ตอนที่ 11.2 ความลับที่เขาทั้งสองซ่อนเอาไว้
“พี่หมอตี้”
ที่รักพยายามเรียกสติหมอหนุ่มรุ่นพี่ ยามที่อีกฝ่ายผละไปถอดเสื้อผ้าของตัวเอง แต่มันก็ไม่ได้นำพา อติเทพกลับลงมาทาบทับร่างของเขาอีกครั้งในเวลาอันรวดเร็ว
“ขอนะคะ”
สุ้มเสียงพร่าหวานที่กำลังร้องขอ ทำที่รักลดแรงต่อต้าน ใจหนึ่งอยากจะห้าม แต่อีกใจกลับอยากลิ้มลอง
ผิวกายร้อนรุ่มที่กำลังทาบทับ ขยับไปมาเสียดสีจนรู้สึก ความยับยั้งชั่งใจเริ่มลดเลือนเหลือเพียงน้อยนิด ก่อนจะถูกแผดเผาจนไม่เหลือซากเพราะความต้องการจากก้นบึ้งของหัวใจ
ที่รักตัดสินใจอุทิศร่างกายให้อติเทพได้ดื่มด่ำเพื่อปลดเปลื้องความต้องการและความหมองเศร้า ขอเพียงชายหนุ่มรุ่นพี่มีความสุขแม้เพียงชั่วคืนเขาก็พอใจ เขายอมตามใจอีกฝ่าย รวมถึงยอมตามใจตัวเองให้ทำในสิ่งที่ไม่ควรแม้แต่จะคิด
สองร่างก่ายกอดถ่ายทอดไออุ่นและความเร่าร้อน ที่รักตอบสนองทุกสัมผัสที่อติเทพปรนเปรนและตักตวง พวกเขาลืมแล้วซึ่งความผิดชอบชั่วดี เมื่อคนหนึ่งเพ้อเพราะพิษรักและปริมาณแอลกอฮอล์ ส่วนอีกคนยังหาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้
วันนี้อติเทพยังคงมีสภาพไม่ต่างจากเมื่อวานในความคิดเห็นของพยาบาลสาวหน้าห้องตรวจ แต่ที่ต่างไปก็คือหมอหนุ่มมีท่าทีครุ่นคิด ขมวดคิ้วมุ่นตลอดเวลา และคอยมองหาใครบางคน
“วันนี้หมอเลิฟไม่เอากาแฟมาส่งหมอตี้เหรอคะ?”
พยาบาลสาวเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าวันนี้ที่รักหายหน้าไป ปกติหลังทานอาหารกลางวันก็จะแวะมาหารุ่นพี่พร้อมกับกาแฟหนึ่งแก้วเสมอ
อติเทพก็กำลังกังวลเรื่องนี้อยู่เช่นกัน อยากจะถามให้รู้เรื่องว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น
ชายหนุ่มตื่นมาในตอนเช้าในสภาพเปลือยเปล่าอยู่บนโซฟา เขาจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าโชแปงกลับมาหา และทั้งสองก็ร่วมรักกัน หลังรู้สึกตัวชายหนุ่มก็ตามหาจนทั่วห้อง แต่กลับไม่พบแม้แต่เงาของโชแปง เขากดโทรศัพท์ไปหา ทางนั้นก็ติดต่อไม่ได้เหมือนที่เขารู้มาหลายวันว่าโชแปงเปลี่ยนเบอร์ไปแล้ว
“หรือว่าเราจะฝันไป”
อติเทพได้แต่สงสัย อีกอย่างก็แปลกใจว่าทำไมห้องถึงได้เรียบร้อยเป็นระเบียบ ทั้ง ๆ ที่เขาจำได้ว่าซื้อเบียร์ไปนั่งดื่มเป็นลัง ๆ มันน่าจะเหลือซากอะไรบ้าง
“หรือว่า?”
เขาไม่กล้าคิดว่าบางทีคนที่เขาคิดว่าเป็นโชแปง อาจจะเป็นที่รักก็ได้ ยิ่งรุ่นน้องหายหน้าไปทั้งวัน เขาก็ยิ่งสงสัย
ตกเย็นอติเทพจึงไปดักพบที่รัก แต่กลับพบเพียงปลายฝันที่กำลังเดินออกมาจากหอผู้ป่วย
“พี่หมอตี้” เธอเข้ามาทักหมอรุ่นพี่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ไม่ได้เจอกันหลายวันเลยนะคะ”
“ค่ะ น้องปลายเป็นไงบ้าง วันนี้อยู่เวรเหรอคะ”
“ค่ะ” ปลายฝันยิ้มรับ พลางก็ถามกลับ “แล้วพี่หมอตี้ล่ะคะ นี่อยู่เวรต่อหรือว่ากำลังจะกลับบ้านคะเนี่ย”
“พี่กำลังจะกลับค่ะ ว่าแต่… วันนี้น้องเลิฟอยู่เวรด้วยหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ เห็นว่าจะกลับไปขนของที่ห้องเก่า”
“เหรอคะ” อติเทพยิ้มให้รุ่นน้องสาว พลางก็คุยต่อตามมารยาท “แล้วนี่น้องปลายกำลังจะไปทานข้าวเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ ถ้าพี่หมอตี้ไม่รีบกลับ ไปทานข้าวเป็นเพื่อนปลายหน่อยได้ไหมคะ เลิฟจะรีบอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ทิ้งปลายไปเฉยเลย”
หญิงสาวบ่นเพื่อนรักอย่างไม่จริงจังนัก พลางก็จับสังเกตอาการของอติเทพด้วย
“ไปสิคะ”
อติเทพยอมไปทานข้าวเย็นเป็นเพื่อนปลายฝัน เขาใช้โอกาสนั้นถามถึงที่รักว่าเมื่อคืนรุ่นน้องนอนพักที่ไหน
“ไปนอนที่ห้องใหม่มั้งคะ ปลายขอไปนอนด้วยก็ไม่ยอม ไม่รู้ซ่อนใครไว้หรือเปล่า”
อติเทพพยายามเก็บอาการ แม้จะรู้สึกว่ากำลังถูกจับผิด “ปกติน้องเลิฟชอบซุกใครไว้ในห้องเหรอคะ?”
“ก็…” ปลายฝันทำท่าครุ่นคิดว่าที่ผ่านมาที่รักคบหากับใครมาบ้าง ซึ่งเอาจริง ๆ ก็ไม่ได้มากมาย ส่วนใหญ่เพื่อนของเธอจะมีคนมาชอบเสียมากกว่า “ปลายพูดเล่นน่ะค่ะ เลิฟชอบหลอกว่าซ่อนผู้ชายไว้ในห้อง แต่เวลามีเพื่อนมาขอนอนจริง ๆ ก็หนีมานอนห้องปลายทุกทีเลย”
“อย่างนั้นเหรอคะ” อติเทพแอบระบายลมหายใจออกมา พลางก็ชวนคุยต่อ แต่ก็ไม่พ้นเรื่องของที่รัก “แล้ว ตอนนี้น้องเลิฟคบใครอยู่หรือเปล่าคะ”
ทำเอาปลายฝันถึงกับต้องเอียงคอถามกลับ “เอ… ทำไมดูพี่หมอตี้สนใจเรื่องของเลิฟจังเลยคะ มีอะไรอยากเล่าให้ปลายฟังไหมเอ่ย” เธอดักคอรุ่นพี่อย่างอารมณ์ดี
อติเทพยิ้มแห้ง รีบปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แถมยังพูดติดตลกอีกว่า ใครไม่อยู่ในวงสนทนาก็มักจะถูกนินทาเสมอ
ปลายฝันยิ้มขำ พลางก็ลอบมองใบหน้าหมองคล้ำของรุ่นพี่ ช่วงหลายวันมานี้เธอไม่ได้พบหน้าอติเทพ ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดปกติไป แถมเพื่อนสนิทอย่างที่รักก็ท่าทางมีลับลมคมนัย มีอะไรไม่ยอมเล่าให้เธอฟัง สองคนนี้ต้องมีอะไรปิดบังเธอเป็นแน่