบบทีเล่นทีจริง

"ก็ช่วยน้องมันเล่าจะได้เข้าใจเร็วๆ"

"อยากเสือกมากกว่าไม่ว่า" เฮียคอยน์ส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมๆ ก่อนจะสะกิดฉันที่นั่งเหม่อหาทางออกสำหรับคืนนี้

"เรานี่ก็แปลกนะ ห้องชั้นสองนอนได้ แต่ไปนอนโรงแรมไม่ได้" นี่เฮียคอยน์กำลังหลอกด่าฉันอยู่หรือเปล่านะ

"เพราะรักเคยมาที่นี่บ่อย อีกอย่าง ห้องนั้นเคยนอนกับขนมรักเลยชินแล้วค่ะ" ฉันอธิบาย เฺฮียคอยน์เลยพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมร้อง "อ้อ" ออกมาคำเดียว "งั้นก็พักที่นี่ไปสิ ไม่เห็นจะยาก"

ฉันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าเฮียคอยน์จะพูดแบบนี้

"แต่ที่พักที่นี่สำหรับลูกค้าเฮียนะคะ" ฉันกึ่งปฏิเสธ

"เราก็ลูกค้าประจำเมามายนี่" นัยน์ตาคมจ้องฉันนิ่ง

ฉันได้แต่เงียบเพราะไม่รู้จะเอายังไงดี จริงๆ ในใจฉันก็คิดจะมาขอพักที่นี่ชั่วคราวโดยจ่ายค่าเช่าตามแต่เจ้าของร้านจะคิด แต่ก็สองจิตสองใจ เกิดมีลูกค้าเฮียคอยน์ที่ต้องการพักชั้นสองจริงๆ ขึ้นมาฉันจะกลายเป็นตัวปัญหาที่แย่งห้องพักทันที

"เอาๆ ไม่ต้องคิดมากแล้ว พักมันที่นี่แหละ ถ้าลำบากใจเดี๋ยวฉันคิดค่าเช่ารายวันให้ ตกลงไหม?" อาจจะเพราะฉันเงียบไปนานเฮียคอยน์เลยยื่นข้อเสนอเองเสียเลย ฉันหันไปมองหน้าเจ๊เขมเพื่อดูเชิงและขอคำแนะนำ

"เอาเถอะคนสวย อย่างน้อยพักที่นี่ก็ใกล้มหาลัยเดินทางสะดวกแถมมีคนรู้จักอยู่ อุ่นใจดีเนอะ" เจ๊เขมแนะนำ

"งั้นเอาตามนี้ก็ได้ค่ะ ส่วนค่าเช่าห้องให้รักจ่ายเลยไหมคะ"

"ไม่ต้องรีบร้อน ไว้ค่อยจ่ายตอนจะกลับก็ได้" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณเฮียคอยน์และกันไปยิ้มหวานให้เจ๊เขม อย่างน้อยวันนี้ฉันก็มีที่ซุกหัวนอนที่ไม่ต้องไปเสี่ยงหวาดกลัวผีตามโรงแรมให้จิตตกแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel