ตอนที่ 8.2 สิ้นหวัง
โชแปงกำลังแต่งตัวเตรียมไปทำงาน ดีที่ฌอนกลับออกไปก่อนอติเทพจะมาเคาะประตูสักพักหนึ่งแล้ว เขาเองก็ไม่อยากรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ปั้นหน้าใส่สองฝ่ายที่คนหนึ่งเรียกว่าคนรักเก่า ส่วนอีกคนก็กำลังยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจ
“ตี้ขอคุยด้วยหน่อย”
อติเทพขอร้องเจ้าของห้องด้วยท่าทางเจียมเนื้อเจียมตัวเพราะกลัวอีกฝ่ายจะไล่เหมือนเมื่อคืน แต่โชแปงก็ตัดสินใจเปิดประตูรับหมอหนุ่มที่มีใบหน้าอิดโรยเข้าไปในห้อง
“โชมีเวลาไม่มากนะ ต้องรีบไปทำงาน”
อติเทพก้าวเข้าไปในห้อง เขาพาโชแปงไปนั่งลงบนโซฟา แล้วตัวเองก็คุกเข่าลงตรงหน้า คว้ามือเรียวขึ้นมากุมเอาไว้ เขาลูบเบาๆ ลงบนหลังมือของโชแปง ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างอ้อนวอน
“ตี้ขอโอกาสโชอีกครั้งได้ไหม ต่อไปนี้ตี้จะดูแลโชให้ดีกว่าเดิม ตี้จะอยู่กับโชทุกวัน จะไม่ทิ้งให้โชอยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม ได้ไหมโช”
โชแปงสบตาเว้าวอนของอติเทพนิ่ง ใช่ว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่เขาตัดสินใจแบบนี้ อติเทพเป็นคนดี ดีในแบบที่โชแปงอาจไม่มีโอกาสได้พบอีก แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้าเขารักกับคนดี ๆ แต่ใช้ชีวิตอย่างที่ฝันไม่ได้
“โชมีคนใหม่แล้วตี้ อย่าทำแบบนี้เลย”
โชแปงดึงมือกลับมา สบตาอีกฝ่ายและเน้นถ้อยคำยืนยันความต้องการของตัวเอง
“จริง ๆ แล้วโชนอกใจตี้มาตลอดสี่ปีนั่นแหละ ตี้เคยรู้บ้างหรือเปล่า?” ชายหนุ่มย้อนถามอดีตคนรัก
อติเทพมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บปวด เขาไม่เคยรู้หรอก ไม่เคยรู้เลย
“คนดี ๆ แบบตี้ รับเรื่องแบบนี้ไม่ได้หรอก”
“รับได้ ตี้รับได้” อติเทพรีบพยักหน้า ยืนยันว่าไม่ว่าอีกฝ่ายจะผ่านอะไรมา เคยทำตัวเหลวแหลกขนาดไหน เขาก็ยินดีที่จะมองข้ามมันไป “ขอแค่ต่อไปนี้ โชยังอยู่กับตี้ก็พอ”
โชแปงนิ่วหน้า ก่อนจะตะคอกใส่ “ตี้อย่าเห็นแก่ตัวได้ไหม”
อติเทพแววตาหม่นลงอีกครั้ง ฟังคำต่อว่าจากโชแปงอย่างยอมจำนน
“ตี้จะรั้งโชไว้ให้อยู่ในชีวิต แบ่งเศษเวลาแค่น้อยนิดให้ แล้วก็เก็บโชไว้ในห้องแคบ ๆ แบบนี้ อยากได้ก็มาหา แต่ไม่เคยสนใจว่าโชต้องการอะไรจากตี้อย่างนั้นเหรอ?”
“โช…”
“พอแล้วตี้ โชไม่ต้องการชีวิตแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เดือนหน้าโชจะไปอยู่กับฌอนที่สวิตเซอร์แลนด์ แล้วหลังจากกฎหมายรับรองการแต่งงานมีผลบังคับใช้กลางปีนี้ เขาจะแต่งงานกับโชทันที”
อติเทพกะพริบอย่างตกใจ ไม่คิดว่าโชแปงจะตัดสินใจได้เร็วขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่ทั้งสองเพิ่งมีปัญหากันเมื่อคืนที่ผ่านมา
“หมายความว่าโชคิดเรื่องนี้มาก่อนแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
โชแปงไม่ปฏิเสธ ชายหนุ่มพยักหน้ายอมรับแต่โดยดี “โชขอโทษนะตี้”
“โช” อติเทพดึงมือโชแปงกลับมาบีบอีกครั้ง “ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นใคร โชรู้จักเขาดีแค่ไหนกัน จะไปอยู่ไกลบ้านขนาดนั้น เขาจะดูแลโชดีหรือเปล่า”
“ตี้อย่ามาถามเลยว่าเขาเป็นใคร ดูแลโชดีแค่ไหน ตี้รู้แค่โชอยู่กับเขาแล้วมีความสุข ได้เป็นตัวของตัวเอง ได้ทำอะไรที่อยากทำ ไปไหนก็ได้ ไม่ต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่กล้าบอกใครว่าเราเป็นอะไรกัน ตี้คิดดูนะ ขนาดเลิฟอยู่ข้างห้องโชมาตั้งนาน แล้วเขาก็เป็นรุ่นน้องของตี้อะ เลิฟยังไม่รู้เลยว่าโชเป็นแฟนตี้ เลิฟยังคิดว่าฌอนเป็นแฟนของโชไม่ใช่ตี้อะ พอแล้วตี้ โชอึดอัดที่ต้องอยู่แบบนี้ ตี้ปล่อยโชไปเถอะ”
“แต่ตี้รักโช”
“โชเสียเวลามามากแล้วตี้ ทั้งวันนี้แล้วก็สี่ปีที่ผ่านมา โชต้องไปแล้ว”
โชแปงลุกขึ้นจากโซฟา ในขณะที่อติเทพยังคุกเข่าอยู่ตรงหน้า หมอหนุ่มกอดขาคนรัก พลางก็ขอร้อง
“ไม่ไปได้ไหม?”
อติเทพเงยหน้าขึ้นสบตาโชแปง แต่ในขณะที่ดวงตาของเขาแดงก่ำ หยดน้ำใส ๆ เอ่อล้นตรงขอบตา แต่ทว่า… น้ำตาของโชแปงได้หยดลงบนซีกแก้มของเขาแล้ว พร้อมกับคำขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย
“ที่ผ่านมาโชไม่เคยขออะไรตี้เลย อ้อ… ไม่สิ ต้องบอกว่า ตี้ไม่เคยทำตามที่โชขอได้สักอย่าง วันนี้โชจะขอตี้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าตี้รักโชจริง ๆ ช่วยปล่อยโชไปได้ไหม ทำให้โชได้หรือเปล่า”
น้ำตาอีกหยดของโชแปงตกลงมาบนซีกแก้มอีกด้าน มันกระเด็นเข้ามาในตาของอติเทพ ในวินาทีนั้นหมอหนุ่มก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของอีกฝ่าย ไม่ใช่ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในตอนนี้ แต่เป็นตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา และเขารับรู้ได้ว่าถึงวินาทีนี้มันได้สายไปแล้วที่จะเหนี่ยวรั้งโชแปงเอาไว้
วงแขนที่กอดรัดขาของคนรักเอาไว้ค่อย ๆ เลื่อนหล่นลงไปอย่างหมดแรง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงอาบแก้ม อติเทพมองตามหลังของโชแปงที่เดินจากเขาไปเงียบ ๆ ด้วยความเศร้า เสียใจ และสิ้นหวัง