ตอนที่ 5 ใครอยู่ในห้อง
เพราะสงสัยว่าผู้ชายในลิฟท์เมื่อเช้าอาจเป็นอติเทพก็เป็นได้ ที่รักจึงพยายามเงี่ยหูฟังห้องข้าง ๆ ว่าคืนนี้จะมีใครมาหาโชแปงหรือไม่ และแล้วก็มาจริง ๆ
เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าที่ที่รักเฝ้ารอการกลับมาของโชแปง เด็กหนุ่มเงี่ยหูฟังก็ได้ยินเสียงคนคุยกัน แต่พอเปิดประตูออกไป ทั้งสองก็พากันเข้าห้องไปเสียแล้ว
ความคาใจพาเด็กหนุ่มไปยืนอยู่หน้าห้อง พลางก็คิดว่าจะถามตรง ๆ แอบดู หรือว่าจะทำอย่างไร ถึงจะได้รู้ว่าแฟนของโชแปงใช่อติเทพหรือไม่ หากใช่เขาจะได้บอกเพื่อนสาวให้ตัดใจ
พอที่รักเอาหูแนบประตู ก็พอจะเดาได้ว่าทั้งสองกำลังจะเริ่มบทรักกัน
“เข้าไปขัดจังหวะจะบาปไหมวะกู” เด็กหนุ่มลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจ “เอาวะ เป็นไงเป็นกัน”
ที่รักตัดสินใจเคาะประตู ก่อนจะยืนกลั้นใจรออีกฝ่ายมาเปิด ไม่นานบานประตูก็แง้มออกมา พร้อมกับใบหน้ายุ่งเหยิงของโชแปง “เลิฟ มีอะไร?”
กลิ่นแอลกอฮอล์โชยออกมายามพี่ชายข้างห้องเอื้อนเอ่ย ใบหน้าแดงก่ำบ่งบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังมึนเมาไม่น้อย
แต่เมาเหล้าหรือเมารัก อันนี้ที่รักก็ไม่แน่ใจ เด็กหนุ่มส่งยิ้มแหย ก่อนจะตีหน้าเศร้า “พี่โชพอจะมียาแก้ปวดไหมครับ เลิฟปวดหัวมาก พอดีว่ายาที่ห้องหมด”
เสียชื่อนักศึกษาแพทย์ฉิบหาย แต่ที่รักก็คิดได้แค่นั้น จะขอกะปิ น้ำปลา ตอนเที่ยงคืนกว่ามันก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผล
“ไม่สบายเหรอ เข้ามาก่อนสิ เหมือนจะมีนะ พี่ขอหาแป๊บ”
แล้วโชแปงก็เปิดประตูออกกว้าง ให้ที่รักได้ก้าวเข้าไปด้านใน แต่ทว่า… อีกคนที่ควรอยู่ในห้องคงเข้าไปอยู่ในห้องน้ำเสียแล้ว
โชแปงเปิดลิ้นชักเพื่อค้นหายาแก้ปวดที่จำได้ว่าแฟนหนุ่มเคยเอาติดห้องไว้ให้ แต่จำไม่ได้ว่าอยู่ตรงไหนจึงต้องใช้เวลา
“ขอโทษนะครับ เลิฟไม่รู้ว่าพี่โชมีเพื่อนอยู่ด้วย” ที่รักเอ่ยขอโทษ แต่ก็แอบถามซอกแซก “เอ… เพื่อนหรือแฟนน้า”
โชแปงชำเลืองมองไปทางห้องน้ำ พลางก็หัวเราะหึ ๆ เขายังไม่ทันได้ตอบอะไรก็หายาแก้ปวดเจอเสียก่อน “อยู่นี่เอง”
โชแปงยื่นยาแก้ปวดมาให้ ที่รักรับไว้ แล้วทำทีเป็นพลิกดู “เออ… พารามันไม่ดีต่อตับ พี่โชพอจะมีพวกไอบูโพรเฟนไหมครับ?”
“มันหน้าตาเป็นยังไงอะ เลิฟลองหาดูในลิ้นชักนั้นก็ได้ แฟนที่เตรียมไว้ให้น่ะ มีอะไรบ้างก็ไม่รู้เหมือนกัน”
โชแปงพเยิดหน้าไปที่ลิ้นชักนั้น ที่รักมองตาม พลางก็เดินเข้าไปค้นดู นักศึกษาแพทย์หนุ่มใจเต้นระทึก เพราะโชแปงมียาสามัญประจำบ้านครบทุกตัว
แฟนเป็นหมอแน่ ๆ
เด็กหนุ่มคิดพลางก็เหล่มองไปทางห้องน้ำ ได้ยินเสียงน้ำหยุดไหล สงสัยคนในนั้นจะอาบน้ำเสร็จแล้ว เขาจึงทำทีเป็นค้นหายา รีรอให้อีกฝ่ายออกมาจากห้องน้ำ
“เจอไหม?” โชแปงชะโงกหน้าเข้ามาถาม
“เอ่อ… จะ เจอแล้วครับ นี่ไง” ที่รักโชว์แผงยาที่มียาเม็ดสีชมพูอยู่ในนั้น “เลิฟขอสองเม็ดนะครับ” แล้วมองหากรรไกรมาตัดแบ่งออกไปจากแผง
โชแปงมองการกระทำของรุ่นน้องข้างห้อง ที่มันช่างเชื่องช้าต๊ะตอนยอนเสียเหลือเกิน ชายหนุ่มส่ายหน้ายิ้ม ๆ อย่างรู้ทันว่าเด็กหนุ่มอยากเห็นคนที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำนั้นอย่างแน่นอน
“ฌอน”
โชแปงจึงเอ่ยเรียกคู่ขาที่ดูเหมือนว่าน่าจะอาบน้ำเสร็จพอดี และทันใดนั้น ชายหนุ่มลูกครึ่งร่างสูงก็ค่อย ๆ ก้าวออกมา
ที่รักเบิกตากว้าง พลางก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่
เชี่ย! น่ากินฉิบหาย
คนอะไรหล่อล่ำ กล้ามเป็นมัด ๆ สวยงาม ไม่มากไม่น้อย หยดน้ำที่เกาะพราวตามตัวยิ่งดูยั่วยวนชวนให้เข้าไปเช็ด ๆ ถู ๆ ไถ ๆ ด้วยอะไรบางอย่าง โอ๊ย! ไม่ไหว ๆ
คำว่าอติเทพเลือนหายไปในทันใด เมื่อคนที่ปรากฏกายออกมาไม่ใช่คนที่สงสัย แต่ที่รักก็ยังไม่ไปไหนเพราะถูกความหล่อตรึงเท้าเอาไว้ให้ก้าวไม่ออก
“เอายาลดเลือดกำเดาด้วยไหมครับคุณหมอ?”
โชแปงเอ่ยแซวขำ ๆ ก่อนจะเดินเข้ามาโอบไหล่รุ่นน้องข้างห้อง ชายหนุ่มกระซิบเสียงเบาพอให้ได้ยินกันแค่สองคน “เอาไว้วันหลังพี่จะพาไปนะ มีแบบนี้อีกเพียบเลยล่ะ แต่ว่า…” โชแปงจับไหล่เล็กให้หมุนตัวออกมา แล้วพามาส่งที่หน้าประตู “คืนนี้พี่ขอก่อนนะ อ้อ… แล้วถ้าเสียงดังล่ะก็ ต้องขอโทษด้วย ห้องมันไม่ค่อยเก็บเสียงน่ะ บั๊ย!”
ที่รักถูกผลักแกมถีบออกมาจากห้อง แล้วหลังจากนั้นเสียงการร่วมรักก็ดังสนั่น ดังกว่าเมื่อคืนด้วยซ้ำ ราวกับว่าโชแปงตั้งใจแกล้งกัน
“เอ้อ อย่าให้ที่รักมีแฟนบ้างก็แล้วกัน จะร้องให้ดังไปถึงชั้นล่างเลย!”
เด็กหนุ่มกลับเข้ามาในห้องอย่างโล่งใจ หมดข้อสงสัยในตัวหมอหนุ่มรุ่นพี่
“แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใครวะ โคตรเหมือนพี่หมอตี้เลย หรือว่าเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ อยู่ห้องไหนนะ?”
ที่รักค่อนข้างมั่นใจว่าคงเป็นลูกบ้านคนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามา จึงเลิกสงสัยและตามหา ในเมื่ออยู่ชั้นเดียวกัน สักวันก็คงได้เจอนั่นแหละ แค่ไม่ใช่พี่หมอตี้ที่เป็นแฟนกับพี่โชแปงก็พอ