ตอนที่ 6.1 ผิดฝาผิดตัว
ถ้าพูดถึงสายปาร์ตี้ต้องยกให้เหนือเทพกับศิลาวดี สองพี่น้องคู่ซี้ประจำตระกูลลี แม้หมวยสี่จะเป็นลูกของเมียรอง แต่สี่พี่น้องก็รักและสามัคคีราวกับคลานตามกันมาจากแม่เดียวกัน
หากทุกคนขี้เกียจเดินทางไปที่ร้านประจำอย่าง SPICY BAR ซึ่งอยู่แถวเกษตรนวมินทร์ ห้องโทนสีฟ้าหมายเลข 1903 บนชั้น 19 ของคอนโดหรูย่านสีลม ก็มักจะถูกใช้เป็นสถานเริงรมย์ เอ๊ย! ไม่ใช่ ถูกใช้เป็นสถานที่จัดปาร์ตี้เล็ก ๆ กันในครอบครัว
ปกติเหนือเทพมักจะสนุกสนานร่าเริง หากไม่มีสาวนัวเนียข้างกาย ก็มักจะแหกปากร้องเพลงกับน้องสาว แต่ค่ำคืนนี้ชายหนุ่มกลับนั่งดื่มเงียบ ๆ อยู่มุมหนึ่งเท่านั้น
อินทัชสะกิดถามขั้นเทพ ว่าน้องชายสุดที่รักไปโดนอะไรมา ถึงได้เงียบเหงาซึมเซาขนาดนั้น ขั้นเทพกระตุกยิ้ม พลางก็พยิดหน้าไปทางอคินที่กำลังร้องคาราโอเกะอยู่กับศิลาวดี
“ถามคู่หมั้นมึงดีกว่ามั้ง”
เมื่ออคินร้องเพลงจบไปหลายเพลงและเริ่มรู้สึกคอแห้ง เขาก็เดินโงนเงน กลับมาหาคนรัก
“บอสครับ คอแห้งจังเลย”
อินทัชส่งแก้วเหล้าที่ผสมไว้อ่อน ๆ ให้ พลางก็ดึงคู่หมั้นมาสวมกอด
อคินยิ้มหวาน ยืดตัวขึ้นจุ๊บปากคนรักหนึ่งครั้งเป็นการให้รางวัล ทั้งเป็นเชฟปรุงอาหาร ทั้งเป็นคนชงเหล้าให้ น่ารักอะไรเบอร์นี้ แถมคืนนี้เขายังได้รับอนุญาตให้เมาได้เต็มที่ แต่กติกาเดิมคือ ห้ามอ๊วกอีกก็แล้วกัน
“รักบอสจัง”
คำบอกรักหวาน ๆ จึงถูกเอ่ยออกมาจากปาก หลังจิบเหล้าพอแค่บรรเทาอาการกระหาย
อคินส่งยิ้มให้แทนไทที่คอยเอาอกเอาใจขั้นเทพไม่ห่าง ถัดออกไปก็เป็นโปรดปราณที่อ้อนอะไรปานเทพอยู่ก็ไม่รู้ พอโดนพี่ใหญ่ของแก๊งเทพดุ เจ้าโปรดปราณตัวแสบก็บีบน้ำตา ปานเทพเห็นเช่นนั้น สุดท้ายก็ตามใจเหมือนเคย เขากวาดตามองหาสมาชิกอีกคน จนเหลือบไปเห็นเหนือเทพที่นั่งเอนหลังพิงไปกับพนักโซฟาอีกด้านห่างออกไปจากพี่ ๆ ในมือถือแก้วเหล้าอยู่ แกว่งไปมาแล้วทอดสายตามองมันอย่างเลื่อนลอย
“แล้วนั่นเฮียสามเป็นอะไรไปครับ”
ทั้งอินทัช ทั้งขั้นเทพ พากันส่ายหน้า ก่อนที่อินทัชจะออกความเห็น
“สงสัยคินคงต้องถามน้องสาวแล้วล่ะ”
หลังอคินกลับมาจากคุยโทรศัพท์กับปลายฝันที่นอกระเบียง ก็ถือแก้วเหล้าเดินไปนั่งลงข้าง ๆ เหนือเทพ
“น้องสาวผมมันเป็นคนคิดอะไรซับซ้อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะครับ บางทีมันก็เข้าใจยาก แล้วก็ปากไม่ค่อยตรงกับใจ”
อคินยื่นแก้วเหล้าไปชนกับแก้วของเหนือเทพ อีกฝ่ายก็ชนแก้วกลับเบา ๆ ก่อนทั้งสองจะยกขึ้นสาดลงคอไปคนละครึ่ง
“แต่ตั้งแต่มันโตพอจะมีแฟนได้ ผมก็ไม่เคยเห็นมันคบใครนะครับ ผู้ชายที่มันยอมให้เข้าใกล้นอกจากน้าธนาพ่อมันกับผม ก็เห็นมีแต่เฮียสามนี่แหละครับ”
เหนือเทพกำลังจะยิ้มแล้วเชียว แต่ก็ต้องหุบกลับมาเหมือนเดิมเพราะประโยคถัดมาของอคิน
“อ้อ… แล้วก็มีเจ้าเลิฟเพื่อนสนิทมัน ไอ้เมฆเพื่อนผม แล้วก็หมอรุ่นพี่มันอีกคนที่ชื่อ…”
อคินกำลังนึกถึงชื่อหมอหนุ่มรุ่นพี่ของน้องสาวที่เธอมักเล่าให้ฟังอยู่บ่อย ๆ แต่ยังไม่ทันพูดชื่อออกมา เหนือเทพก็โพล่งขึ้นมาก่อน
“หมอตี้”
“เฮียสามรู้จักด้วยเหรอครับ?” อคินถามกลับ แต่ความจริงก็ไม่แปลกใจนัก เพราะปลายฝันก็คงไม่ปิดบัง ออกจะคลั่งรุ่นพี่เสียขนาดนั้น
“หน้าตาดี อบอุ่น พูดเพราะ ฐานะก็ใช้ได้ เป็นหมอกันทั้งบ้าน” เหนือเทพกระแทกเสียงอย่างหนักใจ
“นี่ไปแอบสืบประวัติเขามาเหรอครับ?”
“คิดจะทำสงคราม มันต้องรู้จักฝ่ายตรงข้ามบ้างสิ”
“อ๋อ… ที่มานั่งหงอยอยู่ตรงนี้ เพราะกลัวคู่ต่อสู้สินะครับ”
เหนือเทพกระดกเหล้าที่เหลือครึ่งแก้วสาดลงคอ ก่อนจะนิ่วหน้าเพราะความขมและคำถามแทงใจดำ
“โปรไฟล์แค่นั้นเฮียไม่หวั่นหรอก แต่หวั่นใจน้องสาวเรามากกว่า”
เหนือเทพมีสีหน้ากังวลขึ้นมา เพราะอติเทพเป็นคนที่ปลายฝันปลื้ม แถมตอนนี้ยังมาอยู่ใกล้ชิด เจอกันทุกวันแบบนั้น แล้วเขาจะทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาทันได้อย่างไร จะใช้วิธีรวบหัวรวบหางอย่างที่อินทัชทำกับอคินก็ไม่ได้ เพราะรายนั้นน่ะฉลาดเป็นกรด แถมยังหัวสมัยใหม่ ต่อให้เขาได้ครอบครองร่างกาย รับรองได้เลยว่าปลายฝันก็ไม่มีทางตกลงปลงใจ มีแต่จะตีหัวเขาแตกก็เท่านั้น
“เอาน่าเฮีย ถ้าน้องสาวผมมันไม่มีใจ เฮียคงไม่ได้เดินลงมาจากห้องมันแบบครบสามสิบสองแบบนี้หรอก”
อคินมองญาติผู้น้องของคู่หมั้นด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ เหนือเทพสบตากลับพลางก็ยิ้มแหะ ๆ แก้ตัวว่าไม่ได้ทำอะไรล่วงเกินนอกจากกอดจริง ๆ
อคินพยักหน้าว่ารู้แล้วล่ะ ปลายฝันเล่าให้ฟังหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง อีกอย่างเขาก็เชื่อว่าเหนือเทพไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นหากน้องสาวเขาไม่เต็มใจ
เอ… ชักอยากช่วยให้มันเต็มใจแล้วสิ จะช่วยยังไงดีน้า…